ใกล้จะถึงสิ้นปีแล้ว สำหรับปี 2020 ที่มีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ในหลากหลายวงการ ซึ่งรวมไปถึงวงการบันเทิงเกาหลีที่เกิดความเปลี่ยนแปลงและมีอะไรใหม่ ๆ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ดังนั้นในช่วงเดือนสุดท้ายของปีแบบนี้ จึงถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่เราจะได้มาสังเกต สำรวจ และสรุปภาพรวมกันเสียหน่อยว่า วงการบันเทิงเกาหลีปีนี้มีปรากฏการณ์หรือเทรนด์อะไรเกิดขึ้นบ้างใน #2020เกาหลีรีแคป
สำหรับบทความ #2020เกาหลีรีแคป นี้ จะพาทุกท่านมาสำรวจกับ วงการซีรีส์เกาหลีปี 2020 ที่เรียกได้ว่ากระแสของซีรีส์เกาหลีนั้นยังคงมาแรงในภูมิภาคเอเชีย ผนวกกับการเข้ามาของระบบสตรีมมิ่งต่าง ๆ ก็ยิ่งช่วยแผ่ขยายความนิยมของซีรีส์เกาหลีให้ไปไกลถึงทั่วโลกได้มากขึ้น และยิ่งเทคโนโลยีช่วยเชื่อมต่อรวมโลกของเราเข้าด้วยกันจนแทบจะแยกกับวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนออกจากกันไม่ได้แล้วนั้น ทำให้ ‘เทคโนโลยี’ ได้กลายเป็นเทรนด์ใหม่มาแรง ที่ถูกหยิบยกนำมาผูกประเด็นเป็นเรื่องราวของซีรีส์เกาหลีหลาย ๆ เรื่องในปีนี้
หากพิจารณากับบริบทของเกาหลีใต้นั้น เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้มีรายงานจากสำนักข่าว อินโฟเควสท์ ถึงการสนับสนุนจากทางภาครัฐของเกาหลีใต้ ที่ได้ทำการทุ่มงบประมาณ 24.2 ล้านล้านวอน ในปี 2563 เพื่อสนับสนุนภาควิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยยอดงบประมาณดังกล่าวเพิ่มขึ้น 18% จากระดับ 20 ล้านล้านวอนในปี 2562 เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในภาคการผลิต
นอกจากนี้ เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการเปิดเผยจากสำนักข่าว upkorea ว่า ฝ่ายปกครองเมืองแทกู ได้ประกาศแผนการจัดสรรเงินกว่า 6 ล้านดอลลาร์ สำหรับจัดการศึกษาด้านบล็อกเชน (Blockchain) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อนำบุคคลากรที่มีความสามารถจากภูมิภาคต่างๆ มาพัฒนา ด้วยหลักสูตรการสอนในด้านบล็อกเชน, AI และ Big data โดยเฉพาะ ให้ผู้เรียนได้มีสิทธิ์เรียนฟรี อีกทั้งยังเกิดวิทยาเขตบล็อกเชนและ AI ในเมือง จากการจับมือทำข้อตกลงกับสมาคมปัญญาประดิษฐ์แห่งเกาหลี (Korea Artificial Intelligence Association) อีกด้วย
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าในปีนี้ทางเกาหลีใต้ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งส่งอิทธิพลมาถึงสื่อในวงการบันเทิงที่เป็นเครื่องมือในการกล่อมเกลา หล่อหลอมความคิดด้วยอิทธิพลของ Soft Power ทำให้ซีรีส์หลาย ๆ เรื่องนั้น หันมาเล่นกับเรื่องราวของเทคโนโลยีล้ำ ๆ ไปผูกเรื่องราวด้วยการเล่าเรื่องหลากหลายสไตล์ ซึ่งในปีนี้จะมีเรื่องอะไรกันบ้างนั้น ตามไปดูได้ข้างล่างนี้เลย~
My Holo Love (Netflix)
