ถ้าใครเคยได้ติดตามซีรีส์เรื่องนี้อยู่อาจจะพอทราบกันดีว่าพระเอกของเรื่อง คิมจูฮยอก ได้เสียชีวิตหลังจากการถ่ายทำเรื่องนี้เสร็จเพียงไม่นาน ดังนั้น “Argon” จึงถือเป็นผลงานซีรีส์เรื่องสุดท้ายของนักแสดงหนุ่มมากความสามารถคนนี้ ทาง Korseries ขอใช้รีวิวนี้เพื่อระลึกถึงการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ คิมจูฮยอก นักแสดงคุณภาพอีกคนของวงการบันเทิงเกาหลี และขอขอบคุณที่ได้ฝากผลงานคุณภาพชิ้นนี้ไว้ให้พวกเราได้ชมกันนะคะ
ซีรีส์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวการทำงานของทีม Argon (อาร์กอน) หนึ่งในทีมข่าวประจำช่อง HBC ทีมนี้ประกอบไปด้วย คิมแบคจิน (รับบทโดย คิมจูฮยอก) หัวหน้าและผู้ประกาศหลักประจำทีม และสมาชิกลูกทีมอีกมากมายหลากหลายตำแหน่งที่ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ การทำข่าวทุกข่าวจาก “ความจริง” เท่านั้น ซึ่งการทำข่าวลักษณะนี้มันก็มักจะไปขัดผลประโยชน์และขัดขาคนใหญ่คนโตที่ส่อแนวทางในการทำงานแบบใต้โต๊ะอยู่บ่อยครั้ง ทุกคนในทีมจึงต้องหาทางที่จะนำเสนอข่าวด้วยความยุติธรรมและความถูกต้อง ยึดหลักตามจรรยาบรรณของนักข่าวในแบบที่ควรจะเป็นซึ่งเริ่มจะหานักข่าวแบบนี้ยากมากขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบัน
“ การยอมรับและรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำ ดีกว่าทิ้งหน้าที่เพื่อรักษาชื่อเสียงตัวเอง “
คิมแบคจิน กล่าวไว้ในตอนที่ 8
ความเข้มข้นของการเล่าเรื่องราวถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การวางหมากที่สำคัญและทำได้ดีมากของซีรีส์เรื่องนี้ ด้วยประเด็นข่าวหลากหลาย อาทิเช่น ความไม่ชอบมาพากลของคดีตึกมิดทาวน์ถล่มที่ซ่อนเงื่อนงำการทุจริตครั้งใหญ่ไว้เบื้องลึก หรือประเด็นข่าวส่วนผสมที่เป็นอันตรายในนมผงของบริษัทอาหารขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ และข่าวที่สะท้อนสังคมได้เป็นอย่างดีในหลายตอน นอกจากนั้นยังรวมถึงความสมจริงในการลงรายละเอียดของแต่ละข่าวและลงลึกในด้านการทำงานของสื่อในการจัดการเมื่อเกิดเรื่องราวต่างๆขึ้น จึงไม่แปลกใจที่สามารถทำให้ผู้ชมถูกดึงเข้าอยู่ในซีรีส์ได้อย่างไม่ยากเย็น
” สตีเฟ่น คิง เคยกล่าวว่า ข่าวมรณกรรมคือการโค้งคำนับให้กับชีวิตก่อนปิดม่านลงและส่วนที่ดีที่สุดของการแสดงคือการโค้งคำนับก่อนปิดม่านนั่นเอง ข่าวมรณกรรมของคนธรรมดาทั่วไปมีความหมายมากกว่าข่าวคนมีอำนาจหรือคนมีชื่อเสียงเสียอีก “
คำกล่าวก่อนจบการชีวิตการทำงานนักข่าวเพราะปัญหาสุขภาพของ ชเวกึฮวา ในตอนที่ 5
ทีมนักแสดง คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญหลักที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีคุณค่ามากขึ้น ส่วนตัวถือเป็นเรื่องแรกที่ได้ชมผลงานของ คิมจูฮยอก พระเอกของเรื่อง แสดงได้ทั้งดูดีมากและเก่งอย่างมืออาชีพบอกได้คำเดียวว่า เสียดาย ทางด้านนางเอก ชอนอูฮี เป็นนักแสดงที่รับละครน้อยมาก เรื่องนี้ถือเป็นละครเรื่องที่ 2 ของเธอจากเรื่องสุดท้าย Vampire Idol ออกอากาศในปี 2012 ซึ่งก็ยังแสดงได้เลิศเลอและสมจริงแบบไม่แต่งเติมได้เป็นอย่างดี รวมถึงทีมนักแสดงทุกคนที่ไม่ได้กล่าวถึง ทุกคนมีส่วนทำให้ละครเรื่องนี้เป็นละครคุณภาพที่สนุกอีกเรื่อง
” ความผิดหวังจะอยู่แค่ชั่วครู่ แต่ประสบการณ์จะอยู่กับเราตลอดไป “
อียอนฮวา ท่องไว้เตือนใจตัวเองเวลาท้อในตอนที่ 2
จากความเห็นส่วนตัวจุดที่ควรนำมาเป็นเยี่ยงอย่างและถือเป็นหลักสำคัญในการทำงานของ คิมแบคจิน คือ การทำงานเป็นทีม ตัวละครนี้จะให้ความสำคัญกับ 2 อย่าง 1. ทุกข่าวล้วนจะต้องมาจากความจริง และ 2. สมาชิกทีม – ทุกคนที่ถึงแม้ว่าจะถูกดุด่าว่ากล่าวหรือเข้มงวดแค่ไหน แต่ในเนื้อแท้จิตใจของหัวหน้าคือรักลูกน้องมาก จนบางทีมากกว่าตัวเอง ดังนั้นผลที่ได้รับกลับมาก็คือ สมาชิกทีมทุกคน รักเพื่อนในทีม, รักหัวหน้า, รักการทำงาน และ รักการทำข่าวทุกข่าว จากหัวใจ
” ต้นหญ้าอาจถูกเหยี่ยบย่ำได้ แต่ความจริงจะไม่มีวันถูกเหยียบย่ำ “
บทกลอนที่ อียอนฮวา กล่าวถึงในตอนที่ 1
การทำงานของสื่อและนักข่าวที่สะท้อนออกมาจากในซีรีส์เรื่องนี้ สามารถสรุปได้ว่าเป็นอาชีพนี้ถือเป็นตัวแปรสำคัญและมีอิทธิพลต่อแนวโน้มของสังคมอยู่ตลอดเวลา หากการนำเสนอข่าวมีความจริงใจและตรงไปตรงมา ประชาชนทั่วไปก็จะสามารถรับรู้และตัดสินได้จากข้อเท็จจริง และสื่อจะสามารถเป็นที่พึ่งพาของประชาชนได้อย่างสมบูรณ์แบบ เหมือนดั่งสโลแกนประจำ ทีมอาร์กอน ที่กล่าวเอาไว้ว่า
” ข่าวที่ไร้ข้อเท็จจริง คือ ขยะ ”
สามารถรับชมซับไทย จำนวนทั้งหมด 8 ตอน ได้แล้วที่ VIU
ขอบคุณสำหรับการอ่านรีวิวนี้อีกครั้งนะคะ ^^
คิมจูฮยอก จะยังคงอยู่ในใจของคอซีรีส์ตลอดไป
ติดตามข่าวสารจากเราได้ทาง
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com