SM Entertainment ยืนยันการขยายฐานธุรกิจไปยังตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีแผนจะขยายอย่างค่อยเป็นค่อยไปที่ภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ตะวันออกกลางด้วย พร้อมเผยกิจกรรมในอนาคตอย่างโอกาสในการเปิดตัวซับยูนิตใหม่ของ NCT และการคัมแบ็คของ SuperM ในต้นปีหน้า
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวอเมริกา CNBC ได้รับอีเมลยืนยันจาก SM Entertainment ว่า มีแผนจะจัดตั้งสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่สิงคโปร์ เพื่อขยายฐานธุรกิจสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสำนักงานแห่งใหม่นี้จะเป็นกิจการร่วมค้า (Managing Joint Ventures) ที่ครอบคลุมตั้งแต่อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย ทำหน้าที่เป็นตัวกลางติดต่อกับสำนักงานใหญ่ในเกาหลีใต้ สำหรับกิจกรรมและแผนการที่เกี่ยวข้องในอนาคต พร้อมกันนี้ SM Entertainment ยังมีแผนจะเปิดตัวธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ ในสิงคโปร์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ ร้านขายสินค้าออฟฟิเชียล และงานนิทรรศการแบบ Pop-Up Event
แม้ว่าจะยังไม่ได้มีการลงหลักปักฐานอย่างเป็นที่แน่ชัด แต่ก็เริ่มเห็นกิจกรรมของศิลปิน SM Entertainment ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บ้างแล้ว เช่น ซีวอน Super Junior ในฐานะ Brand Ambassador ของ Mie Sedaap บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสัญชาติอินโดนีเซีย และ Sasa ธุรกิจเครื่องปรุงอาหารในอินโดนีเซีย รวมถึง NCT Dream กับการทำหน้าที่ Brand Ambassador ของ Lemonilo บะหมี่กึ่งสำหรับเร็จรูปอินโดนีเซีย
ก่อนหน้านี้ไม่นาน อีซูมาน ผู้ก่อตั้ง SM Entertainment ได้ให้สัมภาษณ์กับ The CNBC Conversation รายการที่จะเชิญผู้ประสบความสำเร็จมาพูดคุยกัน ซึ่งเขาก็ได้กล่าวถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของวงการ K-POP ผ่านมุมมองของเขา ไปจนถึงระบบ Culture Technology ที่เขาได้พัฒนาขึ้นมา เพื่อคัดเลือกคัดเลือกบุคลากรที่มีความสามารถ ไปจนถึงทีมงานเบื้องหลังที่จะมาเป็นเครือข่ายร่วมกันสร้างผลงานคุณภาพสู่ตลาด ทำให้ชาวเน็ตบางส่วนเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการลงทุนในสิงคโปร์
ซึ่งทาง SM Entertainment ก็ได้ออกมาปฏิเสธจะให้ข่าวเรื่องจำนวนเงินการลงทุนว่ามาก-น้อยเพียงใด และให้สัมภาษณ์เพียงว่า “อยู่ระหว่างการว่าจ้างบุคลากรที่มีความสามารถในท้องถิ่น เพื่อเพิ่มจำนวนพนักงานเต็มเวลา” และ “กำลังมองหาการว่าจ้างนักศึกษาและนักศึกษาจบใหม่ในท้องถิ่นเพื่อมาร่วมฝึกงานด้วยกัน”
นอกจากเรื่องสำนักงานที่สิงคโปร์แล้ว CNBC ยังเผยอีกว่า อีซูมาน ได้พูดถึงแผนกิจกรรมในอนาคตด้วย โดยเขามีความสนใจถึงซับยูนิตใหม่ของ NCT เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้ชมอย่างเข้าถึงมากยิ่งขึ้น เช่น NCT Saudi และ NCT Tokyo รวมถึง NCT Singapore ด้วยหากมีโอกาส
และในช่วงต้นปี 2023 จะมีการคัมแบ็คของ SuperM บอยกรุ๊ปรวมทีมสมาชิกต่างวงของ SM ที่ประกอบด้วย แทมิน SHINee, แบคฮยอน-ไค EXO และแทยง-มาร์ค-เตนล์-ลูคัส NCT หลังผ่านมากว่า 1 ปี จากการคัมแบ็คซิงเกิ้ลล่าสุด ‘We Do’ ที่ปล่อยออกมาเมื่อเมษายน 2021 ซึ่งเป็นที่จับตามองถึงสมาชิกที่จะเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เนื่องจาก แทมิน มีกำหนดสิ้นสุดการรับใช้ชาติในเดือนพฤศจิกายน 2022 ในขณะที่ แบคฮยอน มีกำหนดออกจากกรมในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2023 ตลอดจนการพักงานไม่มีกำหนดของ ลูคัส ที่สร้างความเป็นห่วงให้กับแฟน ๆ เป็นอย่างมาก
หากทั้ง 7 คนสามารถรวมตัวกันได้ คาดว่าจะเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันครั้งสุดท้ายก่อน ไค จะต้องรายงานตัวเพื่อเข้ากรมรับใช้ชาติเป็นคนต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้ได้รายงานข่าวเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า สัญญาระหว่าง SM Entertainment และ อีซูมาน รวมถึงบริษัทผลิตเพลงของเขาอย่าง Like Planning จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม แต่อีซูมานจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของ SM Entertainment อยู่ แม้จะออกจากบริษัทไปแล้วก็ตาม
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