หากจะให้กล่าวถึงซีรีส์เกาหลีแนวสปอร์ตในใจที่ชอบ อาจจะคิดนานซักหน่อยเพราะไม่มีการผลิตออกมาบ่อย เพราะการทำซีรีส์แนวนี้หลายฝ่ายอาจจะคาดการณ์ถึงการตีกลุ่มเป้าหมายได้เพียงในตลาดเล็กๆ อาทิเช่น กลุ่มคนที่ชื่นชอบกีฬาซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชายแต่กลุ่มคนที่ชอบดูซีรีส์ส่วนใหญ่คือผู้หญิง หรือ ซีรีส์ที่เน้นเฉพาะกีฬาชนิดใดชนิดหนึ่งก็น่าจะตอบโจทย์ได้เพียงคนดูที่ชอบและเข้าใจกีฬาประเภทนั้นๆ แต่ “Hot Stove League” คือซีรีส์เรื่องหนึ่งที่ตอบโจทย์ของการเจาะได้แทบจะทุกกลุ่มเป้าหมายเพราะการนำเสนอเรื่องราวที่ใช้กีฬาเบสบอลเป็นกุญแจหลักในการดำเนินเรื่องก็จริง แต่ถึงไม่เคยดูหรือรู้จักกีฬาชนิดนี้มาก่อนก็สามารถดูได้อย่างสนุก เหตุผลเพราะอะไร มาลองติดตามกันค่ะ
“Hot Stove League” เริ่มต้นเรื่องราวที่ทีม “ดรีมส์” ทีมเบสบอลซึ่งได้คะแนนอันดับสุดท้ายของตารางการแข่งขันมาหลายสมัยเรียกว่าชีช้ำจนชินชาจนผู้จัดการทีมตัดสินใจลาออกเพื่อรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นไม่นานทางทีมก็ได้ตัวผู้จัดการคนใหม่ แบคซึงซู (รับบทโดย นัมกุงมิน) ความน่าสนใจคือผู้จัดการคนนี้ไม่เคยผ่านการทำงานด้านกีฬาเบสบอลมาก่อนเลย เคยแต่เป็นผู้จัดการทีมฮอกกี้, มวยปล้ำ และแฮนด์บอล ซึ่งทำให้ทีมชนะมาแล้วทุกทีมแต่หลังจากชนะก็ถูกยุบมาแล้วทุกทีมเช่นเดียวกัน ซึ่งการรับผู้จัดการแบคเข้ามาในครั้งนี้เป็นคำสั่งโดยตรงจากเบื้องบนแบบชี้ขาด เหตุผลเบื้องหลังคำสั่งนี้มันคืออะไรกันแน่
หลังจากการเข้ารับตำแหน่งของผู้จัดการแบค ก็เกิดการต่อต้านมากมายจากภายในตั้งแต่เริ่มต้น เพราะจุดมุ่งหมายของผู้จัดการหนุ่มสายแข็งคนนี้คือการสังคยานาระบบใหม่ทั้งทีม อะไรคือช่องโหว่เขาจะเข้ามาอุด ยกตัวอย่างเช่น การขายผู้เล่นที่เป็นตัวชูโรงและถือว่าเก่งที่สุดของทีมออก ซึ่งนั่นอาจกระทบต่อรายได้จากการขายของที่ระลึก, ยอดจำหน่ายตั๋วและภาพรวมของทีมอย่างหนัก รวมไปถึงการไล่ผู้จัดการแผนกแมวมองจัดหานักกีฬาซึ่งเป็นคนเก่าแก่ที่สืบเจอการทุจริตในหน้าที่ โดยลูกมือคนสำคัญซึ่งตอนแรกก็ต่อต้านผู้จัดการแบคเหมือนกัน แต่ด้วยอุดมการณ์แนวทางเดียวกันและความรักในทีมดรีมส์จึงทำให้มาสามัคคีกันได้ก็คือ อีเซยอง (รับบทโดย พัคอึนบิน) ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการที่ทำงานให้ทีมมานานและรักทีมนี้อย่างใจจริง หากแต่ว่าอุปสรรคเหล่านี้จะเป็นการทำให้ทีมดีขึ้นแต่ก็เป็นการสร้างศัตรูมากขึ้นเช่นเดียวกัน แต่ผู้จัดการแบคก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาวและยังมุ่งมั่นในการทำหน้าที่เดิมต่อไปเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวคือการทำให้ทีมได้ชัยชนะ … แล้วผู้จัดการแบคจะทำสำเร็จหรือไม่ อันนี้ต้องลองติดตามไปพร้อมกัน
ขอเกริ่นก่อนเลยว่าผู้เขียนโดยปกติไม่ใช่สายสปอร์ตและไม่ดูกีฬา ถ้าจะให้พูดถึงเบสบอลว่ารู้อะไรบ้าง ความรู้เท่ากับศูนย์ แต่พลังงานที่ดึงดูดให้ลองดูเรื่องนี้ซักตั้งคือแน่นอน นัมกุงมิน นักแสดงคุณภาพที่ไม่ว่าจะเป็นสายตา, ท่าทาง, ความกลมกล่อมและความละมุนยังคงอยู่ในท่าทางของการแสดงในทุกเรื่องได้อย่างไม่เสื่อมคลาย นัมกุงมินคือนักแสดงที่สามารถแสดงได้ทุกบทบาทและเข้าถึงได้อย่างเป็นธรรมชาติจนรู้สึกได้เลยว่าหนุ่มคนนี้ทำการบ้านมาก่อนออกกองแน่นอน รวมถึง พัคอึนบิน, โจบยองกยู และทีมนักแสดงที่ทำได้ดีทุกคน เป็นอีกทีมนักแสดงคุณภาพดีจริงๆค่ะ
