ซีรีส์น้ำดี การันตีด้วยรางวัลบทยอดเยี่ยม จากเวทีใหญ่ของวงการบันเทิงเกาหลี คือ 53rd BaekSang Arts Awards และ 9th Korea Drama Awards โดยนักเขียน โนฮีคยอง เจ้าของผลงานดังๆ เช่น It’s okay That’s love , That winter The Wind Blows , Worlds within เป็นต้น
เป็นซีรีส์ความยาว 16 ตอน ออกอากาศที่ช่อง tvN เมื่อ 13 พฤษภาคม ถึง 2 กรกฎาคม 2016 และยังเป็นงาน pre-produced ที่ผลิตฉลองครบรอบ 10 ปีของช่อง tvN จึงมีความตั้งใจให้เป็นผลงานมาสเตอร์พีซของช่อง
ผู้เขียนขอยกให้เรื่องนี้เป็นซีรีส์ในดวงใจ เพราะสนุกสนานมาก อรรถรสครบถ้วนกลมกล่อมจริงๆ มีความเข้มข้นในบทเรียกน้ำตา และซาบซึ้งใจ มากล้นจนเกินคำว่า ‘ฟิลกู้ด’ อีก นอกเหนือจากบทที่ดีเยี่ยมเกินบรรยายแล้ว ต้องปรบมือชื่นชมฝีมือนักแสดง แน่นอนว่าเขาคัดระดับตัวพ่อตัวแม่มาจริงๆ ดาราอาวุโสฝีมือแถวหน้าคับคั่ง และดาราพระนางที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความสามารถ
มารู้จักกับตัวละครหลักๆของเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ
โกฮยอนจอง รับบท พัควาน
นักเขียนสาววัยสามสิบปลาย ผู้มีความรักที่เกือบจะสมหวัง แต่ด้วยอุปสรรคบางอย่างทำให้ความสัมพันธ์ลดระดับลงฉับพลัน เหลือเป็นเพียงเพื่อนสนิทที่ยังติดต่อพูดคุยข้ามโลกผ่านเน็ตเป็นประจำ เขาทั้งสองยังคงยิ้มต่อกันตลอดเวลา ทั้งๆที่ต่างก็เก็บซ่อนความเจ็บปวดไว้กับเยื่อใยความรักที่ยังคาอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ
พัควานกำลังจัดเตรียมงานเขียน เรื่องราวของชีวิตแม่และเพื่อนๆแม่ ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวของเธอ เพราะเธอคลุกคลีกับเหล่า ‘อีโม’ (ภาษาเกาหลี เป็นคำเรียกญาติที่เป็นป้า/น้า) มาตั้งแต่เล็ก เธอมีความสามารถ handle ความเป็นมนุษย์ป้าของ สว.กลุ่มนี้ได้ดีประหนึ่งเป็นสมาชิกร่วมแก๊งค์เลยทีเดียว และนี่คือจุดเริ่มต้นของหนังที่จะเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์หลากหลายมิติของป้าๆน้าๆ เป็นมิตรภาพในรุ่นและมิตรภาพข้ามรุ่น ผ่านมุมมองของพัควาน ควบคู่กันไปกับอีกเส้นเรื่อง คือ ชีวิตรักของตัวพัควานเองที่จะลงเอยอย่างไร ต้องติดตามชมกันค่ะ
โจอินซอง รับบท ซอยอนฮา
