คอลัมน์ SPOTLIGHT คราวนี้ขอพาแฟนๆ คอซีรีสมาทำความรู้จักกับ คิมซอนโฮ (Kim Seon-ho) นักแสดงหนุ่มหล่อ เจ้าของรอยยิ้มที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักและหัวใจละลายไปตาม ๆ กัน ซึ่งบทบาทของเขา ฮันจีพยอง ในเรื่อง Start-Up ซีรีส์ผลงานออริจินัลเน็ตฟลิกซ์เรื่องล่าสุด มีดีกรีเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่มาในมาดหล่อเนี้ยบแต่ปากไม่ตรงกับใจ เชื่อว่าใครที่ดูแล้วคงจะโดนตกกันแล้วใช่ไหมล่ะคะ ที่ต้องรีบหยิบประวัติของนักแสดงหนุ่มคนนี้มาเล่าให้ฟัง เพราะบรรดาคอซีรีส์ทั้งหลายต่างให้ความเห็นตรงกันว่า ตำแหน่งท็อปสตาร์ไม่ได้อยู่ไกลเกินว่าที่คิมซอนโฮจะคว้ามาได้เลย
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ชาวเราคิดเช่นนั้น ก็เป็นเพราะตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง คิมซอนโฮ มีโอกาสร่วมแสดงในงานหลากหลายแนว แต่ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน เขาก็เฉิดฉายและพัฒนาทักษะทางการแสดงได้ดีขึ้นทุกครั้ง แถมยังมีทักษะในรายการวาไรตี้ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
คิมซอนโฮ เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ปี 1986 ปัจจุบันอายุ 34 ปี (นับแบบสากล) เป็นนักแสดงภายใต้การดูแลของ SALT Entertainment (ต้นสังกัดเดียวกับ พัคชินฮเย คิมจีวอน คิมจูฮอน) เขาจบการศึกษาจาก Seoul Institute of The Arts สาขา Broadcasting และเข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกเมื่อปี 2009 ในฐานะนักแสดงละครเวที ต่อมาในปี 2017 คิมซอนโฮ ได้ปรากฏตัวผ่านผลงานทางโทรทัศน์ครั้งแรกจากการร่วมแสดงในซีรีส์เรื่อง Good Manager หรือ Chief Kim ทางช่อง KBS2 และตั้งแต่นั้นมา เขาก็มีโอกาสร่วมงานแสดงในอีกหลายบทบาทและหลากหลายแนว รวมถึงการแสดงทักษะที่คาดไม่ถึงในรายการวาไรตี้ 2 Days & 1 Night อีกด้วย
ผลงานที่ผ่านมาของผู้ชายคนนี้จะมีอะไรบ้าง เราขอท้าเลยว่าหนึ่งในรายชื่อต่อไปนี้จะต้องมีผลงานที่คุณรักอยู่แน่นอน ><
เริ่มต้นด้วยผลงานทางโทรทัศน์เรื่องแรกของคิมซอนโฮกับเรื่อง Good Manager หรือ Chief Kim (2017) ซีรีส์ที่เล่าถึงชีวิตของพนักงานบัญชีที่ต้องพัวพันการกับฉ้อโกงและการตรวจสอบบัญชีอย่างเข้มงวด แม้เนื้อเรื่องหลักจะฟังดูหนักหนาน่าปวดหัว แต่ผู้กำกับก็ยังความคอเมดี้แบบจัดเต็มมากๆ แถมด้วยความโบรแมนซ์ของตัวละครหลักที่รับบทโดย นัมกุงมิน และ จุนโฮ 2PM เอาไว้ด้วย แอบกระซิบให้ว่าโบรแมนซ์จิกหมอนและน่ารักมากขนาดที่นักแสดงนำชายได้รับรางวัล Best Couple คู่กันเลยล่ะ
