ละครที่บอกเล่าเรื่องราวการทำงานของทีมตำรวจลาดตระเวนประจำสถานีเขตฮงอิล ซึ่งถือเป็นเขตที่มีเหตุความวุ่นวายเยอะที่สุดหนึ่งเขตเลยก็ว่าได้ เรื่องราวเริ่มต้นที่ 3 ตำรวจหน้าใหม่ที่เพิ่งเสร็จสิ้นการฝึกมาอย่างหนัก ยอมซังซู (รับบทโดย อีกวางซู), ฮันจองโฮ (รับบทโดย จองยูมิ) และ อียูจอง (รับบทโดย ซงฮเยริ) โดยมีครูฝึกสุดโหดอย่าง โอยางชน (รับบทโดย แบซองอู) หนึ่งในตำรวจที่ในวงการนี้ต่างกล่าวขวัญถึงความบ้าระห่ำและเก่งในการทำคดี ด้วยความไฟแรงทั้ง 3 คนจึงขอมาประจำที่เขตนี้เพื่อความก้าวหน้าและผลงาน แต่จากทุกคดีที่ต้องแก้ไข ทุกเหตุการณ์ที่ต้องเผชิญ และทุกความเดือดร้อนของประชาชน จึงทำให้พวกเขารู้ว่า คดีเหล่านี้ถึงจะทำให้ได้ความก้าวหน้า แต่นั่นคือความทุกข์ของเหยื่อของผู้เคราะห์ร้าย … ละครที่บอกมากกว่าการตามหาตัวคนร้าย ละครที่สื่อมากกว่าวิธีการแก้ไขคดี ละครที่ให้มากกว่าความสนุก กับการให้คำจำกัดความของคำว่า “ชีวิต” ที่ทำให้เรารักและเป็นห่วงตัวเองมากขึ้นกว่าที่เคยเป็น
ก่อนที่จะไปถึงประเด็นต่าง ๆ ขอปรบมือดัง ๆ ให้กับผลงานอีกชิ้นที่กินใจและสนุกมากโดยไม่ต้องใช้พระเอกหล่อมาเป็นจุดขาย เสียงปรบมือนี้ขอมอบให้ นักเขียนที่ส่วนตัวติดตามผลงานมาระยะหนึ่งแล้ว โนฮีคยอง เคยฝากผลงานไว้กับ Dear My Friends (สนุกมาก ขอเชียร์เป็นการส่วนตัวค่ะ), The Most Beautiful Goodbye และอีกมากมาย กับ คุณผู้กำกับ คิมคยูแท กับผลงานก่อนหน้านี้ที่เคยร่วมงานกับนักเขียนคนเดียวกันนี้คือ It’s OK That’s Love, That Winter the Wind Blows และอีกมากมายเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนนี้ได้ร่วมงานกันทีไร ก็ทำให้ผู้ชมอิ่มเอมใจไปกับละครดี ๆ อีกเรื่องได้ทุกครั้งไป ยอมรับส่วนตัวว่า ก่อนจะดูเรื่องนี้ เห็น อีกวางซู เป็นพระเอก ความสนใจลดลงไปหลายคะแนน เพราะไม่ค่อยชอบละครตลกซักเท่าไหร่ แต่หลังจากได้หลงเข้าไปชมแล้ว ขอบอกเลยว่านี่ไม่ใช่ละครตลกไร้สาระเฮฮาปาจิงโกะ แต่นี่คือละครดราม่าสะท้อนชีวิตทั้งตำรวจและคนทั่วไป บอกเล่าถึงปัญหาในสังคมได้อย่างจิกกัดและบดบี้ขยี้หัวใจจนเสียน้ำตาให้ไปในหลาย ๆ ตอน ขอชื่นชมอีกอย่างว่า เรื่องนี้โฆษณาแฝงก็มีบ้างตามปกติ แต่ทำได้เนียนเข้ากับเนื้อเรื่องและไม่เสียอรรถรสในการรับชมเลย ถือว่าผ่านมากสำหรับจุดนี้ค่ะ
นอกจากผู้กำกับและนักเขียนบทแล้วยังมีทีมนักแสดงหลักทั้งหน่วยทีมตำรวจไม่ว่าจะเป็น อีกวางซู เห็นหน้าตาตลกขี้เล่นแบบนี้เล่นดีจนอยากจะปารางวัลใส่มือเลย, จองยูมิ หลงรักฝีมือและหน้าตาน่ารักของเธอมานานแสนนานจนถึงเรื่องนี้ก็ยังเหมือนเดิม, แบซองอู ไม่ได้รับละครมาตั้งแต่ปี 2013 กลับมาเล่นอีกทีก็ไม่ทำให้ผิดหวัง, แบจางอ๊ก เล่นเก่งสมจริงแบบหน้าตายและเข้าถึงบทเป็นอย่างมาก, คุณลุงซองดงอิล เป็นอีกหนึ่งบุคลากรทางการแสดงที่ควรค่าแก่การเอาเป็นเยี่ยงย่างอย่างที่สุด และทุกคนที่เหลือกล่าวถึงไม่หมด รวมถึงทีมงานทุกคนที่ทำให้ผลลัพธ์ออกมามีคุณภาพแบบนี้
