Tale of the Nine Tailed 1938 เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าคอซีรีส์หลาย ๆ คนคงจะติดใจเรื่องราวแฟนตาซีนี้จากซีซั่นแรกกันมาแล้ว แต่สำหรับซีซั่นใหม่ที่กำลังจะมานี้ จะให้อารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
เรื่องราวใน Tale of the Nine Tailed 1938 (เทพบุตรจิ้งจอกเก้าหาง 1938) ตัวละครหลักอย่าง อียอน (รับบทโดย อีดงอุค) ได้ย้อนกลับไปในปี 1938 ช่วงเวลาที่เกาหลีตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของญี่ปุ่น และได้พบกับผู้คนที่คุ้นเคย อย่างเช่น อีรัง (รับบทโดย คิมบอม) น้องชายของเขา ที่มีความสัมพันธ์แตกต่างจากในยุคปัจจุบันมาก อียอนพยายามหาทางกลับไปสู่ช่วงเวลาปัจจุบัน แต่ระหว่างนั้นเขาก็ได้พบกับเพื่อนเก่าที่ได้แปรเปลี่ยนไปเป็นศัตรู นอกจากจะมีอุปสรรคมากมายที่ขัดขวางไม่ให้เขากลับไปหาคนรักในยุคปัจจุบันแล้ว อียอนยังต้องเผชิญกับบางสิ่งที่มุ่งมั่นจะพรากทุกคนที่เขารักให้จากไป
เพื่อที่จะให้คอซีรีส์ที่รอติดตามชมเรื่องราวในซีซั่นใหม่นี้ ได้เรียกน้ำย่อยชุดใหญ่ เหล่านักแสดงนำ อีดงอุค คิมบอม คิมโซยอน และ รยูคยองซู ได้มีโอกาสมาบอกใบ้เรื่องราว ความสัมพันธ์ของตัวละคร การทำงาน และโมเมนต์เบื้องหลังของซีซั่นใหม่นี้ ผ่านบทสัมภาษณ์ กับ Korseries และสื่อมวลชนในไทย ก่อนจะออกเดินทางย้อนเวลากลับสู่อดีตไปพร้อมกัน!
ในซีซั่นหรือภาคที่แล้วเป้าหมายของอียอนคือการตามหาคนรัก ในภาคนี้เป้าหมายของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ สิ่งที่เขาตามหาในภาคนี้คืออะไร
อีดงอุค: ในเรื่องของความรักเนี่ยสมหวังไปแล้ว และก็ยังคงรักษาความรักเอาไว้อยู่อย่างมั่นคงครับ ส่วนในซีซั่นสอง Tale of the Nine Tailed 1938 เขาจะไม่ได้ต่อสู้เพื่อหญิงสาวที่เขารัก แต่เป็นเพื่อครอบครัว เหล่าเพื่อน และประเทศที่เขารักครับ
ในภาคก่อนผู้ชมต่างชอบเคมีความเป็นพี่น้องของคุณทั้งสองคน ในภาคนี้จะได้เห็นความสัมพันธ์ของอียอนและอีรังเป็นยังไงบ้าง
คิมบอม: ในยุคนั้น อีรังก็ยังคงเกลียดแค้นพี่ชายอยู่ครับ อยู่ในสถานะที่ยังคงมีความเข้าใจผิดเดิมอยู่ แต่จิตใจของผมก็เปลี่ยนไปเพราะอียอนที่รู้เรื่องราวในอนาคต คิดว่าการดำเนินเรื่องน่าจะแตกต่างออกไปจากซีซั่นแรกครับ และจะได้เห็นภาพของพี่น้องสุดเท่ ในชุดที่เข้ากับบรรยากาศของยุคนั้นครับ
ในซีซั่นนี้ มีคุณคิมโซยอน และ คุณรยูคยองซู มาเข้าร่วมด้วย อยากทราบว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณตัดสินใจเข้าร่วมแสดงนำในเรื่องนี้