แล้วในเรื่องนี้เราจะตามหาหนุ่มหน้าใสคิมซอนโฮได้จากที่ไหน คำตอบคือในเรื่องนี้คิมซอนโฮรับบทเป็น ซอนซังแท หนึ่งในพนักงานบัญชีที่บริษัทในเรื่อง เรียกว่าแม้จะไม่ได้ออกมาบ่อยๆ แต่ก็ฉายแววความน่ารักน่าชังมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
ต่อมาในปีเดียวกัน คิมซอนโฮ ก็ไม่ปล่อยให้แฟนรอนาน เขามีผลงานร่วมงานในซีรีส์ Strongest Deliveryman (2017) เล่าเรื่องของ ชเวคังซู (รับบทโดย โกคยองพโย) ชายหนุ่มที่ทำงานเป็นพนักงานส่งอาหารที่มักเปลี่ยนที่ทำงานอยู่บ่อยๆ เขามีความฝันว่าอยากสร้างศูนย์กลางสำหรับการจัดส่งอาหารของประเทศ ระหว่างตามความฝัน เขาจึงได้พบกับความรักและมิตรภาพดี ๆ จากเพื่อนรักนักส่งอาหารด้วยกัน
ในเรื่องนี้คิมซอนโฮรับบทเป็น โอจินกยู ลูกชายบ้านผู้มีอันจะกินที่ขาดความรักและการดูแลเอาใจใส่ เขาจึงกลายเป็นตัวปัญหาและคิดจะฆ่าตัวตาย เล่ามาถึงตรงนี้อย่าเพิ่งถอดใจและเลิกดูซีรีส์ของพี่ซอนโฮไปนะคะ เราขอใบ้ให้ฟังว่า จะมีจุดหนึ่งที่ทำให้ตัวละครโอจินกยูกลับใจกลายมาเป็นคนใหม่ และลุกขึ้นต่อสู้เพื่อความรักของเขา ตรงนี้คือจุดที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาด เพราะเราจะได้เห็นพัฒนาการด้านการแสดงของคิมซอนโฮที่เด่นชัดออกมา แม้ว่านี่จะเป็นผลงานเรื่องที่ 2 ของเขาก็ตาม
ต่อด้วยผลงานของคิมซอนโฮในปี 2018 กับเรื่อง Two Cops (2018) ซีรีส์ที่เล่าเรื่องนักสืบคดีอาชญากรรมผู้รักความยุติธรรมยิ่งชีพที่ถูกผีนักต้มตุ๋นเข้าสิง สองตัวตนในร่างเดียวจึงใช้ความสามารถที่มีช่วยกันไขคดีได้อย่างยอดเยี่ยม ซีรีส์เรื่องนี้นับเป็นการรวมทั้งแนวสืบสวนสอบสวน โรแมนติก และยังมีประเด็นลี้ลับเหนือธรรมชาติไว้ในเรื่องเดียว
ในเรื่องนี้ คิมซอนโฮ รับบทเป็น กงซูชัง ผีนักต้มตุ๋นที่เข้าสิงร่างของพระเอก ซีรีส์เรื่องนี้นับเป็นอีกหนึ่งผลงานของเขาที่เราไม่อยากให้คุณพลาด เพราะผลงานที่ส่งให้เขาได้รับรางวัล Best New Actor จากเวที MBC Drama Awards ครั้งที่ 36 อีกด้วย ซึ่งนับเป็นรางวัลทางการแสดงละครโทรทัศน์รางวัลแรกของเขาเลยนะ
และเหมือนว่าในปี 2018 จะถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของชายหนุ่มที่ชื่อคิมซอนโฮ เพราะภายในปีนี้ เขามีผลงานทางการแสดงมาให้แฟนๆ ให้เห็นหน้าอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะในบทบาทคิมแรวัน จิตรกรหนุ่มที่จู่ๆ ก็ตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อในมินิซีรีส์ You Drive Me Crazy (ถ้าไม่อยากถอนตัวจากรอยยิ้มและความน่ารักของผู้ชายคนนี้ หนีไป ห้ามเปิดดูเด็ดขาด เตือนแล้วนะ ><) หรือจะเป็นแขกรับเชิญในซีรีส์ Your House Helper และซีรีส์ Feel Me to Die รวมถึงในบทบาทองครักษ์จองเจยุน ในละครย้อนยุคเรื่อง 100 Days My Prince