จุดแข็งที่ทำให้ละครเรื่องเป็นละครน้ำดีที่น่าดูอย่างมากคือ การเล่าเรื่องจากพื้นฐานความสมจริงได้อย่างสนุกกลมกล่อมและน่าติดตาม เริ่มที่การจิกกัดเบี้ยเลี้ยงตำรวจเช่น ถ้าอยากฝึกซ้อมยิงปืน ต้องออกเงินค่าฝึกเอง หรือ ถ้าอยากมีไม้ตะบองป้องกันแบบใช้ดีกว่าของที่ทางสถานีให้ ต้องซื้อเอง และอีกมากมายที่สื่อออกมาให้รู้เลยว่า สวัสดิการของตำรวจเกาหลีใต้ตอนนี้มันยังไม่สามารถรองรับการพัฒนาประสิทธิภาพของเหล่านายตำรวจได้อย่างแท้จริงในหลาย ๆ ด้าน แต่ในขณะเดียวกัน เหล่าตำรวจทุกคนก็ต้องปกป้องตัวเองไม่ให้เดือดร้อนจากการถูกร้องเรียนในหลาย ๆ คดีที่มันค่อนข้างจะเป็นจุดอ่อนไหวยกตัวอย่างจำพวก การใช้กำลังหรือการยิงเพื่อป้องกันตัว ซึ่ง ณ บางสถานการณ์ ที่ฉุกละหุกหรือฉุกเฉิน ในสมองมันก็ลืมหมดทุกอย่าง สติมันก็มีหลุดอยู่แล้วเป็นธรรมดา เพราะตำรวจก็คือมนุษย์คนหนึ่งนี่นา
“ตำรวจเป็นอาชีพที่มีการฆ่าตัวตายเยอะที่สุด และมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 63 ปี”
ตัวละคร อันจางมี กล่าวขึ้นในตอนที่ 15 ในช่วงที่เธอกำลังเครียดจากการถูกพักงาน
(ตัวอย่างบางส่วนจากคดีอดีตตำรวจนายหนึ่งหลังเกษียณประสบปัญหาชีวิตอย่างหนักจนตัดสินใจจุดไฟเผาตัวเอง)
นอกจากเรื่องของตำรวจแล้ว ยังเล่าถึงปัญหาสังคมผ่านการทำงานของเหล่าทีมตำรวจทีมนี้ที่ต้องเจอสิ่งที่ไม่คาดฝันน่ากลัวและน่าตกใจอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ไม่เคยชินซักที ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาการมีบุตรเมื่อยังไม่พร้อม ผลที่ตามมาคือเอามาทิ้ง หรือ เลี้ยงดูไว้แต่ทอดทิ้ง ซึ่งบางทีก็เห็นด้วยกับในละครที่บอกว่า แบบนี้ให้ไปอยู่ศูนย์เด็กกำพร้าน่าจะมีความสุขกว่าการทอดทิ้ง, ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่ถึงจะน้อยลงแต่ก็ไม่หมดไปจนทำให้เกิดเหตุร้ายตามมา, หรือเหล่าคดีล่วงละเมิดทางเพศที่ทำลายเท่าไหร่ก็ยิ่งเกิดขึ้นมาอีก และอีกมากมายก่ายกอง ที่พอดูแล้วมันสะท้อนใจ หดหู่ และกลัวไปหมดทุกอย่าง คอยกังวลกับการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันที่อะไรที่เคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มันก็เป็นไปได้ทุกอย่างแล้วล่ะตอนนี้
“ความกลัวทำให้เราระวังมากขึ้น อย่าไปอคติว่าความกลัวเป็นสิ่งไม่ดี”
พ่อของ ซงฮเยริ สอนลูกสาวไว้ในตอนที่ 15
จริง ๆ แล้วมีอีกมากมายหลายประเด็นที่อยากจะมาบอกกล่าวเล่าให้ฟังถึงเรื่องปัญหาสังคม มันโดนใจหลายจุดมาก แต่ถ้าเอาให้ครบคงต้องรีวิวยาวไปอีกเยอะมากแน่นอน แต่จุดที่จะขอพูดถึงในตอนปิดท้ายนี้คือ ในทุกเรื่องราวร้าย ๆ ที่เกิดขึ้น คนที่เป็นคนก่อเหตุคือคนกระทำผิด แต่อย่าลืมว่า ครอบครัวและคนรอบข้างของคนที่กระทำผิด ไม่ได้กระทำผิดด้วย ดังนั้นแล้วอย่าเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้องกับสายพานแห่งความเกลียดชังนี้
ละครที่ทำเรตติ้งได้ดีตั้งแต่เริ่มจนจบกับตัวเลขสูงสุดที่ 7.78% ในตอนสุดท้ายนับจากผู้รับชมทั่วประเทศ ตัวเลขแบบนี้สำหรับช่องเคเบิ้ลถือว่าทำได้ดีมาก กับ ความโดดเด่นที่เนื้อเรื่องเข้มข้นน่าติดตามและกระแทกใจได้ตลอดเวลา กับ พระเอกยีราฟ อีกวางซู ที่หลายคนอาจจะคาดเดาว่าเรื่องนี้จะโดนเทหรือสมหวังในความรัก กับ ความวุ่นวายอย่างไม่รู้จบของย่านฮงอิลที่จะทำให้เราหยุดดูไม่ได้เลย กับ การทำงานของตำรวจที่หลายคนอาจจะเคยอคติแต่แท้ที่จริงแล้วตำรวจดี ๆ ก็มีอีกเยอะแยะมากมาย
กับ “Live” ละครอีกเรื่องที่ไม่อยากให้คุณพลาดเลยจริง ๆ !!
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com