คิมโซยอน: เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือตัวฉันเองอยากเล่นแนวแฟนตาซีมาก ๆ เลยค่ะ คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสในชีวิตที่ได้เล่นแฟนตาซีที่ตัวฉันได้ลองโบยบินบนท้องฟ้าดู เป็นจุดที่ชอบที่สุดเลยตอนที่ได้รับบทนี้มาค่ะ
รยูคยองซู: ก่อนอื่นของผมเป็นตัวบทครับ บทสนุกมาก อ่านจบเร็วมาก ๆ ส่วนจุดที่ผมกังวลคือต้องเล่นเป็นบทเพื่อนของคุณอีดงอุคและคุณคิมโซยอน กังวลว่าในเชิงของประสบการณ์ผมจะเล่นออกมาได้เข้ากับทั้งสองท่านไหม แต่ผู้กำกับทำให้ผมกล้าและมีความเชื่อ ก็เลยทำให้แสดงออกมาได้มั่นใจมากขึ้นครับ
คุณคิดว่ามีอะไรที่คุณรู้สึก Relate กับตัวละครที่ได้รับ จนเข้าใจความรู้สึกของตัวละครนั้น ๆ และมีอะไรที่แตกต่างมาก จนต้องทำความเข้าใจบ้างไหม
อีดงอุค: ไม่มีส่วนต่างเลยครับ
คิมบอม: จริง ๆ แล้วของผม แตกต่างมากเลยครับ อีรังเป็นคนที่ชอบใช้อารมณ์ แต่ส่วนตัวผมเองเป็นคนใช้เหตุผลครับ ส่วนที่คล้ายกันก็น่าจะจุดที่รักพี่ชายครับ
อีดงอุค: จุดที่อียอนและผมต่างกันคือ อียอนฉลาดกว่าผมมากครับ นอกจากนั้นคล้ายกันเกือบหมดเลยครับ
คิมโซยอน: เป็นคนซึนเดเระค่ะ จุดที่คล้ายกับฮงจูคือเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับความรัก และเป็นคนที่แสดงออกความรักได้เก่ง แต่อาจจะไม่ได้รุนแรงเท่ากับฮงจู ส่วนจุดที่ต่างกันก็คือ ฮงจูเนี่ยเป็นคนที่ชอบแต่งตัวมาก ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย แต่ส่วนตัวแล้วสำหรับฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้น คิดว่าจุดนี้น่าจะต่างกันค่ะ
รยูคยองซู: จุดที่ต่างกันคือตัวละครของผมมีพลังใช้ไฟได้ แต่ผมใช้ไฟไม่ได้ครับ ใช้ได้แต่ไฟเตาแก๊สที่บ้าน ส่วนจุดที่คล้ายกันคือ ชอนมูยองเขาอยู่คนเดียว ผมเองก็อยู่คนเดียวเหมือนกัน แล้วก็ชอนมูยองเป็นคนที่ร้องไห้เก่งมาก ผมเองก็ร้องไห้เก่งเหมือนกันครับ คิดว่าเป็นจุดที่คล้ายกันครับ
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเหล่าเทพและสัตว์ในตำนาน อยากทราบว่ามีความยากหรือความท้าทายอะไรบ้างไหม ที่ต้องมารับบทเป็นที่เหนือธรรมชาติเช่นนี้
คิมบอม: สำหรับผม ตั้งแต่ในซีซั่น 1 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคูมีโฮในร่างจิ้งจอกพื้นเมืองเกาหลี ผมเลยดูสารคดีเกี่ยวกับจิ้งจอกพื้นเมืองเกาหลี ดูว่าจุดนี้น่าจะเอามาใช้ในฉากแอ็คชั่นได้ อย่างเช่น มนุษย์จะใช้การต่อยกัน แต่อันนี้จะเป็นการข่วนกันแทน จะใส่ใจในเรื่องแบบนี้ครับ