ประเดิมเรื่องแรกด้วย My Holo Love ซีรีส์เรื่องนี้จะเล่าเรื่องราวของ ฮันโซยอน (รับบทโดย โกซองฮี) หญิงสาวผู้เผชิญกับภาวะจดจำใบหน้าคนไม่ได้ แล้วใช้ชีวิตปลีกตัวออกจากคนอื่น วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้แว่นตาหรือ โฮโลกลาส ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ของบริษัท GIO Lab ตกมาอยู่ในมือเธอ จนมีโอกาสได้พบกับ โฮโล (รับบทโดย ยุนฮยอนมิน) Hologram AI ซึ่งเป็น AI ผู้ช่วยสามมิติรายแรกของโลก ที่จะปรากฏตัวเป็นหนุ่มรูปงามเมื่อสวมแว่นโฮโลกลาสที่ผลิตขึ้นมาพิเศษเท่านั้น นั่นจึงทำให้ ฮันโซยอน กลายเป็นผู้ทดลองแว่นตาโฮโล AI นี้ไปโดยปริยาย โฮโล (รับบทโดย ยุนฮยอนมิน) จึงเข้ามาเป็นเพื่อนคลายความเหงาให้เธอรู้สึกดี แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้พบกับ โกนันโด (รับบทโดย ยุนฮยอนมิน) ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเหมือนกับโฮโลแกรมชนิดแยกไม่ออก แต่ทว่านิสัยของเขากับโฮโลกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
รับชม My Holo Love ได้ที่ Netflix
A Piece of Your Mind (tvN)
ซีรีส์บอกเล่าเรื่องราวของความรัก ระหว่าง ฮาวอน (รับบทโดย จองแฮอิน) โปรแกรมเมอร์หนุ่มเชี่ยวชาญด้าน AI ที่เงียบขรึมและใจดี เขาเคยเจอแต่กับรักที่ไม่สมหวังมาเป็นเวลาหลายปี จนวันหนึ่งเขาได้สร้างเครื่องมือด้วยระบบ AI ที่จำลองตัวตนของรักแรกขึ้นมา และเขาก็ได้เจอกับ ฮันซออู (รับบทโดย แชซูบิน) สาววิศวกรด้านการบันทึกเสียงดนตรีคลาสสิค หญิงสาวที่มักจะใช้ชีวิตด้วยพลังบวก และวันหนึ่งเธอเริ่มหลงเสน่ห์ ฮาวอน เข้า แต่เธอทำได้แค่แอบคอยมองเขาที่แอบรักใครบางคนข้างเดียวอยู่ไกล ๆ
รับชม A Piece of Your Mind ได้ที่ VIU , iQIYI และ WeTV
SF8 (MBC)
ถ้าพูดถึงเรื่องเทคโนโลยีล้ำ ๆ แล้ว คงจะไม่พูดถึงโปรเจกต์นี้ไปไม่ได้ กับ SF8 โปรเจกต์ซีรีส์กึ่งภาพยนตร์แนว Sci-Fi มิติใหม่ที่จะนำเสนอเรื่องราวของตัวละครผ่านเทคโนโลยีในหลายแขนงโดยแยกเป็น 8 ตอนจาก 8 ผู้กำกับ ของสมาคมผู้กำกับแห่งประเทศเกาหลีใต้ (Directors Guild of Korea (DGK)) ซึ่งแต่ละผู้กำกับจะนำเสนอผลงานในรูปแบบตอนเดียวจบ ที่มีความยาว 40-50 นาทีต่อซีรีส์ 1 ตอน
โดยทุกเรื่องจะสะท้อนเรื่องราวของโลกอนาคต โดยอิงเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม อาทิเช่น VR (Virtual Reality หรือโลกเสมือนจริงแบบจำลอง) AR (Augmented Reality หรือโลกเสมือนจริงที่ผนวกเอาของจริงและเสมือนจริงเข้าด้วยกัน) AI (Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์) ที่ออกมาในรูปของหุ่นยนต์มนุษย์หรือวิทยาการก้าวล้ำ ผสานกับการนำเสนอที่สะท้อความเป็นจริงในชีวิตหลากหลายมิติ เช่น ความรัก ครอบครัว มิตรภาพ ภัยพิบัติ สาธารณสุข-สุขภาพ การแพทย์ เกมบันเทิง เป็นต้น ซึ่งทั้ง 8 ตอน จะถูกถ่ายทอดออกมาด้วยแนวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ดราม่า สืบสวน แอคชัน ทริลเลอร์ โรมานซ์ คอมมาดี้ ผนวกกับเทคนิตการผลิตสื่อแบบภาพยนตร์ ที่ต้องขอบอกไว้เลยว่าสาย Sci-Fi ต้องไปตามดู! อ่านเรื่องย่อซีรีส์ SF8 ทั้ง 8 ตอนเพิ่มเติมได้ที่นี่ <คลิก>
อ่านรีวิวละครชุด SF8 Part 1 <คลิก>
อ่านรีวิวละครชุด SF8 Part 2 <คลิก>
Start-Up (tvN)
และอีกหนึ่งซีรีส์ยอดฮิตที่สร้างกระแสและถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับแวดวงธุรกิจสตาร์ทอัพ และเทคโนโลยีให้คนหันมาสนใจวงการนี้มากขึ้นได้อย่างดี คงจะเป็นซีรีส์เรื่องไหนไปไม่ได้ นอกเสียจาก Start-Up ซีรีส์ยอดนิยมที่เพิ่งลาจอกันไปเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กับเสียงตอบรับอันล้นหลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย
Start-Up เป็นซีรีส์ที่จะติดตามชีวิตของตัวละครวัยหนุ่มสาวที่เริ่มต้น (Start) และ เติบโต (up) กับการทำธุรกิจสตาร์ทอัพด้วยความฝันที่อยากจะประสบความสำเร็จใน ‘Sandbox’ ซึ่งตัวละครได้พบเจอกับ ความท้าทาย ความยากลำบาก การให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และเรื่องราวความรักของพวกเขา โดยตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นกระบวนการคิดพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) เพื่อมาตอบโจทย์วิถีชีวิตให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีตอบรับด้วยเสียงอัตโนมัติ เทคโนโลยีที่ช่วยผู้บกพร่องทางการมองเห็น ระบบตรวจสอบลายมือ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ฯลฯ ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยเหล่าสมาชิก ซัมซานเทค และ อินแจคอมปะนี กับการแข่งขันทางธุรกิจที่น่าตื่นเต้นของคนหนุ่มสาว
รับชม Start-Up ได้ที่ Netflix
Please Don’t Date Him (MBC)
ปิดท้ายกันด้วยซีรีส์ที่กำลังออกอากาศอยู่ในช่วงนี้ทางช่อง MBC กับเรื่อง Please Don’t Date Him ซีรีส์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่เล่าเรื่องของ ซอจีซอง (รับบทโดย ซงฮายุน) พนักงานสาวผู้ทุ่มเทกับการทำงานพัฒนาเทคโนโลยี AI โปรเจกต์ตู้เย็นอัจฉริยะ ที่มีชื่อว่า จังโก จู่ ๆ วันหนึ่ง จังโก ได้ทำงานผิดจากรูปแบบปกติที่เธอเคยวางไว้ จากที่ตู้เย็นนี้สามารถบอกโภชนาการแต่ละมื้อที่เหมาะสมกับสุขภาพของผู้ใช้งานและวัตถุดิบที่เหลืออยู่ภายในตู้เย็นได้ กลับกลายเป็นว่าระบบสามารถเจาะลึกข้อมูลส่วนตัวเมื่อบอกข้อมูลประวัติเบื้องต้นของบุคคลนั้น ๆ ตู้เย็นอัจฉริยะนี้จึงกลายเป็นเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถบอกข้อมูลเบื้องลึก ประวัติธุรกรรมทางด้านต่าง ๆ และแจกแจงพฤติกรรมของบุคคลนั้น ๆ ได้อย่างละเอียดยิบ จนสามารถบอกได้ว่าบุคคลไหนเป็นคนไม่ดี เรื่องราววุ่นวายต่าง ๆ จึงเกิดขึ้น และในระหว่างนั้น เธอก็ได้พบกับนักดับเพลิงหนุ่ม จองกุกฮี (รับบทโดย จุน U-KISS) ชายหนุ่มอนาล็อก ผู้ใช้ชีวิตอยู่ได้โดยแทบไม่พึ่งพาเทคโนโลยีเลย
รับชม Please Don’t Date Him ได้ที่ VIU
ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นเทรนด์ของซีรีส์เกาหลีที่น่าสนใจเลยทีเดียว ในแง่การเอาวิทยาการความรู้ทางวิทยาศาตร์ มานำเสนอในรูปแบบ Pop-Culture ผ่านซีรีส์ ซึ่งคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าเทรนด์เรื่องเทคโนโลยีแบบนี้จะถูกนำไปต่อยอดแผ่ขยายในมิติ มุมมองไหน ผ่านเรื่องราวอะไรอีกบ้าง ซึ่งถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว และสำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูเรื่องไหน อย่าลืมเก็บลงลิสต์ แล้วไปตามดูกันนะ~
บทความที่เกี่ยวข้อง
ส่องเทรนด์น่าจับตามอง กับความเปลี่ยนแปลงของวงการซีรีส์เกาหลี ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries