สิ้นสุดการรอคอยสำหรับแฟน ๆ ซีรีส์ Love Alarm หลังจากที่ภาคต่อในชื่อ Love Alarm 2 เพิ่งออกอากาศให้ได้ชมกันไปเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา โดยในซีรีส์ภาคต่อนี้ตัวละครหลักทุกคนยังอยู่ครบถ้วน ส่วนแอปพลิเคชัน Love Alarm ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่สุดในเรื่องก็ได้พัฒนามาถึงเวอร์ชัน 2.0 และอีกประเด็นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือในซีรีส์ภาคต่อนี้ ถือเป็นบทสรุปความรักของตัวละครหลักทั้งสามที่แฟน ๆ รอกันมาตั้งแต่ปี 2019
บทความที่เกี่ยวข้อง : ชวนคิมโซฮยอน-ซงคัง มาร่วมพูดคุยก่อนดูซีรีส์ Love Alarm 2 พร้อมกันทั่วโลก
และในวันนี้ วันที่เราดูซีรีส์ Love Alarm ครบถ้วนทุกฉาก ทุกตอน และคิดว่าพอเห็นภาพกว้าง ๆ ของซีรีส์โรแมนติก (พ่วงดราม่า) ของเรื่องนี้พอสมควร จะขอมาสรุปให้ฟังสั้น ๆ ว่า ถ้าคุณอยู่ ทีมฮวังซอนโอ สิ่งที่จะได้เจอในซีซั่น 2 นี้จะมีอะไรบ้าง และถ้าคุณคือ ทีมอีฮเยฮยอง ชายที่เคยมีการคาดเดากันว่าน่าจะเป็นพระเอกของซีซั่นนี้รึเปล่า และเขาจะต้องประสบพบเจอกับอะไร
ยังไม่บอกว่าสรุปแล้วพระเอกของเรื่องจะเป็นใคร แต่อยากชวนให้ใช้บทความนี้ประกอบการตัดสินใจว่า ควรไปต่อหรือพอแค่นี้กับซีรีส์ Love Alarm 2 !
*บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์
Love Alarm เป็นผลงาน Original Netflix ที่เล่าเรื่องความรัก-ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจาก คิมโจโจ (รับบทโดย คิมโซฮยอน) หญิงสาวที่เบื้องหน้าดูเป็นนักเรียนธรรมดา ๆ แต่ความจริงเธอมีอดีตอันเจ็บปวดและต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ทุก ๆ ความยากลำบากและความสู้ชีวิตของคิมโจโจอยู่ในสายตาของ อีฮเยฮยอง (รับบทโดย จองการัม) เพื่อนร่วมโรงเรียนซึ่งตกหลุมรักและเฝ้ามองคิมโจโจมาโดยตลอดโดยที่ไม่เคยกล้าเผยความในใจออกไป
อีฮเยฮยองเป็นเด็กหนุ่มจิตใจดีที่อาศัยอยู่ชั้นใต้ดิน ณ คฤหาสน์ของ ฮวังซอนโอ (รับบทโดย ซงคัง) ลูกชายนักการเมืองและดาราดัง ด้วยความที่ต้องเติบโตภายใต้ความกดดันและการสร้างภาพ ทำให้ฮวังซอนโอเป็นคนเย็นชา ไม่สนใจใคร เพื่อนข้างกายที่เขายอมเปิดใจมีเพื่อนอีฮเยฮยอง
เพราะเสน่ห์ ความสดใจ ประกอบกับจิตที่ดีของคิมโจโจ ทำให้เพื่อนรักอย่าง อีฮเยฮยอง กับ ฮวังซอนโฮ ต่างตกหลุมรักเธอ และเรื่องยิ่งยุ่งยากขึ้นไป เมื่อบ้านเมืองตอนนั้นกำลังให้ความสนใจกับ Love Alarm (หรือ Joalarm) แอปพลิเคชันที่ช่วยเปิดเผยความในใจโดยไม่ต้องพูดออกมา แต่จะใช้การแจ้งเตือนหากมีคนที่ชอบคุณอยู่ในระยะ 10 เมตร
ในขณะที่ ฮวังซอนโอ แสดงออกชัดเจนว่าเขาชอบ คิมโจโจ มากกว่าใคร ส่วน อีฮเยฮยอง ที่เฝ้ามองเธอมานานกว่าแต่ไม่เคยกล้าเผยความในใจ คิมโจโจเองที่มีปมฝังใจในวัยเด็ก ทำให้เธอเองก็ไม่กล้าเผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมาเป็นคำพูด เธอจึงเลือกให้แอปพลิเคชัน Love Alarm นำทางความสัมพันธ์ในครั้งนี้ ซึ่งบทสรุปจะเป็นอย่างไร อยากชวนให้ทุกคนติดตามด้วยตัวเองในซีรีส์ทั้ง 2 ซีซั่น
