เรื่องนี้เป็นละครที่เริ่มแรกมีความยาวทั้งหมด 20 ตอน หรือ 40 ตอนย่อย แต่เนื่องจากติดการถ่ายทอดสดจนงดออกอากาศไปหลายสัปดาห์จึงทำให้มีการลดเหลือ 19 ตอน หรือ 38 ตอนย่อย เป็นละครที่ใช้เสน่ห์ในการทำอาหารจีนมาเป็นจุดขายเพื่อเอาใจทั้งนักชิมและผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหาร เพิ่มเติมกับเรื่องราวความรักแบบผ่อนคลายและไม่ทำให้คิ้วผูกโบว์ เสริมทัพด้วยทีมนักแสดงที่เห็นรายชื่อแล้วค่อนข้างถูกใจเป็นการส่วนตัว จากสิ่งเหล่านี้พอการันตีความน่าสนใจของเรื่องนี้ได้พอสมควร พอนับข้อดีได้ครบตามที่ต้องการแล้ว จึงไม่รีรอที่จะขอลองชิม … และขอลองชมว่ามันน่าสนุกและน่าอร่อยมากน้อยแค่ไหน
จุดเริ่มต้นของเรื่องราว “กระทะแห่งความรัก”มาจากความตกต่ำของทั้ง 3 ตัวละครหลัก เชฟซอพุง (รับบทโดย จุนโฮ) ทำงานอยู่ในโรงแรม Giant ที่หรูหราระดับ 6 ดาวในห้องอาหารจีนชั้นสูงสุดของโรงแรมและเป็นตัวเก็งที่จะได้เป็นหัวหน้าเชฟคนต่อไปแต่ถูกหักหลังจึงต้องระเห็จออกไปและต้องการแก้แค้นจึงไปทำงานที่ร้านอาหารจีนตรงข้ามโรงแรมเพื่อจะแย่งลูกค้าด้วยฝีมือการทำอาหารของตนเอง จนได้มาพบกับ หัวหน้านักเลงโดชิลซอง (รับบทโดย จางฮยอก) ที่มาเปิดร้านอาหารจีนเพื่อต้องการให้ลูกน้องเลิกทำอาชีพนี้และมีอนาคตที่สดใสแต่ร้านอาหารกลับไม่มีลูกค้าเลย และทั้งคู่ได้มาพบกับ ไฮโซที่เคยรวยแต่ตอนนี้จนกรอบ สาวน่ารักอ่อนกว่าวัยอย่าง ดันแซอู (รับบทโดย จองรยอวอน) ที่ต้องมาทำงานที่ร้านอาหารเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ
เกล็ดความรู้เรื่องอาหารจากในละคร
- จาจังมยอน (짜장면)– บะหมี่ราดซอสถั่วดำ ซึ่ง จาจัง หมายถึง ซอสถั่วดำ และ มยอน หมายถึง เส้นบะหมี่ เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจานหนึ่งในเกาหลีใต้ นิยมทานกับ ทังซูยุก
- ทังซูยุก (탕수육) – หมูผัดเปรี้ยวหวานในแบบของเกาหลีใต้ จะแตกต่างจากของไทยคือมีการใส่น้ำมันงา และถึงแม้จะเป็นอาหารที่นิยมรับประทานกันทั่วไปในแบบเดลิเวอรีแต่คนเกาหลีจัดอาหารนี้อยู่ในประเภทอาหารจีน
- โอมากาเสะ (お任せ) – มาจากภาษาญี่ปุ่น เป็นศาสตร์การทำอาหารที่เชฟจะเป็นผู้เลือกเมนูให้กับลูกค้าเอง ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นเชฟที่มีชื่อเสียงและได้รับการไว้วางใจจากลูกค้ามาเป็นเวลานาน
การเล่าเรื่องราวในช่วงแรกค่อนข้างช้าจนน่าเบื่อและไม่ค่อยมีใจความสำคัญอะไรมากนัก ออกจะตลกเรื่อยเปื่อยซะมากกว่าจนอยากจะเทไปหลายรอบ แต่ก็พยายามดูต่อไปแบบไม่กดข้ามใดๆจนถึงช่วงกลาง แต่หลังจากนั้นมันก็กลับสนุกมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆจนคิดขึ้นในใจว่า “ดีนะ ไม่ได้เท 555” สิ่งที่ขอชื่นชมก่อนเป็นอย่างแรกเลยคือ การใส่รายละเอียดภาพและขั้นตอนการทำอาหารได้น่าสนใจและลงในรายละเอียดได้ดี ซึ่งจากที่เคยได้ดูคลิปการเตรียมตัวก่อนถ่ายทำ จุนโฮได้รับการฝึกฝนการทำอาหารอย่างหนักนั่นอาจจะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การสวมบทเชฟของเขาเหมาะสมและสมจริงได้เป็นอย่างดี อาหารทุกจานน่ารับประทานและสามารถรังสรรค์อาหารจีนหน้าตาแปลกใหม่ที่ทำขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจและถูกใจเหล่าแฟนคลับที่ชอบรับชมการทำอาหารผ่านหน้าจอทีวีได้อย่างแน่นอน
จุดแข็งของละครเรื่องนี้ที่ทำให้เนื้อเรื่องสนุกมากขึ้นเรื่อยๆคงจะหนีไม่พ้นเหล่าทีมนักแสดง ต้องยอมรับเลยว่า 3 นักแสดงหลักไม่ว่าจะเป็น จุนโฮ 2PM ที่ผ่านงานแสดงมาไม่ได้เยอะมากแต่การพัฒนาฝีมือของเขาไม่เคยหยุดจริงๆ ติดใจมาตั้งแต่ “Just Between Lovers” จนมาถึงเรื่องนี้ก็ยังชอบเหมือนเดิม แต่ในส่วนความเซียนของ จองรยอวอน และ จางฮยอก ขอไม่เอ่ยยืดยาวอ้างอิงได้จากลิสต์ผลงานที่ยาวจนนับไม่หวาดไม่ไหว และ อีมีซุก ที่รับบทถึง 2 บทบาทเป็นทั้งแม่ของ ดันแซอู และ โดชิลซอง ซึ่งตอนแรกยังไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมทำแบบนี้แต่พอดูไปเรื่อยๆกลับรู้สึกว่า อีมีซุก ทำได้ดีมากจริงๆ สามารถแยก 2 คนนี้เป็นคนละคนได้อย่างแนบเนียนหมดจดถือว่าเป็นความท้าทายที่เธอสามารถก้าวข้ามมาได้ และขอชื่นชมทั้งทีมนักแสดงที่ทำได้ดีทุกคนจริงๆ ถึงแม้เรื่องราวของละครไม่ได้ความแปลกใหม่มากมายอะไร แต่เพราะการแสดงที่ดีของทุกคนกลับทำให้เป็นละครที่สนุกได้อีกเรื่องเลยค่ะ
ตัวละครหลักของเรื่อง เชฟซอพุง ขอวิเคราะห์เชิงลึกนิดหนึ่ง ข้อดีของตัวละครนี้คือด้วยความที่รักในการทำอาหารจีนเวลาที่จะต่อสู้กับศัตรูหรือบอกรักแฟน เขาจะใช้การทำอาหารจีนเป็นสื่อกลางทุกครั้ง ซึ่งแสดงถึงความหลงใหลและรักในอาชีพของตน ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของความมุ่งมั่นและความรักในอาชีพที่ตนทำ
แต่ข้อเสียของเชฟก็คือ เวลาจะทำอะไรมักจะพูดว่า “เผื่อว่า” แม้กระทั่งในเรื่องความรัก จน ดันแซอู นางเอกที่แอบชอบเชฟและมีนิสัยจริงใจซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเอง ทนไม่ไหวต้องพูดว่า “ไม่ต้องเผื่อจะดีกว่ามั๊ย มีอะไรก็คุยกันตรงๆเลย” …. คำว่า “เผื่อว่า” หมายถึงความโลเล ซึ่งในเรื่องความรัก มันไม่ควรโลเล ชอบคือชอบ ไม่ชอบคือไม่ชอบ มันก็แค่นี้เอง ^^
“จงแหงนมองที่ฟ้า อย่าหันมองที่เท้า”
คำคมประจำซีรีส์จากคุกกี้เสี่ยงทายที่ ดันแซอู ได้จากภัตตาคารอาหารจีนในตอนที่ 2 เพื่อสอนเราว่าให้เชิดหน้าไว้อย่าทำคอตกหรือท้อแท้ต่อชีวิต …. การดำเนินชีวิตด้วยความหลงใหลในการทำอาหารจีนของเชฟซอพุง กับ เสน่ห์ความเท่ในแบบแบดบอยเย็นชาของ โดชิลซอง ใครกันที่จะสามารถชนะใจของนางเอก ดันแซอู สาวไฮโซตกอับคนนี้ได้ นอกจากเรื่องความรักแล้ว ยังมีร้านอาหารที่พวกเขาต่างต้องช่วยกันทำให้มันไปรอดให้ได้อีก กับความรักสามเส้า และเรื่องราวการทำอาหารจีนที่ไม่ได้อยู่แค่ในครัว แค่สิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้ผู้ชมไม่มีเวลาจะหมดสนุกแล้วค่ะ …
“Wok of Love” ซีรีส์ที่จะทำให้คุณทั้งหิว…และทั้งฟิน
ติดตามข่าวสารจากเราได้ทาง
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Sources (1) (2) (3)
Photo Credit (1)
