ท่ามกลางซีรีส์มากมายในช่วงนี้ที่เต็มไปด้วยแนวสืบสวน แอคชั่น ไซไฟ ดราม่า เนื้อหาหนัก ๆ จนต้องกำพาราดู เราได้ค้นพบซีรีส์ She Would Never Know ที่เรียกได้ว่าเป็นที่พักใจของบรรดาเรื่องต่าง ๆ ในช่วงนี้ ตัวซีรีส์เนื้อหาไม่ได้หวือหวา ไม่ได้เบาหรือหนักจนเกินไป เป็นซีรีส์ที่เหมาะกับคนที่ต้องการจะหาอะไรดูเพลิน ๆ กับเรื่องราวความสัมพันธ์รักอันซับซ้อนในที่ทำงาน ข้ามผ่านมาถึงโมเมนต์หวานๆดีต่อใจของตัวละครในเรื่องในปลายทาง
คลิกชมซับไทย She Would Never Know ผ่านเว็บ iq.com | คลิกชมซับไทย She Would Never Know ผ่านแอป iQIYI
She Would Never Know เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงเรื่องราวจากนวนิยายออนไลน์ Sunbae Don’t Put on That Lipstick ที่เผยแพร่เมื่อปี 2017 เล่าเรื่องราวของ แชฮยอนซึง (รับบทโดย โรอุน SF9) ซึ่งเขาเข้ามาทำงานในบริษัทเครื่องสำอาง KLAR และแอบชอบ ยุนซงอา (รับบทโดย วอนจินอา) ผู้เป็นรุ่นพี่ของเขาในที่ทำงาน แชฮยอนซึง เฝ้ามองและแอบชอบ ยุนซงอา อยู่นาน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้มาล่วงรู้ว่า ยุนซงอา มีแฟนอยู่แล้ว และไม่ใช่ใครที่ไหนไกล แฟนของเธอ คือ หัวหน้าแผนก อีแจชิน (รับบทโดย อีฮยอนอุค) ที่ทั้งคู่แอบคบกันอย่างลับ ๆ ในที่ทำงานมานานกว่า 2 ปี
หลังจากที่ล่วงรู้ความสัมพันธ์ลับ ๆ นี้ แชฮยอนซึง แทบจะถอดใจจากความรักที่ยังไม่ได้เริ่มของเขา แต่ทว่าเขาได้บังเอิญเห็นเต็มตา ว่า อีแจชิน แฟนของรุ่นพี่ที่เขาแอบชอบ กำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน เธอคนนั้น คือ อีฮโยจู (รับบทโดย อีจูบิน) ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงหลานสาวผู้ก่อตั้งบริษัท KLAR
เพื่อที่จะปกป้องยุนซงอา แชฮยอนซึงจึงได้รวบรวมความกล้าพา ยุนซงอา ไปพบกับความจริงนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่น่าติดตามขึ้นในเรื่อง เมื่อ แชฮยอนซึง ได้บอกชอบยุนซงอา พร้อมกับการเสนอตัวเป็นแฟนหลอก ๆ ของเธอ เพื่อที่จะเอาคืนสิ่งที่อีแจชินทำกับเธอไว้
การที่ แชฮยอนซึง เข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น จะสามารถสมานรอยแผลในใจ และทำให้ ยุนซงอา เกิดความรู้สึกหวั่นไหวได้หรือไม่ อย่างไรคงไปลองติดตามกันดู…
ความน่าสนใจของเรื่องนี้ อยู่ตรงที่ setting ของเรื่องเป็นบริษัทผลิตเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นอาชีพที่เรียกได้ว่าไม่เคยเห็นมาก่อน ในเรื่องจะมีแทรกถึงการทำงานของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นเช็คสต็อก สั่งสินค้า ประชุมงาน ศึกษาตลาด เทสสินค้า จัดงานอีเวนต์ เวิร์คช็อป แก้ไขแพคเกจจิ้ง แม้จะไม่ได้ลงลึกอะไรมากมาย แต่ว่าซีรีส์ได้นำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจ และดูเพลินกับส่วนนี้ไม่น้อย และเนื่องจากตัวละครพระนางทำงานที่เดียวกัน ฉะนั้นผู้ชมก็จะได้เห็นโมเมนต์ที่ทำให้หัวใจเต้นแรง ระหว่างกระบวนการทำงานของพวกเขาด้วย >__<