*สำหรับใครที่อยากเริ่มดูที่ซีซั่น 2 แนะนำให้เปิดดูซีซั่น 1 มาก่อน จะช่วยให้ไม่สับสนและเข้าใจที่มาทีไปในเรื่องมากขึ้น
ทีมฮวังซอนโอ
“ตั้งแต่นี้ไป ฉันจะเชื่อแค่สายตาของเธอ”
กลับมาคราวนี้ ฮวังซอนโอ ยังคงคอนเซปต์หล่อ รวย เท่ และทุ่มทั้งใจให้เธอเหมือนเดิม ในซีรีส์ Love Alarm 2 เราจะได้เห็นฮวังซอนโอในมุมที่โตขึ้น มีความคิดที่เป็นเหตุเป็นผล และต้องการคำตอบในทุกเรื่องที่สงสัย ซึ่งเขาเองก็เป็นฝ่ายพยายามค้นหาคำตอบนั้นด้วยตัวเอง ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ ครอบครัว ไปจนถึงหน้าที่การงานหรือการทำตามความฝันของตัวเอง
ในพาร์ตความสัมพันธ์ เราชอบการที่ฮวังซอนโอก็ยังคงมีแอปพลิเคชัน Love Alarm อยู่ในมือ แต่เขากลับไม่ได้ยึดให้มันคือสิ่งสำคัญของชีวิตมากขนาดนั้น (เมื่อเทียบกับตัวละครอื่น ๆ) ในขณะที่ Love Alarm ของฮวังซอนโอแจ้งเตือนว่ามีคนชอบอยู่ตลอดเวลา แต่เขากลับไม่ค่อยมอบหัวใจหรือแสดงออกว่าชอบพอใครบ่อยนัก ความจริงใจและมั่นคงในความรู้สึกของตัวเองนี่แหละที่เป็นข้อดีและทำให้เขาครองใจแฟน ๆ ซีรีส์ได้เสมอมา
และอีกหนึ่งสิ่งที่อยากปรบมือและมอบรางวัลการแสดงยอดเยี่ยมให้ ซงคัง หรือ ฮวังซอนโอในเรื่อง คือเราว่ามาในซีซั่นนี้ ซงคังถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครออกมาได้ดีมาก ๆ ราวกับว่าสั่งน้ำตาให้ไหลได้เลย และหากเป็นฉากน่ารักสดใส เขาคนนี้ก็ทำได้ดีอย่างไม่มีข้อกังขาเช่นกัน
ทีมอีฮเยฮยอง
“ถ้าเธอทิ้งฉัน ฉันก็จะยอมโดนทิ้ง นั่นคือความรักสำหรับฉัน”
ออกตัวก่อนว่าเราเองอยู่ทีมนี้มาตั้งแต่ Love Alarm ซีซั่นแรก จะเพราะด้วยชอบรูปร่างหน้าตาและเสน่ห์ของ จองการัม หรือด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ ถ้ามีจุดไหนที่อวยเขาเยอะไปนิดก็ขออภัยด้วย ><
มาใน Love Alarm 2 เห็นได้ชัดเลยว่าแอร์ไทม์ของ อีฮเยฮยอง เยอะกว่าซีซั่นก่อนหลายเท่าตัว ด้วยความที่เปิดเรื่องมาว่าเขากำลังคบหากับ คิมโจโจ อย่างเปิดเผยก็เป็นเหตุผลหนึ่ง และการที่อีฮเยฮยองคือตัวแทนของความเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่าความรู้สึกของคิมโจโจจะเป็นอย่างไร จะเหวี่ยงหรือตีลังกา 18 ตลบขนาดไหน ส่วนใหญ่เขาก็จะยังตอบรับความรู้สึกของเธอด้วยท่าทีที่เหมือนเดิม (ที่บอกว่า ‘ส่วนใหญ่’ เพราะมีจุดที่ทำให้อีฮเยฮยองเปลี่ยนไปเล็กน้อยอยู่บ้าง แต่ขออุบไว้ว่าเพราะอะไร อยากให้ได้ดูเองจริง ๆ)
สำหรับฟีดแบ็กของคนที่ได้ดู Love Alarm 2 แล้ว ส่วนใหญ่มักมีจุดให้ขัดใจกันไม่มากก็น้อย แต่สำหรับเรา ตัวแทนหมู่บ้านผู้สนับสนุนคาแรกเตอร์และความคิดความเชื่อแบบตัวละครอีฮเยฮยองมาตลอด เราอยากชวนให้ทุกคนที่ชื่นชอบความสัมพันธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่มั่นคงและค่อย ๆ สร้างความมั่นใจให้กัน ให้ติดตามสิ่งที่อีฮเยฮยองจะปฏิบัติต่อคิมโจโจ เราว่านั่นคือตัวอย่างความรักที่ดีในอีกรูปแบบหนึ่ง
ทีมคิมโจโจ
