สมการรอคอยกันเลยทีเดียวสำหรับชาวแบล็กโรส (ชื่อแฟนคลับ) ที่เชื่อเสมอตลอด 7 ปีว่าการรอคอยมีความหมาย และการรอคอยครั้งนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เพราะ 4 หนุ่มวง The Rose วงแบนด์ดนตรีที่แฟนๆรอคอยให้มาจัดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยมาโดยตลอด ได้บินลัดฟ้าขนเพลงฮอตฮิตถึง 19 เพลงมาแสดงอย่างจุใจในคอนเสิร์ตแรกในประเทศไทยของ 4 หนุ่ม The Rose [HEAL TOGETHER] WORLD TOUR IN BANGKOK ที่ถูกจัดขึ้นเมื่อ วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม 2566 ณ อัลตร้า อารีน่า ฮอลล์ ชั้น 6 ศูนย์การค้า SHOW DC
The Rose เป็นวงแบรนด์ดนตรีที่ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้ง 4 คน นั่นก็คือ คิมอูซอง (KIM WOO SUNG) หรือ แซม นักร้องนำ/กีตาร์/หัวหน้าวง, พัคโดจุน (PARK DO JOON) หรือ ลีโอ ร้องนำ/คีย์บอร์ด/กีตาร์, อีฮาจุน (LEE HA JOON) กลอง และ อีแจฮยอง (LEE JAE HYEONG) มือเบส โดยทันทีที่ได้มีการประกาศถึงวันจัดคอนเสิร์ตกระแสตอบรับของแฟนๆก็เริ่มร้อนระอุทันที ส่งผลให้หลังเปิดขายบัตรไม่กี่นาทีบัตรก็ SOLD OUT ทุกที่นั่ง การันตีความคิดถึงและพลังรอคอยของแบล็กโรสชาวไทยเป็นอย่างดี
โดยวันงานความอิ่มเอมใจเริ่มต้นจากกิจกรรม Group Photo สุดใกล้ชิด ที่ทำเอาแฟนคลับกรี๊ดนำร่องก่อนดูคอนเสิร์ตไปแล้วหนึ่งสเต็ป ก่อนที่ 4 หนุ่ม The Rose จะเปิดฉากคอนเสิร์ตด้วยบรรยากาศสุดผ่อนคลาย ทักทายแฟนคลับผ่านเสียงดนตรี Intro ของเพลง ~ เปิดโสตสัมผัส ด้วยเสียงธรรมชาติ เป็นสัญญาณเริ่มต้นการเยียวยาทุกสิ่ง จากนั้น อูซอง นักร้องนำและหัวหน้าวงก็ผันตัวกลายเป็นผู้เติมความร้อนแรงให้กับงานในวันนี้ เพียงแค่เปล่งเสียงในท่อนแรกของเพลง Definition of ugly is ก็สะกดแบล็กโรสได้อยู่หมัด ต่อเนื่องกันด้วยเพลง 불면증 (Insomnia) และ She’s in the rain เพลงจากมินิอัลบั้มที่ 2 ซึ่งถึงแม้จะปล่อยมาตั้งแต่ปี 2018 แต่เมื่อได้ฟังสดๆ เพลงนี้ก็ตราตรึงใจของแฟนๆไม่น้อย ก่อนจะอัปฟีลด้วยเพลง Modern Life ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเบรก เพื่อทักทายเหล่าแบล็กโรสไทยอย่างเป็นทางการ
“What’s up Thailand? Hello and Hi!” และ “สวัสดีครับ” นี่คือคำทักทายแรกจากหนุ่มๆ The Rose ก่อนจะแนะนำตัวกันทีละคน โดย อูซอง บอกว่านี่คือการเจอแฟนๆ ชาวไทยครั้งแรกเลย เป็นการเจอที่ใกล้ชิดและอบอุ่นมาก อยากขอบคุณทุกคนที่รอคอยพวกเขามาอย่างยาวนานจริงๆ เมื่อฟีลลิ่งกำลังมาอย่างเต็มที่ 4 หนุ่ม The Rose ก็พาไปสนุกกันต่อไม่ปล่อยให้ขาดตอนกับเพลง California ที่ชวนแฟนคลับร้องตามดังๆ ในท่อน Young and wild ต่อด้วยเพลง I Don’t Know You และ Candy ต่อเนื่องจนถึงเพลงที่หลายๆ คนรอคอยอย่าง RED เพลงตกคนเข้าด้อมอย่างมหาศาล และด้วยความสนุกของท่วงทำนอง ทุกคนจึงกระโดดไปพร้อมกัน แถมเพลงนี้อูซอง ยังเผยความน่ารัก ขี้เล่น พร้อมวาดลวดลายท่าเต้นบนเวที ทำเอาแฟนคลับใจละลายไปตามๆ กัน
พักหายใจมาพูดคุยกันอีกรอบ อูซองก็โชว์สกิลปากหวานชมแบล็กโรสชาวไทยว่าสวยมาก ส่วนโดจุนก็โชว์สกิลนับเลข 1 2 3 และพูดขอบคุณเป็นภาษาไทย แล้วชื่นชมแบล็กโรสไทยว่าเก่งกันมากๆ ที่แม้พวกเขาจะใช้ภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลีสื่อสารสลับไปมาก็ยังสามารถเข้าใจกันอย่างน่าทึ่ง นาทีนี้แฟนๆ อยากตะโกนกลับไปดังๆ ว่ากำแพงภาษาถูกทลายลงเพราะความรักที่มีให้ต่อ The Rose นั่นเอง
