ซอฮยอน SNSD หรือชื่อจริงคือ ซอจูฮยอน น้องเล็กแห่งวงเกิร์ลกรุ๊ประดับตำนาน Girls’ Generation อีกหนึ่งศิลปินที่เราเป็นหน้าค่าตามาเป็นเวลามากกว่า 16 ปีในวงการบันเทิง จากนักร้องเสียงหวานผู้มาพร้อมรอยยิ้มสดใส สู่นักแสดงผู้โลดแล่นบนจอเงินและจอแก้วผ่านหลากหลายบทบาท เรียกได้ว่าเติบโตมาอย่างงดงามจริง ๆ โดยเฉพาะผลงานล่าสุดอ Song of the Bandits ซีรีส์แอคชั่นย้อนยุคที่เธอทุ่มสุดตัวในการถ่ายทอดตัวละคร นัมฮีชิน สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างยิ่ง
เห็นดังนี้แล้ว Korseries จึงขอพาทุก ๆ คนย้อนมาส่องเส้นทางการแสดงของ ซอฮยอน ผ่านผลงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา ที่รับรองว่า จัดมาทุกรส ครบทุกบทบาทอย่างแน่นอน! มารู้จักและตกหลุมรักนักร้องนักแสดงมากความสามารถคนนี้ ผ่านบทความ SPOTLIGHT ของเราไปพร้อม ๆ กันนะคะ 🤍
ซอจูฮยอน (Seo Ju Hyun / 서주현) หรือที่รู้จักกันในนาม ซอฮยอน SNSD (Seohyun / 서현) เกิดวันที่ 28 มิถุนายน ปี 1991 เป็นนักร้องและนักแสดงชาวเกาหลี ที่เข้าวงการในปี 2007 จากการเดบิวต์ในฐานะสมาชิกน้องเล็กของวงเกิร์ลกรุ๊ป Girls’ Generation และสร้างผลงานเพลงที่เป็นตำนานมากมาย รวมถึงได้รับความรักอย่างล้นหลามจากแฟน ๆ มาจนถึงปัจจุบัน 💖
ในขณะที่ผลงานเพลงเป็นที่โดดเด่น ผลงานด้านการแสดงของเธอเองก็ไม่แพ้กัน โดย ซอฮยอน ประเดิมงานแสดงแรกผ่านบทบาทเล็ก ๆ ในซีรีส์ Passionate Love ปี 2013 อย่าง ฮันยูริน นักศึกษาสัตวแพทย์และรักแรกของพระเอก นับเป็นก้าวแรกสู่เส้นทางนักแสดง ก่อนจะตามมาด้วยการปรากฏตัวพิเศษทั้งในภาพยนตร์เรื่อง My Brilliant Life ปี 2014 และในปี 2015 กับซีรีส์ถึง 2 เรื่อง นั่นคือ The Producer และ Warm and Cozy
ซอฮยอน ได้พัฒนาทั้งฝีมือการร้องเพลงและการแสดงที่เธอรัก ผ่านการมิวสิคัลหลากหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Moon Embracing the Sun , Gone With the Wind และ Mamma Mia! ในเวอร์ชั่นเกาหลี ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม ไม่เพียงเท่านี้ เพราะ ซอฮยอน ยังได้ร่วมพากย์เสียงภาษาเกาหลีให้กับภาพยนตร์แอนิเมชันดังอย่าง Despicable Me 1-2 ในบทบาท Edith อีกด้วย
ต่อมาในปี 2016 ผลงานการแสดงของ ซอฮยอน ก็โดดเด่นมากยิ่งขึ้น โดยเธอได้รับบทบาทสมทบทั้งในภาพยนตร์จีนเรื่อง So, I Married My Anti-fan และซีรีส์เรื่อง Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo กับบท อูฮี องค์หญิงองค์สุดท้ายผู้เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ แต่กลับมีชะตากรรมที่โหดร้าย ประกบคู่กับ นัมจูฮยอก และบทบาทนี้ยังพา ซอฮยอน คว้ารางวัล 2016 SBS Drama Awards สาขา Special Acting Award, Actress in a Fantasy Drama ไปครอง นอกจากนี้ เธอยังได้ปรากฏตัวในซีรีส์เรื่อง Weightlifting Fairy Kim Bok Ju
กราฟนักแสดงของ ซอฮยอน ยกระดับขึ้นอีกขั้นในปี 2017 เมื่อเธอได้รับบทนำเต็มตัวในเว็บดราม่าเรื่อง Ruby Ruby Love กับบท อีรูบี้ หญิงสาวอัจฉริยะผู้หวาดกลัวการเข้าสังคม จนกระทั่งเธอได้พบแหวนมหัศจรรย์และทำให้เธอกลายเป็นนักออกแบบเครื่องประดับผู้ประสบความสำเร็จ
หลังจากได้ชิมลางการรับบทนำในเว็บดราม่าแล้ว ซอฮยอน ก็ได้รับบทนำบนจอแก้วเป็นครั้งแรก กับซีรีส์เรื่อง Bad Thief, Good Thief ถ่ายทอดเรื่องราวของกลุ่มโจรที่พยามโจมตีกลุ่มคนรวยที่มีอิทธิพลและต้องการควบคุมประเทศในทางผิดกฏหมาย โดยรับบทเป็น คังโซจู ตำรวจหญิงผู้ผันตัวมาเป็นสายสืบเพื่อต่อกรกับการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ นับเป็นการประเดิมบทบาทนำด้วยตัวละครที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
