ผู้จัดยักษ์ใหญ่ผู้รู้ใจแฟนคลับ Four One One Entertainment ของคุณกึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ จับมือต้นสังกัด 51K ประเทศเกาหลีใต้ นำพาพระเอกหนุ่มซุปตาร์ระดับท็อปของวงการบันเทิงเกาหลีที่แฟนหนังแฟนละครยกให้เป็นสมบัติของชาติ “โซจีซอบ” (SO JI SUB) เดินทางสู่ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ หลังจากที่แลนดิ้งมาไม่กี่ชั่วโมง “โซจีซอบ” ก็ได้อุ่นเครื่องความพร้อมในงานแถลงข่าว ก่อนที่แฟนๆจะได้ใช้เวลาสุดพิเศษกับเขาในงานแฟนมีตติ้ง SO JI SUB ASIA TOUR ‘HELLO’ BANGKOK ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้ เสาร์ที่ 2 มีนาคม 2562 เวลา 18:00 น. ณ บีซีซี ฮอลล์ เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ชั้น 5 ซึ่งนับเป็นการกลับมาพบปะแฟนๆชาวไทยอีกครั้งในรอบ 5 ปี ตั้งแต่งานแฟนมีตติ้งเมื่อปี 2014
งานแถลงข่าวงานแฟนมีตติ้ง SO JI SUB ASIA TOUR ‘HELLO’ BANGKOK จัดขึ้น ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ท่ามกลางความสนใจของเหล่าสื่อมวลชนอย่างคับคั่ง ซึ่ง “โซจีซอบ” ได้เผยถึงความรู้สึกที่มีต่อเมืองไทย รวมไปถึงแนวคิดและแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับการทำงานในวงการบันเทิงมากมาย ดังต่อไปนี้
ไม่ได้มาประเทศไทยเป็นเวลานานตั้งแต่ Asia Tour Fan Meeting ในปี 2014 คุณรู้สึกอย่างไรที่ได้มาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง
ไม่ได้เจอกับแฟนๆมานานแล้วก็รู้สึกตื่นเต้น และก็คาดหวังที่จะได้เจอกับแฟนๆชาวไทยครับ เมื่อพูดถึงประเทศไทยโดยส่วนตัวคิดว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้ความผ่อนคลาย ให้การพักผ่อน ให้ความสะดวกสบาย อย่างเมื่อปลายปีที่แล้วหลังจากที่ทำเพลงเสร็จแล้วก็ได้เดินทางมาพักผ่อนที่เมืองไทยเป็นการส่วนตัวด้วยครับ
ทราบว่าคุณมาเมืองไทยหลายครั้งแล้ว เคยมาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Always ที่ไทยเมื่อหลายปีก่อนและเคยมาร่วมงานเทศกาล Hua Hin International Film Festival อยากรู้ว่าคุณชอบอะไรในเมืองไทยบ้าง
อย่างที่บอกไปเมื่อสักครู่นี้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ทำให้ผม relax หลังจากที่ทำงานเสร็จแล้วก็จะเลือกประเทศไทยเป็นประเทศที่จะมาพักผ่อนพร้อมๆกับพนักงานในบริษัทด้วยครับ โดยส่วนตัวผมเองก็ชอบอาหารไทยมากด้วยครับ
ชื่องานครั้งนี้คือ Hello Bangkok นอกจากคำว่า “สวัสดีครับ” แล้วคุณอยากจะทักทายแฟนๆที่รอคุณมานานด้วยคำไหนมากที่สุด
เนื่องจากผมพูดภาษาไทยได้ไม่เยอะ งั้นผมขอถามล่ามเลยละกันนะครับว่าคำนี้พูดยังไง
โซจีซอบ เงี่ยหูฟังล่ามก่อนจะพูดว่า “คิดถึงครับ”
มีภาษาไทยคำไหนไหม ที่คุณอยากเรียนรู้ไว้พูดกับแฟนๆ ในวันพรุ่งนี้ที่งานแฟนมีตติ้ง
“มาสนุกด้วยกัน”
จากซีรีส์เรื่องล่าสุด Terius Behind Me ต้องรับบทเป็นหน่วยสืบราชการและเป็นพี่เลี้ยงเด็กด้วย เป็นอย่างไรบ้างช่วยเล่าประสบการณ์ตอนนั้นให้ฟังหน่อย ต้องร่วมงานกับเด็กๆมีความยาก หรือมีอุปสรรคอะไรไหม
