เรตติ้งพุ่งกระฉูดไม่หยุดกับ The Story of Park’s Marriage Contract ซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้เล่าเรื่องราวของหญิงสาวยุคโชซอนที่ข้ามเวลามาโลกปัจจุบันและได้เจอกับสามีของเธอที่เสียชีวิตไปแล้ว ผลงานล่าสุดของนักแสดงสาว อีเซยอง (Lee Se Young) ที่หลายคนอาจจะรู้จักเธอจากซีรีส์ย้อนยุคน้ำดีอย่าง The Red Sleeve (2021) ในปีนี้เธอกลับมาเฉิดฉายเตรียมทวงตำแหน่งเจ้าแม่เรตติ้งอีกครั้ง แต่กว่าจะเป็นนักแสดงอีเซยองที่โดดเด่นขนาดนี้ เธอมีผลงานอะไรมาบ้าง วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นผ่านบทความ SPOTLIGHT นี้กัน
อีเซยอง (Lee Se Young / 이세영) เกิดวันที่ 20 ธันวาคม 1992 อายุ 31 ปี เริ่มต้นเข้าสู่วงการในฐานะนักแสดงเด็กตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ผลงานแรกของเซยองคือซีรีส์ Brothers’ River ในปี 1997 ปัจจุบันเธออยู่ภายใต้สังกัด Prain TPC ร่วมกับนักแสดงดังอย่าง รยูซึงรยง คิมมูยอล โอจองเซ และอีจุน
หลังจากผลงานเดบิวต์ เธอก็เดินหน้าในฐานะนักแสดงเด็กอย่างต่อเนื่อง โดยปรากฎตัวในซีรีส์กว่า 15 เรื่อง เช่น Promise (1999), Foolish Princes (2001), My Love Patzzi (2002), Country Princess (2003), Land of Wine (2003) และในปี 2003 เซยองก็เริ่มเป็นที่รู้จักจากซีรีส์ Jewel in the Palace หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ แดจังกึม โดยเธอแสดงเป็นนักแสดง ฮงรีนา ในวัยเด็กกับบทบาท กึมยอง คู่แข่งคนสำคัญของแดจังกึม
ในปี 2004 เซยองก็ได้เดบิวต์จอเงินกับภาพยนตร์ Dance With Solitude และได้รับบทนำเต็มตัวในภาพยนตร์ Lovely Rivals กับบท โกมีนัม นักเรียนประถมสุดแสบ ต่อด้วยภาพยนตร์ When I Turned Nine กับบท จางอูริม ลูกคุณหนูจอมหยิ่ง ผลงานเหล่านี้ทำให้เธอเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจมากขึ้น เธอสามารถถ่ายทอดบทบาทของตัวละครที่มีลักษณะนิสัยตรงกันข้ามกับบุคลิกส่วนตัวของเธอออกมาได้เป็นอย่างดี ทำให้เธอได้รับคำชมถึงทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมด้วยวัยเพียง 12 ปี
ในปี 2005 เธอมีผลงานซีรีส์ Shower ที่สร้างจากนวนิยายชื่อดัง เล่าถึงความรักอันบริสุทธิ์ระหว่างเด็กหนุ่มและเด็กสาวคู่หนึ่ง ผลงานนี้ทำให้เซยองได้รับรางวัล Best Young Actress จากเวที 2005 KBS Drama Awards เป็นรางวัลแรกในฐานะนักแสดงเด็ก และยังมีซีรีส์ Single Again และ Sisters of the Sea ก่อนที่เธอจะหยุดพักงานแสดงเพื่อไปโฟกัสด้านการเรียนเป็นเวลา 2 ปี
ปี 2007 เธอกลับมาด้วยผลงานซีรีส์ High Kick! และภาพยนตร์ The Wonder Years เล่าเรื่องราวของเด็กสาววัย 13 ปีที่อยู่ในช่วงกำลังก้าวผ่านเข้าสู่วัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อนและต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเธอรับบทเป็น ซูอา เด็กประถมที่เงียบและเก็บตัว เซยองเคยให้สัมภาษณ์ว่าบทบาทนี้ค่อนท้าทายและแตกต่างจากผลงานที่ผ่านมา แต่ก็ทำให้เธอได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองไปอีกขั้น พร้อมกับบอกว่าเป็นภาพยนตร์สำคัญที่เธอจะไม่มีวันลืม