ต่อมาในปี 2019 ก็นับเป็นอีกปีที่คิมซอนโฮเฉิดฉายในวงการบันเทิงไม่แพ้ปีก่อนหน้า เปิดด้วยผลงานเรื่องแรกของปีด้วย Welcome to Waikiki 2 ซีรีส์คอเมดี้ที่ได้รับความนิยมถล่มทลายในภาคแรก จนได้สร้างภาคต่อด้วยนักแสดงใหม่ยกเซ็ตแต่รับประกันความฮาที่มากกว่าเดิม ในเรื่องนี้เราจะได้เห็นคิมซอนโฮสลัดภาพหนุ่มน้อยหน้าหวานที่มาพร้อมลักยิ้มที่มุมแก้ม สู่หนึ่งในแก๊งตัวป่วนประจำเรื่องในบทบาทของชาอูชิก (และมีใครคิดเหมือนกันมั้ยว่า เขาคนนี้ฉายทักษะวาไรตี้มาตั้งแต่ในเรื่องนี้แล้วแหละ)
ผลงานต่อมาของ คิมซอนโฮ นับเป็นงานที่เขาได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งพระเอกเต็มตัวในซีรีส์เรื่องยาวเป็นครั้งแรกกับเรื่อง Catch the Ghost เล่าถึงชีวิตของตำรวจประจำสถานีรถไฟ นี่ถือเป็นอาชีพแปลกใหม่ที่ไม่ค่อยถูกหยิบมาเล่าบ่อยนัก เนื้อเรื่องหลักเน้นไปที่การตามสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง พร้อมกับการตามหาคนในครอบครัวที่หายไป นอกจากมีคิมซอนโฮเป็นพระเอกของเรื่องแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ยังได้ มุนกึนยอง มารับบทเป็นนางเอกของเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้เป็นการกลับมาแสดงซีรีส์ในรอบ 4 ปีของเธอเลยนะ นอกจากนี้ในช่วงปลายปี 2019 คิมซอนโฮยังไปปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญในซีรีส์ Find Me in Your Memory ในบทบาทหนึ่งในคู่เดตของนางเอกอีกด้วย เรียกว่าแม้จะออกมาแค่แวบเดียว แต่ความหล่อน่ารักก็ทะลุทะลวง จนหลายคนเริ่มตามหาแล้วว่าเขาคนนี้คือใคร
อย่างที่แอบบอกไปว่า ทักษะวาไรตี้ของคิมซอนโฮเริ่มฉายแววมาสักพัก แถมด้วยอุปนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนร่าเริง สดใส และสร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้างได้เสมอ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้เขาจึงได้รับการทาบทามให้เป็นหนึ่งในสมาชิกของรายการ 2 Days & 1 Night วาไรตี้ที่อยู่คู่วงการมานานกว่า 10 ปีและมีการผลิตต่อเนื่องมาถึงซีซั่นที่ 4 คอนเซปต์หลักของรายการคือการพาสมาชิกที่เป็นคนดังจากหลากหลายวงการออกท่องเที่ยวในไปในสถานที่ต่างๆ ภายในระยะเวลา 2 วัน 1 คืน โดยระหว่างที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ทีมงานจะจัดให้มีการเล่มเกม ซึ่งเกมที่แฟนๆ รายการนี้ถูกอกถูกใจเป็นพิเศษ น่าจะเป็นเกม ‘นอนข้างนอกหรือนอนข้างใน’ โดยทีมงานจะสรรหาสารพัดการกลั่นแกล้งมาให้พวกเขาได้ร่วมสนุกกัน รางวัลของผู้ชนะคือการได้นอนค้างคืนในบ้านแบบสบายๆ แต่ผู้แพ้ก็จะต้องนอนตากยุง ตากฝน หรือไม่ก็ทนหนาวอยู่ข้างนอก ซึ่งเสน่ห์ของรายการนี้ก็มักจะซ่อนอยู่ที่การใช้เวลาอยู่ร่วมกันของเหล่าสมาชิก ในมุมของผู้ชม เราจะได้เห็นอีกด้านของคนดังที่เรารู้จักที่หลายครั้งก็สร้างความเซอร์ไพรส์ให้เสมอ