ก่อนเข้าช่วงถัดไป The Rose ได้เล่าถึงอัลบั้มล่าสุดของพวกเขา HEAL ที่มาของชื่อคอนเสิร์ต HEAL TOGETHER ซึ่งว่าด้วยเรื่องการเยียวยาหัวใจและสิ่งที่ปลอบประโลมพวกเขา โดยมี 1 เพลงในอัลบั้มที่มีความหมายอย่างมากสำหรับ แจฮยอง นั่นคือเพลง See-Saw เจ้าตัวเล่าว่าเป็นเพลงที่เขาต้องการความช่วยเหลือในช่วงที่ยากลำบาก แต่ในช่วงเวลานี้เขาได้รับความรักจากแฟนๆ รวมถึงจากสมาชิกในวง จึงอยากจะขอบคุณที่รอคอยพวกเขามาเป็นเวลานาน และอยากถ่ายทอดเรื่องราวในช่วงนั้น จึงเขียนเพลงนี้ขึ้นมา
ช่วงแรกของเพลง See-Saw แจฮยอง วางเบสแล้วเปลี่ยนมาจับไมค์ ส่งเสียงร้องทุ้มต่ำ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวผ่านบทเพลง เคล้าไปด้วยเสียงคีย์บอร์ดที่ ฮาจุน พักตีกลองมาร่วมบรรเลงอีกเครื่องดนตรีแทน เป็นการโชว์สกิลดนตรีอันหลากหลายของหนุ่มๆ วงนี้ได้อย่างชัดเจน ก่อนจะจบเพลงนี้ด้วยเสียงประสานของทั้ง 4 หนุ่ม ต่อกันด้วย 3 เพลงแบบไม่หยุด Childhood, ILY, Shift แล้วจึงเปลี่ยนอารมณ์ให้หนักแน่นขึ้นไปอีกกับเพลง Time ที่หลายๆ คนชื่นชอบ ก่อนจะใส่เต็มไม่หยุดในเพลง Yes ที่หนุ่มๆ ฮาจุน กับ แจฮยอง ได้โชว์เสียงร้อง ส่วนอีก 2 หนุ่มเมนร้องอย่าง อูซอง และ โดจุน สลับไปวิ่งสนุกทั่วเวที แถมโดดลงมาพบปะประชาชนให้ได้เห็นความหล่อระยะประชิดตัวกันไปเลย
หากเรามีความสุข ช่วงเวลานั้นจะเดินเร็วจนแทบไม่รู้ตัว และแล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ต หนุ่มๆ The Rose ได้เตรียมเพลงซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของวงเมื่อ 7 ปีที่แล้ว อย่างเพลง Sorry จุดสตาร์ทของทุกสิ่งทุกอย่าง และคือเส้นทางที่ทำให้ได้มาเจอแบล็กโรสทุกคนในวันนี้ ซึ่งเป็นเพลงที่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นมากๆเพราะทั้งศิลปินและแฟนคลับต่างช่วยกันร้องอย่างเต็มที่ ไปต่อกันที่ Beauty and the beast และ Cure ที่เต็มไปด้วยจังหวะกลองแน่นๆ ทำเอาหัวใจเต้นตาม บวกกับเสียงแฟนคลับที่ช่วยร้องกันกระหึ่มยิ่งทำให้เพลงนี้มีพลังสุดๆ จบโชว์ด้วยเพลงฮิตล่าสุดอย่าง Sour แน่นอนว่าท่อน My heart’s so sour without you ยังคงกึกก้อง เปิดสกิลหูทองคำกันระดับสิบเต็ม
เต็มอิ่มประทับใจกันไปทั้งผู้ชมและศิลปิน ยืนยันด้วยประโยคของ โดจุน ที่ว่า “ผมคิดว่าทุกคนคงมีค่ำคืนที่วิเศษกันนะครับ เพราะตัวผมเองรู้สึกวิเศษมากเลยครับ” และไม่เพียงแค่แฟนๆ ที่อยากให้คอนเสิร์ตดีต่อใจแบบนี้วนกลับมาอีกครั้งเร็วๆ สี่หนุ่ม The Rose เองก็เช่นกัน พวกเขาอยากจะกลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง โดยทิ้งท้ายเอาไว้ว่า See you next year!
ยังมีความพิเศษต่อกันอีกนิดในช่วงอังกอร์ที่ The Rose นำมามอบให้เป็นของขวัญตอบแทนการรอคอยอันแสนยาวนานอย่างสุดพิเศษ กับ Black Rose เพลงชื่อเดียวกับชื่อแฟนคลับ ซึ่งทั้ง 4 หนุ่มพร้อมใจกันลงจากเวทีบุกไปหาแบล็กโรสกันถึงที่นั่ง ตั้งแต่แถวหน้าสุดยันท้ายฮอลล์ พร้อมมอบดอกกุหลาบให้เองกับมือ แล้วจึงเก็บภาพความสุขร่วมกัน ซึ่งแบล็กโรสชาวไทยนั้นก็ได้ให้สัญญาผ่านโปรเจ็กต์ข้อความภาษาเกาหลี 여기서 항상 기다릴테니까 꼭 다시 와줘요!! แปลเป็นไทยว่า “จะรออยู่ตรงนี้เสมอ ต้องกลับมาอีกให้ได้นะ” We Rose You!
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