ในระหว่างการถ่ายทำก็ยอมรับเลยครับว่ามีความยากลำบาก เพราะว่าในเรื่องจะต้องมีฉากแอ็กชั่น ฉากวิ่งเยอะ แต่ว่าก็ถ่ายทำด้วยความรู้สึกที่มีความสุข และการที่ได้แสดงร่วมกับเด็กๆ ความรักของพ่อแม่มีให้กับลูกอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดแต่ก็สักนิดหนึ่งที่ผมคิดว่ารู้สึกได้ ระหว่างถ่ายทำจะมีช่วงที่อยู่ในความรู้สึกเหนื่อยล้า แต่เมื่อเด็กๆวิ่งมากอดความเหนื่อยล้าเหล่านั้นมันจะหายไปเลยครับ
ภาพยนตร์และซีรีส์ทุกเรื่องที่คุณแสดงได้รับความรักจากผู้คนมากมาย การที่คุณรับงานแสดงในแต่ละครั้งนั้น คุณตัดสินใจหรือพิจารณาจากองค์ประกอบใดบ้าง
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณแฟนๆที่มอบความรักให้กับผลงานต่างๆของผมนะครับ สำหรับเกณฑ์ในการเลือก ผมก็จะดูบทและก็พูดคุยกับผู้กำกับด้วย ดูว่าบทนั้นมันเหมาะกับผมในช่วงนั้น หรือว่าผมจะสามารถแสดงบทนั้นได้ไหม รวมถึงตัวบทในมุมมองของผมมันสนุกไหม นั่นคือเกณฑ์การตัดสินใจครับ แต่ก่อนผมจะเลือกผลงานที่ออกจะค่อนข้างหนักและซีเรียสไปสักนิดนึงครับ แต่ช่วงหลังๆผมจะพยายามเลือกบทซีรีส์และภาพยนตร์ที่ผ่อนคลายขึ้น ทั้งผู้ชมก็สนุกไปด้วย รวมไปถึงตัวผมก็สนุกไปด้วยเหมือนกันครับ
คุณแสดงซีรีส์และภาพยนตร์มาเยอะ สวมบทบาทเป็นตัวละครต่างๆ มาก็เยอะ อยากรู้ว่าคุณมีความสุขกับบทบาทไหนมากที่สุด จากซีรีส์หรือภาพยนตร์เรื่องไหน
สำหรับผลงานที่ประทับใจที่สุดจริงๆแล้วต้องบอกว่าการที่ผมได้มาเป็นผมในทุกวันนี้ ได้ผ่านผลงานที่ผ่านๆมาทั้งหมดซึ่งก็มีความประทับใจที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดเป็นนักแสดงที่ชื่อ โซจีซอบ ขึ้นมา แต่ถามว่าผลงานไหนที่ทำให้ผมมีความสุขมากที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องล่าสุดครับ เพราะว่าเป็นความสุขที่เกิดขึ้นล่าสุดด้วย
ในบรรดาผลงานที่ผ่านมา ตัวละครจากซีรีส์หรือภาพยนตร์เรื่องไหนที่เหมือนตัวคุณในชีวิตจริงมากที่สุด
จริงๆแล้วทุกบทก็จะมีความเป็นตัวผมอยู่ในบทบาทเหล่านั้นครับ ที่ผ่านมาที่แสดงแล้วรู้สึกว่าเป็นผม ก็คือ บทบาท คังอินอุค ในซีรีส์เรื่อง What Happened in Bali ครับ
ไม่ค่อยเห็นคุณปรากฏตัวในรายการวาไรตี้สักเท่าไหร่ แต่ล่าสุดคุณตัดสินใจร่วมรายการ “Little House in the Forest” ซึ่งเป็นรายการเรียลลิตี้ทางช่อง tvN ที่ต้องไปใช้ชีวิตในกระท่อมกลางป่า เพราะอะไรคุณถึงตัดสินใจร่วมรายการนี้
สำหรับเหตุผลที่ตัดสินใจถ่ายทำรายการนี้เพราะว่า เนื่องจากเรื่องนี้ออกแนวสารคดีซะมากกว่า เหตุผลต่อไปก็คือ ผู้ที่เข้าร่วมรายการมีแค่ตัวผมคนเดียว ทำให้ไม่มีความกดดัน และอีกอย่าง ด้วยแนวทางของทีมโปรดัคชั่นต้องการที่ผลิตรายการออกมาเพื่อที่จะช่วยเยียวยาจิตใจให้กับผู้ชม เมื่อได้ฟังผมก็เลยตัดสินใจเข้าร่วมถ่ายรายการนี้ครับ
เดบิวต์ในฐานะนักแสดงมา 20 กว่าปีแล้ว ความฝันในวัยเด็กของคุณคืออะไร ถ้าหากว่าไม่ได้เป็นนักแสดงคิดว่าคุณจะทำอะไรอยู่ตอนนี้