เขาคือผู้ชายที่เกือบจะได้แต่งงานกับพัควาน แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างพลิกผันชีวิต ทำความรักสะดุด ซึ่งเขาก็ยอมรับในโชคชะตา และยังคงความปรารถนาดี เข้าใจพัควานตลอด เพียงเพราะเขารู้สึกว่ามันเป็นเพราะความผิด ความบกพร่องของตนเอง คงโทษใครไม่ได้ (เอาจริง ทีแรกข่าวว่าโจอินซองเป็นแค่แขกรับเชิญ ไปๆมาๆ ก็เห็นซะเกือบทุกอีพีเลย เอาใจแฟนๆจริงจัง หล่อชวนกรี๊ดมากๆเลยขอบอก เพราะด้วยตัวบทของเรื่อง กล้องจึงจำเป็นต้องเล่นแต่มุมภาพโคลสอัพหน้าส่งยิ้มสดใสเป็นของหวานจานเด็ดของเรื่องเลย)
คิมฮเยจา รับบท โจฮีจา
อดีตสมัยสาวๆ ป้างามต้องตาหนุ่มเอาการ ปัจจุบันเป็นม่าย สามีตายแล้ว ป้ามีความดื้อรั้นดันทุรังพอควร มีความเป็นตัวของตัวเองสูง อยากพึ่งพาตัวเองมากกว่าไปรบกวนลูกๆ จึงแยกอยู่ต่างหากคนเดียว ป้าแกคล้ายๆเป็นคนเรื่องเยอะที่พยายามทำตัวว่าไม่เยอะนะ ลึกๆป้าก็รู้สึกเหงาโดดเดี่ยวอยู่บ้าง แต่ก็ยังดีที่มีลูกชายคนเล็กแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนดูแลบ้างเป็นครั้งคราว ป้าฮีจาต้องเผชิญปัญหาโรคอัลไซเมอร์ที่กำลังเริ่มรบกวนชีวิต
นามุนฮี รับบท มุนจองอา
เพื่อนซี้ของป้าฮีจา เป็นคุณป้าอารมณ์ดี ไม่คิดมาก ทำตัวง่ายๆ ป้าจองอาอยู่กับสามีผู้ซึ่งยึดคติโบราณ ผู้ชายเป็นใหญ่ในบ้าน เมียต้องอยู่ในโอวาท ห้ามหือ มีหน้าที่เซอร์วิสสามีทุกอย่าง ป้าเลยกลายเป็นแม่บ้านสมบูรณ์แบบ มีลูกสาว 3 คน งานบ้านตนเองก็ดู แถมยังไปดูแลบ้านให้ลูกสาวที่ออกเรือนไปแล้วอีก นอกจากนี้ยังดูแลแม่แก่ๆที่รพ.อีกคนด้วย เนื่องจากอยู่ในบ้าน ป้าต้องหงิม พอออกนอกบ้าน อยู่กับเพื่อนๆ ป้าจึงมีพื้นที่ปลดปล่อยตัวตน แสดงออกสุดๆ ป้าจองอาจะมีโอกาสได้ปลดแอกจากอำนาจสามีหรือไม่ ต้องตามดูกันค่ะ
โกดูชิม รับบท จางนานฮี
คุณแม่ของพัควาน สามีเสียไปแล้ว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ทำงานหนักเป็นเจ้าของร้านอาหารฮิต เธอเคยจับได้ว่าสามีไปกิ๊กกับเพื่อนสนิท จึงโกรธแค้นฝังใจ และเกลียดการเป็นมือที่สามทำครอบครัวคนอื่นแตกแยก แม่นานฮีเป็นหญิงเหล็ก ปากแข็ง ที่นอกจากจะทำงานเก่ง ดูแลลูกเอง แล้วยังดูแลพ่อแม่วัยชรา ซึ่งพ่อเป็นอัลไซเมอร์ด้วย รวมทั้งยังดูแลน้องชายที่พิการอีกคน ความรักของแม่นานฮีกับพัควาน ก็เป็นอีกมุมหนึ่งของเรื่องที่น่าสนใจมาก Like mother, like daughter บุคลิกนิสัยที่ไม่สื่อสารแสดงออกว่ารักกันทั้งแม่และลูก ทำให้ต้องใช้เวลากว่าจะเข้าใจกันได้
