อีซองซู CEO ของ SM Entertainment ได้เป็นวิทยากรกิตติมศักดิ์ บรรยายภายใต้หัวข้อ “แผนงานด้านคอนเทนต์ของ SM – ยุคของคอนเทนต์แห่งอนาคตผ่านมุมมองของ SMCU” ภายในงานการประชุมธุรกิจสตาร์ทอัพด้านคอนเทนต์ ‘2021 STARTUP:CON’ ที่ออกอากาศทางออนไลน์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 ซึ่งหัวข้อดังกล่าวนั้นเป็นที่จับตามองสำหรับการดำเนินงานในอนาคตของบริษัทที่เผยวิสัยทัศน์การพัฒนาคอนเทนต์ไปสู่อีกระดับ
โดยในการบรรยายนั้น CEO อีซองซู ได้กล่าวว่า โปรดิวเซอร์กิตติมศักดิ์อีซูมาน ที่เป็นผู้ก่อตั้ง SM Entertainment และผู้ดูแลการผลิตทั้งหมดได้คาดการณ์ว่า ‘โลกอนาคต จะกลายเป็นโลกของหุ่นยนต์, ผู้มีชื่อเสียง และเหล่าอวาตาร์’ อีกทั้งยังเตรียมการมาเป็นเวลากว่าสิบปี สำหรับยุคของคอนเทนต์แห่งอนาคต พร้อมเสริมว่า ด้วยการเดบิวต์ของ ‘เกิร์ลกรุ๊ปเมทาเวิร์ส’ aespaกับเหล่าอวาตาร์เมื่อปีที่ผ่านมา ทาง SM ได้นำเสนอความเป็นจริงของโลกเสมือนจริงขนาดใหญ่ที่เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องราวของ aespa นี่คือเมทาเวิร์สที่ SM มองเห็น และเป็น ‘SMCU’ (SM Culture Universe) จักรวาลแห่งวัฒนธรรมของ SM ที่ถือกำเนิดขึ้น
CEO อีซองซู ได้อธิบายภาพใหญ่เกี่ยวกับจักรวาล SMCU ที่กำลังอยู่ในความสนใจ ว่า
“SMCU คือ จักรวาลแห่งความบันเทิงในอนาคตที่เชื่อมโยงโลก ผ่านวัฒนธรรมอย่างไร้ซึ่งขอบเขตใด ๆ ระหว่างโลกความจริงและโลกเสมือนจริง มันคือคอนเทนต์แห่งอนาคตในรูปแบบเมทาเวิร์สที่ SM มุ่งมั่นจะทำ และ โปรดิวเซอร์อีซูมาน กับ SM ได้สร้าง SMCU โลกที่อยู่เหนือพื้นที่เสมือนจริงและความเป็นจริงขึ้นมา ผ่านคอนเทนต์อันยอดเยี่ยมมากมาย (Killer contents) ที่สั่งสมมาในระยะเวลากว่าสิบปีและการขยายขอบเขตของ IP ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการทำให้ K-Pop เป็นอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ไม่เพียงแค่แนวเพลง แต่คือประเภทของคอนเทนต์ด้วย
เมื่อพิจารณาถึงโครงสร้างของ K-Pop จากมุมมองของเทรนด์ระดับโลกที่เรียกว่า ‘เมทาเวิร์ส’ ในยุคหลัง COVID จะเห็นได้ว่า K-Pop ถูกมองเป็นคอนเทนต์ IP ด้านวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในแนวเพลงปัจจุบันที่มีอยู่ นี่คือ SMCU ที่อิงจากโลกทัศน์ที่พวกเรากำลังสร้าง และเราจะไปสู่ระดับต่อไปด้วยการสร้างจักรวาลที่ขยายตัวของคอนเทนต์ IP ในรูปแบบเมทาเวิร์ส ซึ่งเชื่อมโยง IP ที่หลากหลายและเป็นอิสระ ทั้งของศิลปิน, ดนตรี, มิวสิกวิดีโอ, การแสดงและอื่น ๆ ภายใน SMCU ด้วยกันเอง”
อีกทั้งยังกล่าวเสริมว่า “คีย์เวิร์ดหลักของ SMCU คือ ‘KWANGYA’ (ควังยา) ซึ่งมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ครอบคลุมทั้งโลกจริงและโลกเสมือน แฟน ๆ K-Pop เรียกที่ตั้งใหม่ของสำนักงานใหญ่ของ SM ที่ซองซูดง และบริเวณ Seoul Forest ว่า ‘KWANGYA’ โดยมันคือเป้าหมายของพวกเรา สำหรับจักรวาลเสมือนจริงอันไม่มีที่สิ้นสุด ‘KWANGYA’
ในการขยายแนวคิดเรื่องของพื้นที่ที่อ้างอิงถึงตำแหน่งที่ตั้งใหม่ของเรา และกลายมาเป็นแลนด์มาร์คของ SMCU ยิ่งไปกว่านั้นคือ การทำให้กรุงโซลที่เป็นต้นกำเนิด K-Pop และ K-Culture ได้เป็นเมกกะด้านวัฒนธรรมระดับโลก ทาง SM จะขยายและเผยแพร่รูปแบบที่หลากหลายของศิลปินและ IP ดนตรี ผ่านกลยุทธ์ทรานส์มีเดีย (Transmedia) ภายในโลกทัศน์ที่เรียกว่า SMCU โดยในแง่ของธุรกิจ พวกเราจะขยายไปยังภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องผ่านกลยุทธ์ one-source multi-use (OSMU) และสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะทำให้เกิดวัฏจักรที่ต่อเนื่องของคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยประสบจากที่ไหนมาก่อน รวมถึงข้ามผ่านขอบเขตระหว่างโลกความจริงและโลกเสมือน, เวลา, ยุคสมัย และรูปแบบ”