คงจะเป็นคำตอบเดียวที่สามารถตอบไดั 2 คำถามเลยครับ ก็คือผมตอนเด็กๆเป็นนักว่ายน้ำครับ เพราะฉะนั้นคิดว่าถ้าหากโตขึ้นมาคงจะเป็นคุณครูสอนว่ายน้ำให้กับเด็กๆครับ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณได้รับความรักอย่างมากมายจากแฟนๆ ทั้งในและต่างประเทศ อยากถามว่าคุณได้วาดภาพการเป็นนักแสดงในอนาคตไว้หรือเปล่า
ก่อนหน้านี้ผมเคยมีประสบการณ์ว่ามีแฟนคลับท่านนึงได้มาบอกกับผมว่า เธอได้รับความสุขจากการดูการแสดงของผมทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมากครับ ก็อยากจะวาดไว้ว่าในอนาคตก็อยากจะเป็นนักแสดงที่จะมอบความสุข มอบชีวิตชีวาให้กับชีวิตคนที่ได้ชมผลงานของผมครับ
จะได้เห็นผลงานต่อไปเมื่อไหร่? เป้าหมายหรือแผนงานต่างๆในปี 2019 ของคุณเป็นอย่างไร
เป้าหมายก็คงจะเป็นการจัดงานแฟนมีตติ้งเอเชียทัวร์ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีครับ ส่วนผลงานที่จะเกิดข้ึนในอนาคต ตอนนี้ยังดูบทอยู่ครับ ไม่ว่าจะเป็นทั้งซีรีส์หรือว่าภาพยนตร์ ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังตัดสินใจไม่ได้ หวังว่าจะตัดสินใจได้และฝากผลงานให้กับผู้ชมอีกครั้งหนึ่งนะครับ
“โซจีซอบ” ถือเป็นนักแสดงชายระดับแถวหน้าของวงการบันเทิงเกาหลีใต้ ที่ไม่ว่าจะได้รับบทบาทใดก็สามารถเข้าถึงการแสดงได้อย่างดีเยี่ยม โดยในปี 2018 ที่ผ่านมานี้ โซจีซอบ กลับมากระชากหัวใจแฟนๆ ด้วยผลงานอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่อง “Be With You” หนังรักโรแมนติกของญี่ปุ่นที่ถูกนำมารีเมคและถ่ายทอดเรื่องราวความรักสุดซึ้งครั้งใหม่ ซึ่งเขาได้โคจรมาประกบคู่กับนางเอกสาว “ซนเยจิน” (Son Yejin) อีกครั้งในรอบ 17 ปี ตามมาด้วยการคัมแบ็คจอแก้วในรอบ 3 ปีเต็มของ โซจีซอบ ด้วยละครแนวสืบสวนสอบสวนปนคอมเมดี้เรื่อง “Terius Behind Me” ทางช่อง MBC งานนี้พระเอกหนุ่มตีบทสายลับสุดเท่ ส่งให้เขาคว้ารางวัลแดซัง ในงานประกาศรางวัล 2018 MBC Drama Awards ที่สถานีโทรทัศน์ช่อง MBC จัดขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่งในปี 2019 นี้เอง โซจีซอบ พร้อมเดินสายทั่วเอเชียเพื่อตอบแทนความรักและการสนับสนุนอย่างเหนียวแน่น โดยถัดจากประเทศไทยแล้วเขามีคิวเดินสายจัดกิจกรรมเดียวกันนี้ต่อเนื่องในอีกหลายประเทศด้วยกันคือ อินโดนีเซีย (9 มี.ค.), ฮ่องกง (10 มี.ค.) และฟิลิปปินส์ (16 มี.ค.)
เมื่อกลับมาหาแฟนๆชาวไทยทั้งที แฟนๆอย่าพลาดโอกาสดีแบบนี้ไปพบกันในงาน SO JI SUB ASIA TOUR HHELLO’ BANGKOK วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2562 เวลา 18:00 น. ณ บีซีซี ฮอลล์ เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ชั้น 5 ** ยังพอมีบัตรให้จับจองที่จุดจำหน่าย ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา หรือระบบออนไลน์ทาง www.thaiticketmajor.com และบริเวณหน้างานเฉพาะวันแสดง บัตรราคา 2,800 / 3,800 และ 4,800 บาท ** ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์หลัก www.411ent.com ออฟฟิเชียลแฟนเพจ www.facebook.com/fouroneoneent ทวิตเตอร์ @411ent และอินสตาแกรม @411ent https://instagram.com/411ent
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries >> อย่าลืมไปกด Subscribe กันน้า