ส่วนในมุมของคิมซอนโฮ สิ่งที่แฟนๆ ทุกคนจะได้รับหลังจากดูรายการ 2 Days & 1 Night ซีซั่น 4 ที่เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกนี้ คือการเปิดโลกว่า พระเอกหนุ่มหน้าใสสไตล์หล่อเนี้ยบแบบคิมซอนโฮ มีมุมรั่วๆ ที่น่ารักและเป็นธรรมชาติมากๆ ดูแล้วรับประกันเลยว่าจะตกหลุมรักเขามากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
และก็มาถึงผลงานเรื่องล่าสุดที่เป็นประเด็นให้ชายหนุ่มคนนี้ติดอยู่ในโผ SPOTLIGHT ของเราในคราวนี้กับเรื่อง Start-Up ซีรีส์ที่เล่าเรื่องของคนหนุ่มสาวที่มีจุดตั้งต้นในการทำธุรกิจที่แตกต่าง แต่ทั้งหมดมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือความสำเร็จ เพื่อพิสูจน์ต่อคนหัวโบราณที่เคยตราหน้าว่าความฝันของพวกเขาไม่มีทางเป็นจริง
ในเรื่อง Start-Up คิมซอนโฮ รับบทเป็น ฮันจีพยอง หัวหน้าทีมวางแผนการลงทุนที่มีสถิติทำกำไรให้ธุรกิจทุกประเภทเป็นอันดับต้นๆ แต่ถ้าย้อนเวลากลับไป วัยเด็กของชายหนุ่มที่มีชีวิตแสนเพอร์เฟกต์คนนี้ เป็นเด็กกำพร้าที่ต้องออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองตั้งแต่อายุ 19 ในวันที่ชีวิตหมดหนทาง คุณย่าใจดีเจ้าของร้านฮอตด็อกกลับเป็นแสงสว่างที่เข้ามาต่อชีวิตให้เขา แม้ชีวิตจะแสนอาภัพ แต่เขาก็ฉายแววการเป็นนักลงทุนมือทองมาตั้งแต่ตอนนั้น ด้วยการทำให้เงินเก็บอันน้อยนิดของคุณย่างอกเงยเป็นเงินมหาศาล
นอกจากความดีงามที่เราจะได้เห็นคิมซอนโฮในลุคหนุ่มหล่อเนี้ยบ ฉลาด สมาร์ท และน่ารักมากๆ เรายังจะได้เห็นเขาในบทบาทของชายหนุ่มที่ทุ่มเทช่วย ซอดัลมี นางเอกของเรื่องที่รับบทโดย แบซูจี แบบเต็มที่สุดๆ แต่เขากลับปากไม่ตรงกับใจ ไม่ยอมเผยความรู้สึกที่แท้จริงสักที และอีกหนึ่งโบนัสที่คอซีรีส์ทุกคนบนโลกใบนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง คือความโบรแมนซ์ระหว่างคิมซอนโฮกับ นัมจูฮยอก ผู้มารับบท นัมโดซาน ซึ่งบอกได้เลยว่าแต่ละคนเคมีเข้าขากันดีมากจริง ๆ
แม้ว่าตอนนี้ซีรีส์ Start-Up เพิ่งออกอากาศไปได้ไม่กี่ตอน แต่ก็นับว่ามาแรงแซงซีรีส์หลาย ๆ เรื่องอยู่พอสมควร ถ้าไม่อยากพลาดอีกหนึ่งซีรีส์ดี ๆ ที่ทุกคนคู่ควร และไม่อยากพลาดการตกหลุมรัก คิมซอนโฮ อย่าลืมติดตามซีรีส์เรื่องนี้ รวมถึงแบ่งเวลาให้กับการตามไปเก็บผลงานอื่นๆ ของคิมซอนโฮด้วยนะคะ
ติดตามคิมซอนโฮทางอินสตาแกรมได้ที่ @seonho__kim ยอดฟอลบน IG ตอนนี้พุ่งสมกับความฮอตของคุณเขาเลยล่ะ >___<
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