ในปี 2008 เซยองมีผลงานละครซิทคอมเรื่อง Elephant ก่อนที่จะหยุดพักอีกครั้งเพื่อเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย และในที่สุดเธอก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยสตรีซองชิน สาขาสื่อและการแสดงภาพยนตร์ได้สำเร็จในปี 2011 และในปีเดียวกันเซยองก็กลับมากับภาพลักษณ์ที่เติบโตขึ้น เธออยากให้ผู้ชมจดจำเธอในฐานะนักแสดงสาวมากกว่านักแสดงเด็ก โดยผลงานคัมแบคของเธอคือบทบาท ชาบงฮี ใน Yeongdeok Women’s Wrestling Team หนึ่งในซีรีส์สั้นจาก KBS Drama Special 2011
เซยองทุ่มเทกับการเรียนในมหาวิทยาลัยและมุ่งมั่นในด้านการแสดงไปพร้อมๆ กัน โดยระหว่างนี้เธอก็มีผลงานอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าเป็นภาพยนตร์ อาทิ Grape Candy (2012), Horror Stories 2 (2013), Hot Young Bloods (2014) หรือซีรีส์ในหลากหลายแนว อาทิ Dream of the Emperor (2012), Missing You (2012), Puberty Medley (2013), Trot Lovers (2014) เซยองได้รับคำชมมากมายเกี่ยวกับทักษะการแสดงที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเสน่ห์ชวนหลงรักที่ไม่ต่างจากตอนที่เธอเป็นนักแสดงเด็ก เรียกได้ว่าเธอเติบโตมาอย่างดีเลยทีเดียว
หลังจากจบการศึกษา เซยองก็เดินหน้าสร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง ในปี 2016 เธอเปลี่ยนลุคเป็นสาวเท่ในบท ฮันคยออุล ในซีรีส์แฟนตาซีแอคชั่น Vampire Detective ต่อด้วยซีรีส์ชวนอบอุ่นหัวใจ The Gentlemen Of Wolgyesu Tailor Shop ในบทบาท มินฮโยวอน หญิงสาวผู้ร่าเริง เซยองสามารถดึงเอาบุคลิกน่ารักสดใสของเธอมาผสมผสานกับตัวละครฮเยวอนได้อย่างลงตัว แถมเคมีกับนักแสดงหนุ่ม ฮยอนอู ก็ยังน่ารักไม่แพ้กัน ทำให้เธอคว้ารางวัล Best Couple Award และ Female Rookie Award จากเวที 2016 KBS Drama Awards พร้อมกับรางวัล Best New Actress จากเวที 2017 (53rd) BaekSang Arts Awards ไปครองได้สำเร็จ ผลงานนี้ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงสาวอย่างเต็มตัว
เซยองยังคงลุยต่อแบบไม่หยุดพัก กับซีรีส์ The Best Hit (2017), A Korean Odyssey (2017) และภาพยนตร์ Duck Town (2018) ก่อนที่จะเริ่มต้นปี 2019 ด้วยซีรีส์ย้อนยุคดราม่าสุดเข้มข้น The Crowned Clown ในบท พระมเหสีโซอุน ราชินีผู้สง่าแต่กลับมีชีวิตที่แสนเศร้า
ต่อด้วยผลงานที่สร้างชื่อให้เธออย่าง Doctor John เล่าถึงชีวิตการทำงานของวิสัญญีแพทย์ที่หลายคนไม่เคยรับรู้มาก่อน โดยเซยองรับบทเป็น คังชียอง วิสัญญีแพทย์ที่ล้มเลิกการเป็นแพทย์หลังเผชิญกับปมชีวิตครั้งใหญ่ จนได้มาเจอกับ ชาโยฮัน (รับบทโดย จีซอง) วิสัญญีแพทย์ฝีมืออัจฉริยะ เธอจึงตัดสินใจกลับมาทำงานอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นผลงานแนวการแพทย์เรื่องแรกของเธอ แต่เธอก็ทำได้อย่างดีเยี่ยมไร้ที่ติ และสามารถคว้ารางวัล Excellent Actress จากเวที 2019 SBS Drama Awards ไปครองได้สำเร็จ
ปี 2020 เธอยังคงโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลงานทั้งหมด 3 เรื่องด้วยกัน เริ่มต้นด้วยซีรีส์สืบสวนปมมหาศาล Memorist, ซีรีส์ข้ามเวลาสุดเข้มข้น Kairos และภาพยนตร์ระทึกขวัญสั่นประสาท Lingering ซึ่งแต่บทบาทในแต่ละเรื่องนั้นนับว่ายากและท้าทายไม่น้อย บวกกับพล็อตเรื่องสุดโหดด้วยนั้นทำให้เซยองได้รับคำชมถึงทักษะการแสดงที่พัฒนาขึ้นไปอีกระดับ