อีดงอุค: เนื่องจากคาแรคเตอร์ของผมไม่ได้ต้องเล่นเป็นตัวสัตว์จริง ๆ ผมเลยไม่ได้โฟกัสในส่วนนั้นครับ ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราอินไปกับโลกที่นักเขียนสร้างขึ้นมาให้ได้มากแค่ไหน สิ่งที่สำคัญสำหรับซีรีส์แนวแฟนตาซีคือการที่นักแสดงและผู้ผลิตต้องสามารถทำให้คนดูเชื่อได้ ผมจะคอยคิดว่าผมจะแสดงออกมาเหมือนกับคูมีโฮที่มีชีวิตมานานกว่า 1,600 ปีจริง ๆ ไหม มีคุณสมบัติ ความเฉลียวฉลาด และการแสดงแอ็คชั่นพวกนั้นได้ไหม
คิมโซยอน: อีกหนึ่งเหตุผลที่ฉันเลือกแสดงละครเรื่องนี้ก็คือ ตัวละครของฉันจริง ๆ แล้วเป็นนกเค้าอินทรีค่ะ เป็นจุดที่สนุกและมีเสน่ห์มาก ๆ ตัวฉันเองก็ได้ไปหาสารคดีเกี่ยวกับนกเค้าอินทรีดูเหมือนกัน ก็เลยอยากจะลองแปลงร่างเป็นนกเค้าอินทรีในละครดูสักครั้ง ฝากทุกคนช่วยรอติดตามดูว่าฉันจะได้แปลงร่างหรือไม่นะคะ
รยูคยองซู: ผมคิดว่ายังไงก็คงต้องใช้การจินตนาการเอาครับ เพราะเป็น CG ด้วย อย่างเวลาที่มีไฟออกมาจากมือผม ในความเป็นจริงมันไม่ได้มีไฟออกมาใช่ไหมล่ะครับ ต้องเอาไปทำ CG คอมพิวเตอร์กราฟิคต่อทีหลัง ทำให้บางครั้งก็เกิดสถานการณ์ที่ทำให้เขินอายอยู่เหมือนกัน แต่ผมก็ต้องสะกดจิตตัวเองครับ เพราะผมต้องเชื่อในสิ่งนี้ก่อน เหมือนกับที่พี่ดงอุคพูดเมื่อกี้ว่าเราต้องทำให้คนดูเชื่อให้ได้ครับ
ซีรีส์ภาคต่อครั้งนี้ย้อนเวลาไปไกลในปี 1938 อยากรู้ว่ามีอะไรสนุก ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำในฉากย้อนอดีตเหล่านี้มาเล่าให้ฟังบ้างไหม
คิมบอม: สำหรับผมอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำแปลกใหม่มากเลยครับ ในฉากแอ็คชั่นก็เหมือนกัน ไม่ได้ใช้อาวุธที่ผมใช้อยู่ก่อนหน้านี้ แต่เปลี่ยนรูปทรงให้เหมาะกับยุคนั้น และไม่ใช่ฉากแอ็คชั่นที่ใช้รถยนต์แต่เป็นการขี่ม้าแทน หรือไม่ก็พวกปืนที่ใช้ได้แค่ในยุคนั้น ผมได้ยินมาว่าปืนที่ผมใช้ในฉากที่อยู่ใน trailer เป็นปืนที่ใช้จริง ๆ ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้แปลกใหม่มากเลยครับ
อีดงอุค: ทีมศิลปะของพวกเราสร้างฉากถ่ายทำกลางแจ้งที่สุดยอดมาก ๆ เพื่อที่จะสร้างภาพบรรยากาศของปีค.ศ. 1938 ออกมา เวลาที่ได้เข้าไปแสดงในฉากนั้น ทำให้รู้สึกราวกับว่าได้ไปในยุคนั้นจริง ๆ เลย ทีมศิลปะของพวกเราทุ่มเทกันมากจริง ๆ ครับ และส่วนอื่น ๆ ก็ต้องเติมเต็มต่อด้วย CG ซึ่งตอนนี้ทีม CG ของพวกเราก็กำลังทุ่มเทกันมากเช่นกันครับ ในระหว่างการถ่ายทำรู้สึกขอบคุณสตาฟมาก ๆ เลยครับ
คิมโซยอน: สำหรับฉัน ความประทับใจและความพิเศษของฉากและบรรยากาศในยุคนั้นก็คล้ายกับที่สองท่านได้พูดไปก่อนหน้าค่ะ และเนื่องจากเป็นซีรีส์แนวแฟนตาซี นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้ไปกองถ่ายที่มี ฉาก Green Screen Chroma key อยู่ล้อมรอบทั้งสี่ด้าน รู้สึกว่ามันพิเศษและสนุกมาก ประทับใจมาก ๆ ค่ะ