พัควอนซุก รับบท อียองวอน
น้าคนสวย มีอาชีพเป็นดาราดัง มีฐานะพอควร อดีตน้าเองก็เคยเป็นมือที่สามของครอบครัวหนึ่ง แต่สุดท้ายก็เลิกรากันไป น้าเป็นเพื่อนสนิทของผู้หญิงที่มาเป็นมือที่สามของแม่นานฮี ทำให้ตกเป็นที่เกลียดชังอยู่นานจนเพิ่งจะได้คืนดีกัน ในบรรดาเพื่อนๆแม่ น้ายองวอนดูจะเป็นคนที่ cool มีสติ และมีความเข้าใจโลกมากที่สุด อาจเพราะน้าได้เผชิญปัญหาชีวิตมามากและยังต้องต่อสู้กับโรคร้ายคุกคามด้วย
ยูนยอจอง รับบท โอชุงนัม
ป้าสาวโสด young at heart ผู้ขยันขันแข็ง รับผิดชอบครอบครัว ส่งเสียเลี้ยงหลานๆ มีน้ำใจเอื้อเฟื้อ และใจสปอร์ตมากกับเพื่อนฝูง อดีตสมัยสาวๆเธอตกหลุมรักลุงอีซองแจข้างเดียว (ชอบแฟชั่นคอสตูมป้ามาก เท่สุดๆ)
จูฮยอน รับบท อีซองแจ
ลุงเป็นทนายที่เกษียณแล้ว สมัยหนุ่มๆเคยตามจีบป้าฮีจา ปัจจุบันเมียเสียไปแล้ว และกลับมาวนเวียนข้างตัวป้าฮีจาอีกครั้ง ถือว่าเป็นผู้ชายที่พึ่งพาได้ดีทีเดียว เพราะจิตใจดีและฉลาดด้วย แต่ก็ไม่เป็นที่สบอารมณ์ของลูกชายป้าฮีจาเท่าไรนัก
ชินกู รับบท ชินซอกคยุน
ลุงเป็นสามีป้าจองอา ผู้ชายที่เก็บความรักเมียไว้ซะลึกจนมองแทบไม่เห็น ยึดคติหัวเก่า ภรรยาต้องดูแลสามีเยี่ยงทาส ไม่ต้องโอ๋เอาใจเมีย ถึงขั้นมะนาวแล้งน้ำก็ไม่เป็นไร เพราะเมียต้องทำหน้าที่เมียวันยังค่ำ ซ้ำงี้งกอีกต่างหาก บทบาทลุงช่วยเพิ่มอรรถรสที่เป็นสีสันอีกด้านของเรื่องเลยนะ ประมาณรสขมๆหน่อย จะถูกผู้ชมหมั่นไส้ ก่นว่าเยอะสุด
คิมยองอ๊ค รับบท โอซังบุน
เป็นยายของพัควาน อาศัยอยู่บ้านนอกกับตาและน้าชายชายพิการ แม่นานฮีขยันกลับมาเยี่ยมเยียนเป็นประจำ ยายก็เป็นหญิงแกร่งเหมือนแม่นานฮี Like mother, like daughter อีกแล้ว ตระกูลนี้ยีนแข็งแรง ทุกวันนี้ ยายซังบุนยังขี่รถไปทำไร่ทำสวนได้อย่างแข็งแรง เท่มั่นมาก แต่ในเวลาที่อยู่กับสามีป่วยอัลไซเมอร์ ก็มีตึงๆแอบเอาคืนบ้างเล็กๆพอขำๆ เพราะในอดีตสามีก็เคยทำไม่ดีไว้เยอะ แต่อย่างไรก็ตามยายก็ยังน่ารัก ดูแลตาและลูกชายตลอด
อีกวางซู รับบท ยูมินโฮ
เป็นแขกรับเชิญ แต่ก็เล่นเยอะอยู่นะ ในบทลูกชายคนเล็กของป้าฮีจา รักแม่มาก มีเหตุใดเกิดขึ้นก็รีบพุ่งไปหาแม่ทันทีแม้ว่าภารกิจชีวิตงานและครอบครัวตัวเองก็ยุ่งจนปลีกตัวยากเอาการอยู่ และภรรยาก็ใกล้คลอดด้วย
