นอกจากการรั้งตำแหน่งซีรีส์ยอดนิยมจากการจัดอันดับใน Netflix ต่อเนื่องมาตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ออกอากาศ ดูเหมือนว่าซีรีส์ Vincenzo จะกลายเป็นหัวข้อสนทนาในวงคอซีรีส์ทั้งหลายอยู่พอสมควร เริ่มตั้งแต่ซีรีส์เรื่องนี้เป็นการคืนสู่จอแก้วในรอบ 2 ปีของ ซงจุงกิ มาในเรื่องนี้พระเอกของเรารับบทเป็น วินเชนโซ่ กาซาโน ทนายมาเฟียในแก๊งผู้มีอิทธิพลจากอิตาลีที่มีเหตุให้ต้องกลับมาเกาหลี ประเด็นต่อมาคือเนื้อหาของเรื่องที่ฉายให้เห็นความตลกร้าย ประกอบกับคาแรกเตอร์ของตัวละครที่ดูท่าจะมีการพลิกแพลงไปอีกหลายตลบ ก็ทำให้ Vincenzo กลายเป็นซีรีส์ที่น่าจับตามากทีเดียว
และอีกเรื่องที่คอซีรีส์หลายคนให้ความสนใจ คือบทบาทของ ฮงชายอง ทนายความสาวแห่งลอว์เฟิร์มชื่อดังที่เปิดฉากมาด้วยการฟาดฟันในชั้นศาลกับทนายความฝ่ายตรงข้ามที่เป็นพ่อบังเกิดเกล้า ซึ่งนักแสดงหญิงที่มารับบทเป็นเธอคนนี้ก็คือ จอนยอบิน นักแสดงสายภาพยนตร์ที่เริ่มมามีบทบาทการแสดงในฝั่งซีรีส์มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่ได้รู้จักเธอคนนี้มาก่อน ยิ่งออร่าทางการแสดงที่โดดเด่นไม่เหมือนใครก็ยังอยากจะทำความรู้จักเธอแล้ว วันนี้เราเลยขออาสาพาทุกคนไปทำความรู้จักนักแสดงมากฝีมือคนนี้อย่างลึกซึ้ง ไม่แน่ว่า ผลงานมากมายสักเรื่องใดเรื่องหนึ่งของเธอ อาจจะเป็นซีรีส์หรือภาพยนตร์ในดวงใจของคุณก็ได้
จอนยอบิน เกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ปี 1989 ปัจจุบันอายุ 32 ปี (นับแบบสากล) เธอจบการศึกษาจากสาขา Broadcast Entertainment มหาวิทยาลัยสตรีดงดุก (Dongduk Women’s University) และปัจจุบันเป็นนักแสดงภายใต้การดูแลของ J-Wide Company ต้นสังกัดเดียวกับ ชอนโฮจิน แบจงอ๊ก คิมโซยอน อีโบยอง อีซังยุน คิมแทรี จองฮเยซอง คิมแทอู อันแจฮง ยูซูบิน และอีกมากมาย
โดยเธอปรากฏตัวผ่านสื่อครั้งแรกในปี 2014 ผ่านผลงานโฆษณา และในปีต่อมา จอนยอบิน ก็เริ่มต้นเส้นทางสายการแสดงอย่างเป็นทางการจากการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง The Treacherous ในบทบาทหญิงสาวที่มีโหวงเฮ้งเหมาะกับการเป็นราชินี
ในปีต่อ ๆ มา จอนยอบิน ยังได้รับบทบาทในภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เช่น The Age of Shadows (2016), Write or Dance (2017), Merry Christmas Mr. Mo (2017), Illang: The Wolf Brigade (2018) ก่อนที่จะเริ่มได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นผ่านบทบาทการแสดงในภาพยนตร์ After My Death (2018) และกวาดรางวัลจากเวทีประกาศรางวัลมากมาย
ข้อสังเกตหนึ่งที่เราพบจากการย้อนดูประวัติการรับงานภาพยนตร์ของ จอนยอบิน ก็คือ นอกจากปริมาณงานที่เธอรับจะต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2015 – 2020 เฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 2 – 3 เรื่อง ซึ่งเรียกได้ว่าใครที่เป็นแฟนคลับสายภาพยนตร์เกาหลี ก็จะได้เห็นหน้าของผู้หญิงคนนี้ทุกปี ทั้งปี และต่อเนื่องแบบนี้มาสักพักแล้ว ส่วนเรื่องบทบาทที่ จอนยอบิน ได้ร่วมแสดง แน่นอนว่าเธอได้ขยับจากนักแสดงตัวประกอบสู่นักแสดงสมทบ จนถึงนักแสดงหลักของเรื่อง ไปตามลำดับอย่างไม่น่าสงสัย และอีกสิ่งที่น่าสนใจก็คือ เธอมักจะเลือกปรากฏตัวในบทบาทใหม่ ๆ ที่ไม่ค่อยซ้ำกัน ทั้งบทกีแซงใน The Age of Shadows (2016) บทหญิงสาวสดใสใน Write or Dance (2017) บทคอเมดี้ในภาพยนตร์ขาว-ดำ เรื่อง Merry Christmas Mr. Mo (2017) หรือจะบทพนักงานประจำสวนสัตว์ที่เพิ่งอกหักช้ำรักใน Secret Zoo (2020) เธอคนนี้ก็ทำผลงานออกมาได้ดีทั้งหมด
อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่า จอนยอบิน เป็นนักแสดงสายภาพยนตร์ที่คอซีรีส์อาจจะไม่ค่อยคุ้นหน้าเท่าไหร่ แต่เมื่อไม่นานมานี้ เธอก็ได้โดดมาชิมลางจอแก้วอยู่บ้าง เริ่มด้วยผลงานแรกในซีรีส์ Save Me (OCN, 2017) ในเรื่องนี้จอนยอบินรับบทเป็น ฮงโซริน และในเรื่องนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เธอได้ร่วมงานกับ แทคยอน 2PM ก่อนจะมาพบกันอีกครั้งในผลงานเรื่องล่าสุดอีกด้วย
ต่อมาในปี 2018 ดูเหมือนว่าจอนยอบินจะเริ่มติดใจวงการจอแก้ว เพราะนอกจากคิวงานภาพยนตร์ที่รอฉายให้ชมอย่างแน่นเอียด เธอยังแบ่งเวลามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ตีแผ่ชีวิตจริงของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าง Live (tvN, 2018) ก่อนที่เธอจะตกลงปลงใจ ย้ายฐานที่มั่นมารับบทหลักในฝากซีรีส์อย่างจริงจังกับผลงานเรื่อง Be Melodramatic (JTBC, 2019) ซีรีส์ที่เล่าเรื่องชีวิตสามสาวเพื่อนซี้วัย 30 ที่กำลังตามหาความสำเร็จสักเรื่องให้กับชีวิต
เราเองสนใจและอยากรู้จัก จอนยอบิน ให้มากขึ้นก็เพราะเจอเธอใน Be Melodramatic นี่ล่ะ ในเรื่องนี้เธอรับบทเป็น อีอึนจอง ผู้กำกับสารคดีที่บังเอิญทำประเด็นสุด niche ให้โด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ขณะที่ชีวิตกำลังโรยด้วยกลีบกุหลาบ เธอกลับต้องมาสูญเสียคนรัก เธอเลยต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไปด้วยการพยายามลบภาพ ‘เขา’ ออกไปจากชีวิตและเดินหน้าต่อ ดูจบแล้วให้ความรู้สึกว่า นักแสดงคนนี้ถ่ายทอดทุกอย่างออกมาได้ดีมาก จนเราเผลอฝากตัวเป็นแฟนคลับและต้องหางานเก่า ๆ ของเธอมาดูเลยทีเดียว
ที่ว่า จอนยอบิน มีผลงานการแสดงทั้งภาพยนตร์และซีรีส์มากมาย แถมแต่ละเรื่องเธอยังทุ่มสุดพลัง เน้นการเข้าถึงคาแรกเตอร์มากกว่าห่วงภาพลักษณ์ การันตีง่ายด้วยรางวัลทางการแสดงที่เธอครอบครองอยู่ไม่น้อย ทั้ง Actress of the Year จากงาน 22nd Busan International Film Festival จากภาพยนตร์เรื่อง After My Death ไม่รวมรางวัลนักแสดงหน้าใหม่หญิงยอดเยี่ยมจากเวทีประกาศรางวัลทางภาพยนตร์นับไม่ถ้วน รางวัล Best New Actress จากงาน Marie Claire Film Festival จากภาพยนตร์เรื่อง Write or Dance ส่วนฟากซีรีส์ เธอคนนี้ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน จากการได้เป็นหนึ่งในผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Best New Actress ของเวที 56th Baeksang Arts Awards มาแล้ว
นอกจากลิสต์ผลงานการแสดงมากมายที่เธอคนนี้มีไว้ให้แฟน ๆ เลือกติดตามได้ตามชอบแล้ว จอนยอบิน ยังเคยปรากฏตัวในรายการวาไรตี้ชื่อดังอย่าง Running Man ตอนที่ 485 พร้อมกับทีมนักแสดงจากภาพยนตร์ Secret Zoo (2020) ซึ่งเธอก็ได้ฝากเสน่ห์และทักษะทางวาไรตี้ที่น่าประทับใจไว้ได้เป็นอย่างดี
สำหรับซีรีส์ Vincenzo ผลเรื่องล่าสุดของ จอนยอบิน เชื่อว่าเธอก็จะยังคงถ่ายทอดความตลกร้าย เสียดสีทุนนิยม และความเทาหม่นปนขำขันของซีรีส์เรื่องนี้ออกมาให้เราได้รับชมต่อไป และเรายังเชื่อมั่นอีกว่า ด้วยความสามารถ ประสบการณ์ และความทุ่มเทให้กับงานที่จอนยอบินทำมาตลอด จะส่งให้ผู้หญิงคนนี้ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของวงการได้ในอนาคตอันใกล้
ซึ่งในปี 2021 นี้ ผลงานล่าสุดของเธอ ภาพยนตร์ฟิล์มนัวร์ Night in Paradise ที่ก่อนหน้าได้ถูกเลือกไปฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ 77th Venice International Film Festival กำลังจะฉายผ่านทาง Netflix ในวันที่ 9 เมษายนนี้ แฟน ๆ อย่าลืมติดตามผลงานของเธอพร้อมจับตาเส้นทางในอนาคตของนักแสดงสาวอนาคตไกลคนนี้ไปพร้อม ๆ กันนะ
ติดตามความเคลื่อนไหวและอัปเดตชีวิตประจำวันของจอนยอบินได้ที่ Instagram : @jeon.yeobeen
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