รยูคยองซู: เรามีถ่ายกันที่ต่างจังหวัดเยอะเพราะฉากและบรรยากาศในเรื่องเป็นช่วงเวลาในอดีต ทำให้รู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวด้วย และตอนนั้นมีทั้งฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาวหมดเลยใช่ไหมครับ ได้ชมวิวธรรมชาติของทั้งสี่ฤดู และผมคิดว่าในผลงานชิ้นนี้มีภาพความสวยงามของธรรมชาติในเกาหลีอยู่เยอะมากเลยครับ
หลังจากที่ได้แสดงในซีซั่นใหม่นี้ แต่ละคนได้เรียนรู้อะไรจากตัวละครที่ถ่ายทอดบ้าง
คิมบอม: ได้รู้จักและเรียนรู้เกี่ยวกับยุค ค.ศ. 1938 ที่เป็นฉากหลังของซีรีส์เรื่องนี้มากขึ้นครับ ถึงแม้ว่าตัวละครของพวกเราจะไม่ได้มีอยู่จริง แต่ทีมงานและนักเขียนของเราก็มีการค้นคว้าอย่างมาก เพื่อที่จะแสดงภาพของยุคนั้นออกมาให้ได้สมจริงที่สุด ในมุมของพวกเราที่เป็นนักแสดงก็เช่นกัน ก็ได้ศึกษาเกี่ยวกับยุคนั้นมากขึ้นครับ
อีดงอุค: ส่วนตัวแล้วเป็นครั้งแรกสำหรับผมที่ได้เล่นผลงานที่มีซีซั่นต่อมาแบบนี้ ผมก็ได้ศึกษาว่าจะต้องดำเนินเรื่องต่อไปยังไง ด้วยวิธีไหนดี ถ้าเกิดว่า Tale of the Nine Tailed 1938 มีซีซั่นต่อไปอีก ผมคิดว่าทั้งตัวผมเอง ผู้กำกับและนักเขียนน่าจะมีเคล็ดลับต่าง ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการผลิตผลงานที่ดียิ่งกว่านี้ได้อีกครับ
คิมโซยอน: สำหรับฉันในช่วงที่อ่านบทก็สนุกมาก ๆ ได้เรียนรู้และศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับตำนานเทพนิยายของเกาหลี หวังว่าผู้ชมจะได้รู้ว่าตำนานของเกาหลีมีส่วนที่สนุกเยอะขนาดนี้เลยค่ะ
รยูคยองซู: ในบรรดาผลงานที่ผมแสดงมาจนถึงตอนนี้มีแอ็คชั่นผสมอยู่เล็กน้อย แต่ต่อให้รวมฉากแอ็คชั่นทั้งหมดที่ผมแสดงมา ก็ยังไม่เยอะเท่าฉากแอ็คชั่นในผลงานชิ้นนี้ครับ เลยได้เรียนรู้เกี่ยวกับแอ็คชั่นเยอะมากครับ พอได้ลองแสดงดูแล้วก็สนุกมาก รู้สึกว่ายิ่งได้แสดงก็ยิ่งพัฒนามากขึ้น คิดว่าเล่นแอ็คชั่นได้ดีมากขึ้นครับ
คอซีรีส์สามารถติดตามรับชมซีรีส์ Tale of the Nine Tailed 1938 (เทพบุตรจิ้งจอกเก้าหาง 1938) ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เริ่มตอนแรก 6 พฤษภาคมนี้ ที่ Prime Video
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำความรู้จักกับ 4 สัตว์ในตำนาน ที่ถูกเล่าขานอย่างน่าสนใจ ในเรื่อง Tale of the Nine Tailed
เกร็ดซีรีส์ | ความเชื่อเรื่องนรก 10 ขุมที่ปรากฏในซีรีส์ Tale Of The Nine Tailed
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