แดเนียล เฮนนีย์ รับบท มาร์ค สมิธ
เป็นแขกรับเชิญ เล่นแค่บางอีพี เป็นช่างภาพต่างชาติที่มาพักอยู่ข้างๆบ้านป้าฮีจา (หล่อจริงๆค่ะ หนุ่มคนนี้) ทำป้าๆหวั่นไหวไปบ้าง 555
ซองดงอิล จางฮยองซอง และ ชินซองอู
เป็นแก๊งค์เพื่อนของป้าชุงนัม ทำงานในแวดวงซื้อขายงานศิลปะ ประมาณว่าเป็นพวกหนักไปทางเพื่อนกินซะมากกว่า ภายหลังจึงต้องโดนป้าชุงนัมปล่อยหมัดเด็ดสั่งสอนไปซะหน่อย
แค่ชีวิตตัวละครแต่ละบทก็น่าสนใจมากๆ รวมกันทีไรก็ได้เจี๊ยวจ๊าวน่ารักบ้าง ยุ่งเหยิงยุงตีกันบ้าง แม้ภาวะที่ต้องเผชิญปัญหาส่วนตัวมากมาย เช่น ความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและอารมณ์ตามวัย โรคภัยไข้เจ็บ และความกดดันในชีวิตของครอบครัวต่างๆกันไปของใครของมัน ก็มีวิธีจัดการกันไปเองบ้าง ช่วยเหลือกันไปบ้าง เป็นกำลังใจ เป็นเพื่อนเคียงข้างตัวกันไป สร้างความสนุกสนาน และซาบซึ้งอารมณ์ให้ผู้ชมมาก นอกจากนี้ งานโปรดัคชั่นก็ดีนะ ภาพสวย เพลงเพราะ มีฉากถ่ายทำที่ประเทศสโลวีเนีย และ โครเอเชีย ของพระนาง ได้วิวสวยๆ โรมานซ์อิ่มตาสบายใจ
เรื่องราวของพวกเขากลั่นกรองมาจากประสบการณ์ชีวิตที่เข้มแข็ง ผ่านร้อนผ่านหนาว เป็นคุณค่าที่ให้เราๆได้เรียนรู้ ณ วันนี้ถ้าเรายังเป็นเด็ก ซีรีส์เรื่องนี้จะช่วยให้เรามีมุมมองต่อผู้ใหญ่ในบ้านเราเปลี่ยนไป และถ้าวันหน้าที่เราเข้าสู่วัย สว.เหมือนพวกเขา เราจะมีความพร้อมเข้าใจโลกมากขึ้น และอยู่กับมันอย่างมีความสุขแน่นอน
คนเกาหลีมักนิยมเปรียบเทียบสิ่งสวยงามด้วยคำว่า ‘ดอกไม้’ ดังจะเห็นได้จากที่ชอบเรียกหนุ่มหน้าสวยๆว่า flower boy สำหรับเรื่องนี้ ถ้าดูจากโปสเตอร์ ก็คงเข้าใจได้ว่า แม้จะเป็นลุงๆป้าๆน้าอา แต่ความดีงามเลอค่าของพวกเขา เปรียบประหนึ่งดอกไม้งามเช่นกัน ที่จะส่งต่อความอิ่มเอิบใจ ดุจส่งดอกไม้มาผลิบานในหัวใจผู้ชม และจะถูกจดจำไว้เป็นความงดงามอันทรงค่าประดับโลกนี้ด้วย ขอขอบคุณ คุณโนฮีคยอง ผู้สร้างสรรค์ของขวัญชิ้นงามนี้ให้ผู้ชมค่ะ
แถมท้ายให้ด้วยเพลงเพราะๆ เรื่องนี้ ost. ดีงามมากมายหลายเพลง หยิบตัวอย่างมาให้ฟัง 2 เพลงที่ผู้เขียนชอบสุด คนละมู้ดอารมณ์กัน คือ Baby Blue รื่นเริงใจมาก และ Want to be free ซึ้งเศร้าสะเทือนใจมาก
https://www.youtube.com/watch?v=V7-xosiRKTs&index=5&list=RDktMvmCrmx4Q