ภายในงาน CEO อีซองซู ยังได้เอ่ยถึงโปรเจกต์ ‘Remastering Project’ ที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพ MV ต้นฉบับของ SM และนำเสนอภาพและเสียงคอนเทนต์ล้ำค่าของ SM และเป็นประวัติศาสตร์ของ K-POP ที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเป็นการนำวิดีโอในอดีตมาตีความหมายให้กลายเป็นเวอร์ชันปี 2021 ซึ่งขยายขอบเขตเพื่อสร้างคอนเทนต์ที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบันและอนาคตเข้าด้วยกัน ซึ่งคนทุกรุ่นก็สามารถเข้าถึงได้
ขณะเดียวกันยังได้แนะนำ ‘SM Classics’ ที่มีเป้าหมายในการขยายขอบเขตแนวเพลงของ K-POP ด้วยการนำเอาดนตรีคลาสสิก, แจ๊ส และเพลงสากลเข้าไว้ด้วยกันเพื่อนำเสนอการแสดงวงออเคสตราของ K-Pop ไปทั่วโลก
นอกจากนี้ ‘ช่องทาง’ (channel) เองก็ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางที่สำคัญในการสื่อสารกับแฟน ๆ ที่เป็นผู้บริโภคและชื่นชอบคอนเทนต์ของ SM ซึ่ง ‘ช่องทาง’ นั้น ไม่เพียงแต่ส่งต่อคอนเทนต์ แต่ยังขยายความหมายของการสร้างแบรนด์ด้วย SM จะมุ่งมั่นต่อไปในการสร้างช่องทางเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของแฟน ๆ และผ่านช่องทางเหล่านั้น ก็จะสานต่อ ‘Pink Blood Project’ ที่สนับสนุนโปรซูเมอร์ (Prosumer) ผู้ที่ชื่นชอบคอนเทนต์ต้นฉบับของ SM และนำคอนเทนต์มาสร้างสรรค์ขึ้นใหม่
ก่อนปิดท้าย CEO อีซองซู ได้กล่าวถึงตอนที่เข้าร่วมงานกับบริษัทเมื่อปี 2005 ในแผนก A&R โดยเล่าว่า
“ประสบการณ์การทำงานของเขาในฐานะ สมาชิกของทีม TFT ที่ดูแลรับผิดชอบในส่วนของการวิจัยและพัฒนา (R&D) สำหรับโปรเจกต์พิเศษของโปรดิวเซอร์อีซูมาน ในการสร้างมิวสิกวิดีโอและคอนเทนต์โดยใช้วิดีโอ 3 มิติ มันเป็นอะไรที่นำสมัยมากในตอนนั้น แต่ตอนที่ผลงาน ‘Avatar’ ของโปรดิวเซอร์ James Cameron มาสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกด้วยคอนเทนต์แบบ 3 มิติ ทาง SM เองก็ได้เสร็จสิ้นในส่วนของงานวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งทำให้พวกเราสามารถทำกิจการค้าร่วมกับบริษัท Samsung Electronics และโปรดิวเซอร์ James Cameron เพื่อแสดงผลงานมิวสิกวิดีโอรูปแบบ 3 มิติของ Girls’ Generation ได้ในทันที นี่คือสิ่งที่โปรดิวเซอร์อีซูมาน ได้เตรียมการไว้สำหรับอนาคตข้างหน้า และสิ่งที่เขาเน้นย้ำว่าเป็นคีย์เวิร์ดที่สำคัญที่สุดของ SM คือ ‘The Future of Culture Technology’ (อนาคตของเทคโนโลยีทางวัฒนธรรม)
แม้ว่าจะเป็นบริษัทด้านคอนเทนต์วัฒนธรรมที่ทำดนตรีมามากกว่า 20 ปี แต่ SM เข้าใจเสมอถึงความสำคัญของการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุดตอนนี้ อาทิ IT และ AI เข้ากับคอนเทนต์ของเรา และก็ได้ดำเนินการ(เทคโนโลยี)นั้นมานานกว่า 20 ปีแล้ว ณ ตอนนี้ในยุคที่ IT, AI, คอนเทนต์ ข้ามผ่านพรมแดนพร้อมเกิดขึ้นในบริษัทและหลากหลายคอนเทนต์ พวกเราในฐานะบริษัทด้านคอนเทนต์จึงอยากที่จะทำงาน และสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมต่าง ๆ”
ทั้งนี้ งาน ‘2021 STARTUP:CON’ ที่มีกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวเป็นเจ้าภาพ และจัดขึ้นโดยหน่วยงาน Korea Creative Content Agency (KOCCA) นั้น เป็นการประชุมสตาร์ทอัพที่จัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2015 โดยมุ่งเน้นการให้ข้อมูลเชิงลึก, การสนับสนุนการลงทุน และการสร้างเครือข่าย ผ่านการปฏิสัมพันธ์และการขยายตัวระดับโลก โดยปีนี้มีผู้เข้าร่วมบรรยาย ทั้งผู้ก่อตั้ง Netflix อย่าง ‘Marc Randolph’, ศาสตราจารย์ ‘Bharat N. Anand’ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และซีอีโอ ‘Christine Tsai’ จากบริษัท 500 Global
บทความที่เกี่ยวข้อง
SM x KAIST ลงนาม MOU วิจัย metaverse มุ่งพัฒนาเชิงเทคนิค ตลอดจนเทคโนโลยีวัฒนธรรม
SM Congress 2021 | เปิดไลน์อัปคอนเทนต์ SM STUDIOS จัดเต็มรายการ-ซีรีส์ ตลอดครึ่งหลังปี 2021
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
Photo Courtesy of SM Entertainment