และในปี 2018 เธอก็มีผลงานการแสดงให้ดูอย่างต่อเนื่อง กับซีรีส์แนวเมโลดราม่าเรื่อง Time ว่าด้วยชายหนุ่มผู้ย้อนเวลามาแก้ไขอดีตในห้วงสุดท้ายของชีวิต โดย ซอฮยอน รับบทเป็น ซอลจีฮยอน หญิงสาวผู้เคยสดใสและมองโลกในแง่ดี จนกระทั่งเธอต้องกลายมาเป็นเสาหลักเดียวของบ้านและซึมเศร้าลงนับตั้งแต่วันเสียชีวิตของน้องเธอ
หลังจากเซ็นสัญญากับต้นสังกัด NAMOO Actors เป็นนักแสดงเต็มตัว ปี 2020 เราก็ได้เห็นผลงานการแสดงของ ซอฮยอน ถึง 2 บทบาท นั่นคือในซีรีส์สั้นเรื่อง Hello Dracula กับเรื่องราวของ จีอันนา ครูสอนโรงเรียนประถมผู้มีปมบาดหมางกับทางบ้านนับตั้งแต่วันที่เธอเปิดตัวว่าเป็นเลสเบี้ยน ทั้งยังได้แยกทางกับแฟนสาวมาเป็นเวลา 8 ปีแล้ว
และอีกบทบาทในซีรีส์โรแมนติก-อาชญากรรมเรื่อง Private Lives เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนักต้มตุ๋นที่เข้าไปเกี่ยวพันกับประเด็นความลับระดับชาติ และพยายามที่จะเปิดเผยความลับเหล่านั้น โดยพวกเขาต้องต่อสู้กับบริษัทขนาดใหญ่ด้วยทักษะทั้งหมดที่ตัวเองมี ซึ่ง ซอฮยอน รับบท ชาจูอึน เป็นนักต้มตุ๋นมืออาชีพที่หลอกลวงผู้คนเพื่อที่จะมีชีวิตรอด เรียกได้ว่าเป็นสองบทบาทที่ดึงทักษะการแสดงของเธอออกมาได้อย่างดีเยี่ยม
และกลับมาอีกครั้งในปี 2022 ซอฮยอน ก็ได้รับบทนำทั้งในซีรีส์และรวมไปถึงภาพยนตร์ด้วย! นั่นคือภาพยนตร์ออริจินัล Netflix เรื่อง Love And Leashes เรื่องราวแนวโรแมนติก คอมเมดี้ เกี่ยวกับหนุ่มออฟฟิศสุดเนี้ยบที่เก็บรสนิยมทางเพศแบบ BDSM ของตัวเองเอาไว้เป็นความลับ จนกระทั่งเพื่อนร่วมงานสาวบังเอิญล่วงรู้ความลับของเขาเข้า ทั้งสองจึงได้ตกลงทำสัญญาความสัมพันธ์ในรูปแบบนายหญิง-ทาสชาย ซึ่ง ซอฮยอน รับบทเป็น จองจีอู นายหญิงคนนั้นนั่นเอง นับเป็นอีกบทบาทที่ท้าทายเป็นอย่างมาก
ตามมาติด ๆ กับซีรีส์ที่สร้างจากเว็บตูนเรื่อง Jinxed at First ถ่ายทอดเรื่องราวแฟนตาซี-โรแมนซ์ ระหว่างชายหนุ่มผู้แสนอับโชค และ เทพธิดาแห่งโชคลาภ ที่ก้าวเข้ามาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงเพื่อทำลายคำสาป โดย ซอฮยอน รับบทเป็น อีซึลบี หญิงสาวผู้มีความสามารถลึกลับในการมองเห็นอนาคตของผู้คนที่เธอสัมผัสตัว โดยเธอเติบโตมาจากถูกขังอยู่ในห้องลับ จนกระทั่งหนีออกมาได้และได้พบกับ กงซูกวัง (รับบทโดย นาอินอู) บังเอิญเป็นเรื่องราวเหนือความคาดหมายไม่รู้จบ
และแล้วก็มาถึงปี 2023 นี้ ที่ ซอฮยอน พลิกมาแสดงในซีรีส์แอคชั่นย้อนยุคเรื่อง Song of the Bandits ที่มีฉากหลังเกิดขึ้นในปี 1920 ซึ่งผู้คนชาวเกาหลีพยายามต่อสู้เพื่อปกป้องที่ดิน ครอบครัว และพวกพ้องของพวกเขา ในช่วงเวลาที่เกาหลีตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของญี่ปุ่น โดยรับบท นัมฮีชิน นักเคลื่อนไหวอิสระที่สู้เพื่อเอกราช ไปพร้อม ๆ กับการปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง เป็นอีกบทบาทที่เราได้เห็น ซอฮยอน ทุ่มสุดตัวเพื่อถ่ายทอดออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ
แม้ว่าซีรีส์เรื่อง Song of the Bandits จะอำลาจอไปอย่างงดงามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลากหลายผลงานของ ซอฮยอน ที่จ่อคิวรอให้เราได้ติดตาม ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์แอคชั่นแฟนตาซีไล่ล่าปีศาจเรื่อง Holy Night: Demon Hunters ร่วมงานกับนักแสดงแนวหน้า มาดงซอก ตลอดจนภาพยนตร์เรื่อง Seeking the King บอกได้เลยว่า ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!
ระหว่างรอชมผลงานใหม่ ๆ หรือไล่ตามเก็บผลงานเก่า ๆ อยู่นั้น สามารถติดตามความสวยของ ซอฮยอน ได้ทาง Instagram ส่วนตัว @seojuhyun_s รวมถึงความน่ารักของน้องโป๊ะโป๊ะ สุนัขแสนรักได้ทาง Instagram @chuchu_ss 🐶 แล้วมามอบความรักให้กับ ซอฮยอน กันเยอะ ๆ นะคะ 🌷
บทความที่เกี่ยวข้อง
ส่องประวัติ – ผลงาน ของ ซอฮยอน (Seohyun)
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