ขอมาโฟกัสที่ตัวละคร แชฮยอนซึง คาแรคเตอร์ของตัวละครนี้ถ้าจะให้นิยาม เขาคือ ‘หนุ่มเลือดร้อนผู้คลั่งรัก’ อย่างแท้จริง ส่วนตัวเข้าใจในความรักและความหวังดีของตัวละครที่อยากคอยเอาใจใส่ดูแลของตัวละคนนี้ แต่ในช่วงต้นเรื่องตัวละครแชฮยอนซึงค่อนข้างรุกมากเกินพอดีชนิดที่ถ้าเจอในชีวิตจริงอาจจะไม่สะดวกใจได้5555 ซึ่งพอผ่านไปดูเหมือนว่าเขาจะค่อยๆรักษาระยะห่างความสัมพันธ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับดูมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
เรื่องนี้ได้เห็นโรอุนในโหมดที่อัปสเกลแตกต่างจาก Extraordinary You ผลงานก่อนหน้าของเขาอย่างสิ้นเชิง และความคลั่งรักที่โรอุนถ่ายทอดออกมาจนทำให้เชื่อว่าเขาทุ่มเท และ รักอย่างหมดหัวใจจริง ๆ อบอุ่นดั่งเตาผิงไปอีก ทำเอาอยากมีคนมาเอาใจ ใส่ใจ ห่วงใยแบบฮยอนซึงบ้างเลย~
ในฟากฝั่งของ ยุนซงอา เป็นผู้หญิงในวัยที่ทุกอย่างกำลังจะลงตัวอย่างสวยงาม ทั้งหน้าที่การงาน และความรัก ถ้าจินตนาการว่าแฟนที่คบกันมาจนรู้สึกอยากที่จะลงหลักปักฐาน กลับกำลังจะไปแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน…แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่ฝันร้าย แต่ว่ากลายเป็นรอยแผลขนาดใหญ่ที่ตัวละครเผชิญอย่างไม่คาดคิด แต่ยุนซงอา กลับประคองตัวเอง สามารถที่จะควบคุมอารมณ์และข่มความเจ็บปวดของตัวเองเอาไว้ภายในระหว่างที่ทำงานได้ ใครที่พบเจอแบบเธอจริงๆ อาจจะใจพังจนกระทบกับงานไปเลยก็มี
ส่วนตัวรู้สึกว่า วอนจินอา ถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาได้ดี และบทเหมาะกับเธอมาก โดยเฉพาะภาพลักษณ์ที่เป็น ‘รุ่นพี่ที่น่าทะนุถนอม’ ด้วยความตัวเล็กตัวน้อยของเธอที่มาเจอกับหนุ่มร่างสูงใหญ่อย่างโรอุน ยิ่งทำให้รู้สึกว่าทั้งสองคนมีความเข้ากัน และมาเติมเต็มกันและกันได้ ซึ่งถ้าดูในเรื่องเคมีของทั้งคู่นั้นดีงามเกินคาดเลยล่ะ!!
นอกจากความสัมพันธ์ของพระนางที่ดีต่อใจแล้ว ความสัมพันธ์ของตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องยังมีความน่ารัก และ ฟิลกู้ด โดยเฉพาะความสัมพันธ์ครอบครัวของฮยอนซึง ที่พี่น้องทั้ง 3 คน คอยเอาใจใส่ เป็นกำลังใจ และคอยเคียงข้างกันเสมอ ยังไม่รวมถึงประเด็น LGBT ที่ไม่คาดคิดว่าจะมีนำเสนอผ่านตัวละครในเรื่องนี้ด้วย
และสิ่งที่ดึงดูดความสนใจอีกอย่าง คือ การกำกับภาพ รวมไปถึง แสง-สี ของเรื่องนี้ สามารถนำเสนอออกมาละมุนตา และดีต่อใจตลอดเรื่อง ด้วยหลายองค์ประกอบที่พูดมา ทำให้ซีรีส์ที่ในตอนแรกเหมือนจะธรรมดา ๆ แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วกลับดูเพลิน ๆ จนจบเรื่องเฉยเลย ใครที่ต้องการดูซีรีส์ที่ไม่ได้มีเนื้อหาที่หนักเกินไป หรือเบาจนเกินไป มาดูกันแบบเพลิน ๆ ได้ใน She Would Never Know นะ~
คลิกชมซับไทย She Would Never Know ผ่านเว็บ iq.com | คลิกชมซับไทย She Would Never Know ผ่านแอป iQIYI
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