มาถึงปีทองของเซยองในปี 2021 กับบทบาท ซองด็อกอิม นางในผู้เฉลียวฉลาดและเชื่อมั่นในตัวเอง ในซีรีส์ย้อนยุค The Red Sleeve เล่าถึงสงครามการเมืองในราชสำนัก และเรื่องราวของ กษัตริย์จองโจ (รับบทโดย อีจุนโฮ) ที่หลงรักซองด็อกอิมและต้องการให้เธอมาเป็นนางสนมแต่กลับถูกปฏิเสธเพราะเธอเพียงแต่ต้องการอิสระมากกว่าการต้องถูกตีกรอบอยู่ในวัง
ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมจนต้องประกาศเพิ่มอีก 1 ตอน แถมเรตติ้งยังพุ่งสูงถึง 17.4% และกวาดถ้วยจากเวที 2021 MBC Drama Awards ไปถึง 8 รางวัลเลยทีเดียว โดยเซยองคว้ารางวัล Best Couple (ร่วมกับ อีจุนโฮ) และ รางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม สาขามินิซีรีส์ พร้อมยังถูกเสนอชื่อเข้าชิง รางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม จากเวที 58th Baeksang Arts Awards อีกด้วย ผลงานนี้ส่งให้เธอขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในนางเอกซุปเปอร์สตาร์ของวงการ พร้อมกับฉายา ‘ซากึกควีน’ หรือ ‘ราชินีซีรีส์ย้อนยุค’
ไปต่อกันในปี 2022 เซยองกลับมาแจกความสดใสอีกครั้งในซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ The Law Cafe กับบทบาท คิมยูริ ทนายความสาวสวยอดีตมิสโคเรีย ประกบคู่กับ อีซึงกิ บอกเล่าเรื่องราวโรแมนติกของเพื่อนวัยมัธยมที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และความวุ่นวายในวงการกฎหมาย
มาถึงผลงานล่าสุดที่เรตติ้งกำลังพุ่งอย่างต่อเนื่องกับ The Story of Park’s Marriage Contract เล่าถึง พัคยอนอู (รับบทโดย อีเซยอง) หญิงสาวจากยุคโชซอนที่โผล่มาอยู่ในศตวรรษที่ 21 และได้เจอกับ คังแทฮา (รับบทโดย แบอินฮยอก) ชายที่หน้าเหมือนสามีของเธอที่จากไปแล้วอีกครั้ง เรื่องราววุ่นๆ จึงเกิดขึ้น ตอนนี้ซีรีส์ดำเนินมาถึงครึ่งทางพร้อมกับเรตติ้งที่ใกล้แตะสองหลักเข้าไปทุกที เรื่องราวกำลังสนุกสนานเข้มข้นและเคมีกับ อินฮยอก ก็ลงตัวสุดๆ บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ สามารถรับชมความรักสุดวุ่นวายได้แล้วทุกวันศุกร์และเสาร์ทาง Viu Original
ความฮอตของเซยองยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ล่าสุดเธอได้คอนเฟิร์มร่วมงานกับ เคนทาโร่ ซากางุจิ นักแสดงหนุ่มขวัญใจชาวญี่ปุ่นในซีรีส์ ‘What Comes After Love’ ถ่ายทอดรักโรแมนติกของสาวเกาหลีกับหนุ่มญี่ปุ่น ซึ่งยังไม่ระบุตารางการออกอากาศ มาตั้งตารอผลงานที่น่าตื่นเต้นนี้ไปด้วยกันนะคะ ส่วนใครที่โดนตกจากความน่ารักสดใสของเซยอง สามารถติดตามเธอได้ทาง Instagram ส่วนตัว @seyoung_10 ได้เลยค่ะ 💕
บทความที่เกี่ยวข้อง
ส่องประวัติ – ผลงาน ของ อีเซยอง (Lee Se Young)
อีเซยอง เผยความรู้สึกถึงฉายา ‘ซากึกควีน’ – การถ่ายทอดในซีรีส์ The Red Sleeve ที่ทำให้เธอประทับใจ
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage :facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website :korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