และถึงแม้ผู้เขียนจะไม่เคยรู้เรื่องเบสบอลมาก่อน หลังจากที่เปิดดูได้ไม่กี่ตอน ก็หยุดไม่ได้อีกเลย บางช่วงบางตอนยอมรับว่าไม่เข้าใจกฏกติกาหรือคำศัพท์บางอย่าง แต่หลังจากดูในตอนต่อไปก็จะเข้าใจทุกอย่าง กุญแจหลักสำคัญอีกอย่างคือการดำเนินเรื่องด้วยความมันส์และซาวด์เพลงแนวร็อคสไตล์เสียงกลองหนักๆซึ่งทำให้ผู้ชมได้ลุ้นระทึกและเร้าใจไปกับการตัดสินใจทุกอย่างของผู้จัดการแบคที่แหกคอกอยู่ได้ตลอดเวลาเสียจริงๆ ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่ตัดต่อเรื่องราวได้น่าสนใจมากจนสนุกอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องใช้ความโรแมนซ์จากพระเอกนางเอกมาเป็นจุดขายเลย เรื่องนี้ขายคุณภาพล้วนๆค่ะ
นอกจากนั้นแล้วผู้เขียนยังได้เรียนรู้กีฬาเบสบอลนี้เพิ่มขึ้นอีก ด้วยความไม่ประสีประสากับกีฬามากนัก พอมาดูซีรีส์แนวนี้ก็รู้เลยว่างานบริหารทีมกีฬานี่ต้องใช้ทักษะเฉพาะตัวสูงมากพอสมควร โดยเฉพาะการเป็นแมวมองหานักกีฬาหน้าใหม่มาเข้าร่วมทีมต้องไปตามหาจากทีมเด็กมัธยมโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศ จดทุกสถิติรัหว่างการเล่นและสังเกตแม้กระทั่งว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้สูงเท่าไหร่เพราะจะได้คาดคะเนว่าน่าจะสูงไปได้มากกว่านี้หรือไม่ หากมีอาการบาดเจ็บฟื้นฟูได้เร็วแค่ไหน และสภาพจิตใจเข้มแข็งแค่ไหน เพื่อเตรียมจัดการกับความเสี่ยงเหล่านั้นหากต้องเข้ามาร่วมในทีม ทึ่งอ่ะค่ะ!!
ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น สาระที่ได้จากความแหกคอกของผู้จัดการแบคทำให้ผู้เขียนต้องจดไว้ในใจอย่างหนึ่งเลยว่าการที่เราเคารพและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของสังคมมันคือสิ่งที่พึงกระทำเพื่อคงไว้ซึ่งมาตรฐานที่ดีในการอยู่ร่วมกัน แต่ต่างกันกับการปฏิบัติตัวในสังคมเพื่อคล้อยตามกับคนหมู่มาก อันนี้คนละกรณี ผู้จัดการแบคต้องการล้างบางทั้งระบบที่ส่อแววไม่ขาวสะอาดและไม่ภักดีต่อทีมดรีมส์ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีคนขึ้นมาทำเพียงเพราะคนเหล่านั้นหวาดกลัวการถูกเลือกปฏิบัติจากคนหมู่มากหากจะก่อตัวเป็นกบฏขึ้นมา นั่นจึงทำให้เกิดวัฒนธรรมการปฏิบัติแบบคล้อยตามกันและเงียบฉี่กันหมด จนได้มาเจอคนจริงแบบผู้จัดการแบคนี่แหล่ะถึงจะขึ้นชื่อว่าของจริงจ้า
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งในซีรีส์ที่ฉลาดในการพาผู้ชมล้มลุกคลุกคลานไปกับการแก้ไขและอุดช่องโหว่ของทีมดรีมส์ผ่านการจัดการของผู้จัดการแบคที่สะท้อนให้เห็นภาพของการทำงานในแบบเอาจริงและมืออาชีพ ไม่สนเสียงนกเสียงกา ไม่แคร์สายตาใครๆ แต่กระนั้นก็อย่าลืมว่าคนลักษณะนี้มักจะมีศัตรูทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว ในซีรีส์ยังคงมีอีกหลายประเด็นให้ได้ลุ้นกันต่อไปอีกหลายตอนว่าอุปสรรคและปัญหาต่อไปของทีมดรีมส์ที่ผู้จัดการแบคต้องจัดการก่อนเปิดฤดูกาลใหม่นั้นคืออะไร และอนาคตของทีมดรีมส์จะจบลงในทิศทางไหน อยากให้ทุกคนมาลุ้นไปด้วยกันใน “Hot Stove League” ซีรีส์เบสบอลที่สนุ๊กกก สนุกกกจริงๆค่ะ ^^
สามารถรับชมซับไทยได้แล้วที่ VIU <คลิก>
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries