Girls’ Generation 1979
อีจองฮี (รับบทโดย โบนา) ลูกสาวคนรองจากฝาแฝดชายหญิงของครอบครัวเจ้าของโรงงานผลิตชุดชั้นในในจังหวัดแทกูช่วงยุค 1970 เธอเป็นสาวต่างจังหวัดธรรมดา ๆ
ซีรีส์เรื่องนี้มีความยาว 8 ตอนถ้วน แต่เป็น 8 ตอนที่สนุกและซึ้งกินใจมาก ทีมนักแสดงทุกคนทำได้ยอดเยี่ยมแม้กระทั่งบางคนที่เป็นหน้าใหม่เพิ่งเดบิวต์ไม่กี่เรื่องก็เล่นได้ดีจนขอปรบมือให้เลย อีกสิ่งที่ขอชื่นชมคือการให้น้ำหนักของตัวละครที่ทำได้ดี ทุกบทบาทมีความสำคัญพอ ๆ กัน ไม่เทไปที่ใครหรือคู่ไหนมากเป็นพิเศษ เพราะเสน่ห์ของเรื่องนี้คือบทบาทของแต่ละคนที่ทำให้เรื่องราวออกมาแตกต่างและน่ารักในแบบของตัวเอง การดำเนินเรื่องราวตัดต่อเรียบเรียงทำได้น่าติดตาม อาจจะเพราะไม่ถึง 16 ตอนเลยค่อนข้างกระชับได้ใจความไม่ยืดเยื้อและทำให้อยากรู้และอยากดูต่อไปเรื่อย ๆ ว่ามันจะเป็นยังไงต่อ ซึ่งโดยภาพรวมแล้วถือว่าเป็นอีกเรื่องที่สนุกเกินคาดค่ะ
อีจองฮี คือตัวละครที่สร้างมาจากความจริงในจิตใจมนุษย์อยู่สูง ไม่ใช่นางเอกแบบนางเอ๊กนางเอก โดยพื้นฐานแล้วเธอเป็นคนจิตใจดีแต่พอมีคนสวยกว่าใหม่กว่าดีกว่าเข้ามาในสังคมละแวกที่เธออยู่ จากที่ตัวเองเคยเด่นกลายเป็นอีกคนมาใหม่เด่นกว่า ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่คนมาใหม่ มันก็เป็นธรรมดาที่จะเจ็บจี๊ดที่หัวใจบ้าง (เป็นกันเกือบทุกคนนะคะส่วนใหญ่ รวมถึงคนเขียนด้วยค่ะ 555) ซึ่งมันคือเรื่องปกติของจิตใจมนุษย์ คนทุกคนไม่ได้อยากจะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น แต่ส่วนใหญ่ทำโดยไม่รู้ตัว แต่พอรู้ตัวแล้วว่าเรากำลังเปรียบเทียบ เราก็หยุด แล้วใช้ชีวิตของตัวเองต่อให้ดีที่สุด พอวนมาคิดอิจฉาใหม่อีกเปรียบเทียบคนนั้นคนนี้กับตัวเองอีก เราก็ต้องพยายามรู้ตัวให้เร็วที่สุด แล้วเราก็หยุดตัวเองใหม่อีกครั้ง แล้วก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเดิม วนไปค่ะ…. มันก็แค่นี้แหล่ะชีวิต
การสื่อถึงเกาหลีใต้ในปี 1979 สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ ใช้การเล่าผ่าน ตัวละครพ่อนางเอกที่จะกดเพศผู้หญิงว่าต่ำว่าเพศชายอย่างชัดเจน, หรือคุณครูที่ใช้คำพูดหยาบ ๆ และทำโทษนักเรียนด้วยไม้เรียวในแบบสมัยเก่า ,รวมถึงการสื่อให้เห็นถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ประกาศให้มีเคอร์ฟิวในช่วงเวลานั้นเนื่องมาจากสถานการณ์การเมืองและความขัดแย้งภายในประเทศ มันสื่อได้ถึงความรู้สึกสมัยก่อนที่คละเคล้าไปกับอารมณ์ความวินเทจครุกรุ่นอยู่ทั่วไปหมดตลอดการรับชม
นอกจากนั้นแล้วในเรื่องการมีความรัก ถ้าย้อนไปในตอนนั้น ไม่มีทั้งไลน์ ไม่มีทั้งอินเตอร์เน็ต หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือก็ยังไม่มี ทุกอย่างถูกกระทำไปอย่างช้า ๆ ปล่อยให้เรื่องราวเดินไปตามความเป็นไปได้ของปัจจัย ณ ตอนนั้นในแบบที่ควรจะเป็น ความรักในช่วงเวลานั้นมันเลยดูลึกซึ้งกินใจและจริงใจมากกว่าในปัจจุนบันอยู่เยอะมาก ความรักในแบบช้า ๆ แบบนี้ มันสอนให้มนุษย์รู้คุณค่าที่แท้จริงของสิ่งที่กว่าจะได้มาอย่างยากเย็น และอยากจะเก็บรักษาให้ดีที่สุดตราบนานเท่านาน ถ้าวันไหนที่เหนื่อยกับสิ่งที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วของยุคตอนนี้ ลองปรับเป็นโหมดวินเทจดูบ้าง ปิดไลน์ ปิดอินเตอร์เน็ต แล้วใช้ชีวิตแบบช้า ๆ ดูบ้าง อาจจะมีเรื่องที่คิดไม่ถึงรอเราอยู่ ณ ช่วงเวลานั้นก็เป็นไปได้ มาลองดูกันนะคะ ^^
เบดงมุน หนุ่มแว่นทึ่มที่หลงรัก อีจองฮี ตั้งแต่แรกเจอและทำทุกอย่างให้เธอได้แม้กระทั่งพาเธอไปหารุ่นพี่ที่เธอชอบ ได้กล่าวไว้ในตอนที่ 7 ว่า “คนเราบางทีต้องทำอะไรโง่ ๆ ก่อนเพื่อให้ตัวเองเห็นภาพแล้วจดจำและจะไม่ทำมันอีก” …. เบดงมุน จะทำไรโง่ ๆ เพื่อ อีจองฮี ได้มากมายขนาดไหน ความรักแต่ละคู่จะสมหวังผิดหวังเสียใจหรืออะไรยังไง ความสนุกที่คาดไม่ถึงตั้งแต่ก่อนดูว่าจะได้กลับมามากมายขนาดนี้ เป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่เชียร์สุดพลังให้ลองค่อย ๆ เปิดหัวใจแล้วดูไปด้วยกัน มันสนุกและดีงามจริง ๆ ค่ะ …