ปิดฉากลงอย่างอลังการ สำหรับเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 2 NCT 127 2ND TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE LINK’ ของ NCT127 บอยกรุ๊ปที่ได้รับความรักจาก NCTzen (ชื่อแฟนคลับ) ทั่วทุกมุมโลก หลังจาก 9 หนุ่มได้แสดงความยิ่งใหญ่ร้อนแรงเหนือขีดจำกัด พร้อมสร้างสรรค์ช่วงเวลาอันเหมือนฝันที่เชื่อมโยงทุกคนไว้ด้วยดนตรีและประสบการณ์แบบไม่มีที่สิ้นสุด ในวันเสาร์ที่ 3, วันอาทิตย์ที่ 4 และวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2565 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
งานนี้กระแสตอบรับดีอย่างท่วมท้นจนบัตรจำหน่ายหมดเกลี้ยงทั้ง 3 รอบการแสดง และมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 35,000 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนผู้ร่วมงานที่มากที่สุดของคอนเสิร์ตศิลปินค่าย SM Entertainment ในประเทศไทย ตอกย้ำถึงความนิยมอันถล่มทลายของ NCT 127 ได้เป็นอย่างดี
บรรยากาศของทุกวันคอนเสิร์ตนั้นเริ่มต้นด้วยความคึกคักกันตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากทางผู้จัด บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด ได้เตรียมพื้นที่สุดพิเศษให้กับเหล่า NCTzen ไม่ว่าจะเป็นโซนถ่ายภาพกับรูปศิลปินขนาดใหญ่และตู้ถ่ายภาพ เพื่อให้แฟนคลับทุกคนได้บันทึกภาพความประทับใจในวันสำคัญที่จะได้พบปะกับศิลปินที่รัก
นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานแถลงข่าว ณ ห้องประชุม วีนัส 3-4 อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 ในวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม ซึ่ง หนุ่ม ๆ NCT 127 ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกของการกลับมาจัดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่สองในประเทศไทย ในรอบ 3 ปี 6 เดือน, กระแสตอบรับจากแฟนคลับชาวไทย, ไฮไลท์คอนเสิร์ต รวมถึงอัลบั้มเต็มล่าสุดชุดที่ 4 ‘2 Baddies’ และแผนการในอนาคตอีกด้วย
‘NEO CITY : BANGKOK – THE LINK’ เริ่มต้นอย่างยิ่งใหญ่ด้วยความตื่นเต้นและเสียงเชียร์ต้อนรับ NCT 127 ที่ดังสนั่นฮอลล์ ตอกย้ำความคิดถึงและเฝ้ารอมานานหลายปี ก่อนที่การแสดงจะเริ่มขึ้นด้วยเพลงสุดฮิตอย่าง ‘Kick It’ ที่โด่งดังไปทั่วโลกกับท่าเต้นอันมีเอกลักษณ์เชิงศิลปะป้องกันตัว ตามด้วยเพลงที่เปรี้ยวซ่าโดนใจแฟน ๆ อย่าง ‘Lemonade’ และระเบิดความฮิตสุดหวานปนเท่ในเพลง ‘Cherry Bomb’ รวมถึงเพลงฮิตอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้ง ‘TOUCH’, ‘Regular’, ‘Highway to Heaven’, ‘Sticker’, ‘Favorite (Vampire)’ ตลอดจนการแสดงเพลงจากอัลบั้มล่าสุดที่ทุกคนตั้งตารอคอยอย่างเพลงไตเติล ‘2 Baddies’ และเพลง ‘Faster’ ที่มาพร้อมท่าเต้นสโลว์โมชันแบบเท่ ๆ
นอกจากบรรดาเพลงยอดนิยมที่ขนกันมาเสิร์ฟอย่างต่อเนื่องแล้ว เหล่า NCTzen ยังจะได้รับชมการแสดงโซโล่สเตจที่ถ่ายทอดเสน่ห์สุดเอกลักษณ์ของสมาชิกทั้ง 9 คน มอบหลากรสชาติและอารมณ์กันอย่างจุใจอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น แทอิล ที่โชว์ทักษะการร้องและพลังเสียงในเพลง ‘Another World’ , มาร์ค กับการแร็ปอันทรงพลังในเพลง ‘Vibration’ , แทยง กับเพลง ‘Moonlight’ ที่โชว์ความเท่แบบฟังกี้ , การเต้นโชว์เสน่ห์อันน่าหลงใหลของ จองอู และการเต้นสุดเซ็กซี่ที่เพิ่มระดับความร้อนแรงในฮอลล์ของ จอห์นนี่
ตามมาติด ๆ ด้วยเสียงร้องหวาน ๆ ของ แจฮยอน ในเพลง Lost และเสียงร้องสุดซึ้งกินใจของ โดยอง ในเพลง ‘The Reason Why It’s Favorite’ ก่อนจะตื่นตาไปกับเพลง ‘Butterfly’ ที่ ยูตะ ทั้งร้องและเต้นอย่างเข้าถึงอารมณ์ ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีการแสดงแบบยูนิตที่ แทอิล และ แฮชาน (แฮชาน) ประสานเสียงโวคอลสุดไพเราะแสงออกหูในเพลงสุดโรแมนติก ‘Love Sign’ และยูนิตแร็ปสุดดุเดือดของ แทยง และ มาร์ค ในเพลง ‘The Himalayas’
แน่นอนว่าโชว์สุดพิเศษนี้ย่อมต้องมาพร้อมกับโปรดักชันและเอฟเฟกต์สุดตระการตาที่เพิ่มอรรถรสในการรับชมอย่างเต็มที่ ทั้งเวทีสไลด์เอียง แสง สี เสียง พลุ และอุปกรณ์ประกอบฉากมากมาย รวมถึงทางเดินเวทีที่ถูกออกแบบให้ยาวขึ้น เพื่อให้แฟนคลับชาวไทยได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นอีกด้วย
ไม่เพียงแต่แฟน ๆ เท่านั้นที่ได้รับความประทับใจกลับไป เพราะทางด้านศิลปิน NCT 127 เองก็ได้รับชมโปรเจกต์ความหมายดี ๆ ที่เหล่า NCTzen ชาวไทยจัดเต็มให้สมกับที่รอคอยกันมานาน ตลอด 3 รอบการแสดง ทั้ง “คิดถึง”,“ขอบคุณที่กลับมานะ!”, “1,260 วันที่ตั้งตารอ ในที่สุดเราก็ได้มาเจอกัน ณ ที่แห่งนี้ เหมือนฝันเป็นจริงเลย!”, “พวกเรามีแค่ NCT 127 ก็พอแล้ว”, “บนถนนสาย 127 นี้ มาอยู่ด้วยกันไปจนสุดทางเลยนะ”, “จะจดจำช่วงเวลาแสนวิเศษที่ได้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขอบคุณนะ NCT 127”
ตลอดระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมงในฮอลล์ที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสีเขียวนีออนสดใสนี้ นับเป็นการสร้างสรรค์ช่วงเวลาอันเหมือนฝันที่เชื่อมโยงทั้งศิลปินและแฟนคลับทุกคนไว้ด้วยดนตรี ผ่านบทเพลงทั้งสิ้น 33 เพลง ปิดฉากคอนเสิร์ตทั้ง 3 วัน ด้วยความสำเร็จและความประทับใจที่ไม่ว่าใครก็ไม่มีวันลืม 💚
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