“เรื่องที่ฉันทำคนเดียวไม่ได้ คือการซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองและสารภาพรักออกไป”
เชื่อว่ามีแฟน ๆ คอซีรีส์อีกไม่น้อยที่ขอไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และแอบให้กำลังใจ คิมโจโจ อยู่ห่าง ๆ มาใน Love Alarm 2 ความน่ารัก สดใส และจิตใจที่ดีของเธอก็ยังคงมีให้เห็นกันอยู่ ส่วนในพาร์ตความสัมพันธ์ แม้จะตกลงปลงใจไปแล้วว่าเลือกให้ใครคือคนที่ได้ยืนเคียงข้าง แต่ดูเหมือนว่าคิมโจโจ ก็ยังไม่กล้าจะเอ่ยปากบอกความรู้สึกที่แท้จริงออกไป และยังหวังให้แอปพลิเคชัน Love Alarm เป็นตัวช่วยอยู่ดี
มาในซีซั่น 2 นี้ แอปพลิเคชัน Love Alarm เวอร์ชัน 2.0 ได้เพิ่มฟีเจอร์ ‘คนที่อาจชอบคุณ’ หรือการประมวลผลว่า จากผู้ที่ใช้งานแอปพลิเคชันทั้งหมด มีใครที่มีแนวโน้มว่าจะชอบพอคุณอยู่บ้าง ซึ่งฟีเจอร์นี้ตอบโจทย์การใช้งาน และทำให้ Love Alarm กลายเป็นของสามัญที่ใคร ๆ ก็ต้องมีติดตัวไว้ ส่วนคิมโจโจผู้ได้รับของขวัญพิเศษสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานไปในซีซั่นแรก มาในซีซั่นนี้ ก็ถึงเวลาที่เธออยากลบอาวุธลับออกไป
ในซีซั่นแรก อาวุธพิเศษที่คิมโจโจได้รับคือ ‘โล่กำบัง’ ใช้สำหรับปกปิดความในใจไม่ให้แสดงออกว่าชอบพอใคร เรียกว่าที่ผ่านมา คิมโจโจเป็นฝ่ายรับทราบความรู้สึกของคนอื่นอยู่เสมอ แต่เธอกลับไม่เคยเผยมันออกไปให้ใครรู้ พอมาในซีซั่น 2 ดูเหมือนว่าจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้คิมโจโจอยากลบอาวุธชิ้นนั้น เพื่อแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกไปหาใครสักคน คนที่เธอเองก็อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร แล้วคิมโจโจและสามารถลบโล่กำบังออกได้หรือไม่ หรือจะมีวิธีไหนที่เธอได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเธอรักใครกันแน่ อย่าลืมติดตามพร้อมกัน แล้วจะรู้ว่า กว่าที่คิมโจโจจะกล้าฝ่าปมในอดีตไปพร้อม ๆ กับเผยความรู้สึกออกไป เธอก็ต้องเผชิญกับความยากลำบากไม่แพ้ใครเลย
ในภาพรวม เรามองอย่างเป็นกลางว่าเนื้อเรื่อง Love Alarm 2 ดำเนินไปอย่างพยายามให้มีความเป็นเหตุเป็นผลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว แม้ผลสุดท้ายอาจจะถูกตั้งคำถามอยู่บ้าง แต่คิดว่านั่นคงเป็นความตั้งใจของทีมงานที่ต้องการสื่อว่า สุดท้ายแล้ว Love Alarm ก็เหมือนกับเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ผ่านมาแล้วก็จะผ่านไป เราใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นตัวช่วยหรือทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นได้ แต่คงไม่สามารถยึดมันเป็นทั้งหมดของความสัมพันธ์หรือการดำเนินชีวิต และเหนือสิ่งอื่นใด โลกนี้คงวุ่นวายยิ่ง ๆ ขึ้นไป หากคนเราเลือกที่จะใช้การแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันแทนการบอกรัก และใช้การประมวลผลผ่านระบบแทนการพิจารณาจากหัวใจ
รับชม Love Alarm ทั้งสองซีซั่นได้ที่ : Netflix
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
