What A Man Wants เป็นภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ พล็อตความรักของชีวิตคู่ ผลงานกำกับและเขียนบทโดย อีบยองฮอน ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วจากเรื่อง Twenty จึงไม่ได้เสิร์ฟแต่ความสนุกสนานเท่านั้น แต่ควบสาระน่าคิดให้ไว้เป็นของแถมเลอค่าด้วยแน่นอน
ท้องเรื่อง ณ เกาะเชจู พี่น้องชายหญิงคู่หนึ่ง แต่งงานมีครอบครัวกันแล้ว แต่ก็ยังสนิทสนม และอาศัยอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน
ซอกกึน (รับบทโดย อีซองมิน) เป็นพี่ชาย เคยเป็นนักออกแบบเครื่องเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ จึงมีความหมกมุ่นดื่มด่ำในความงามของเส้นสายส่วนโค้งที่ได้องศาเหมาะเจาะ ที่สามารถรองรับความตื่นเต้นหวาดเสียวเร้าใจ เหมือนกับวิถีการใช้ชีวิตที่มากลีลาของเขา
ทุกวันนี้เขาทำอาชีพขับรถแท็กซี่ ที่เอื้อให้สามารถลั้นลาที่โน่นที ที่นี่ที คนโน้นที คนนี้ที ก็เพราะเป็นคนเจ้าชู้อย่างจริงจัง มีลูกล่อลูกชน คารมชวนสาวๆหลงเสน่ห์ได้แบบไม่น่าเชื่อ จึงสนุกสนานไม่ซ้ำวันไม่ซ้ำคน ตื่นตาตื่นใจไม่ต่างจากโลดแล่นบนโรลเลอร์โคสเตอร์
ภรรยาของเขาคือ ดัมด๊อก (รับบทโดย จางยองนัม) ก็รับรู้ความเป็นพ่อปลาไหลมาแต่ไหนแต่ไรละ ถึงจะจับได้แต่ก็ไล่ไม่ทัน เธอประคองชีวิตคู่ด้วยการหลับตาข้างนึงบ้าง ปล่อยวางบ้าง ทำให้อยู่มากันได้ถึง 20 ปี แต่เอาเข้าจริง ลึกๆซอกกึนก็ยังเป็นสามีที่รักภรรยาอยู่ แค่ไม่ได้แสดงออก และผู้หญิงริมทางก็เป็นเพียงแค่เซ็กส์สนุกๆเท่านั้น จึงยังเพลิดเพลินกับชีวิตพ่อปลาไหลไปเรื่อยๆ
มียอง (รับบทโดย ซงจีฮโย) เป็นน้องสาว แต่งงานกับ บงซู (รับบทโดย ชินฮาคยูน) คู่นี้เปิดร้านอาหารอิตาเลี่ยน แต่ทำท่าจะไปไม่รอด ร้านหงอยเหงา ลูกค้าไม่มี ด้วยว่าเชฟฝีมือไม่ดี แถมผู้จัดการร้านคือบงซู ก็ไม่มีใจเชียร์แขก ฝืนทำไปวันๆ เพราะแท้จริงแล้วเขารักการทำอาหารจีนมากกว่า อยากเปลี่ยนร้านเป็นอาหารจีน แต่มียองไม่ยอม เธอมองว่าอาหารอิตาเลี่ยนดูดี มีเทสต์กว่า
มียองและบงซู เป็นคู่ที่มีอะไรๆต่างกันเยอะ สามีชอบเล่นเลโก้ ภรรยาชอบเล่นโซเชียล ความคิดทัศนะก็มักไม่ค่อยตรงกันนัก แต่ไม่ถึงขั้นมีปัญหาขัดแย้ง เพียงแค่จืดๆกันหน่อย เพราะบงซูก็ยอมๆเมียซะส่วนใหญ่ เรื่องบนเตียงจึงกลายเป็นเรื่องของหน้าที่ ทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงการพยายามมีลูกด้วยกัน แต่ยังไม่สำเร็จ จึงต้องพึ่งคลีนิคผสมเทียมด้วย
มียอง ผู้มีทัศนะชีวิตค่อนข้างซีเรียสจริงจัง จึงมองพี่ชายของเธอเป็นผู้ชายที่แย่มาก บกพร่องหน้าที่ของสามีที่ดี และทึ่งพี่สะใภ้ที่สามารถทนและรับมือพี่ชายเธออยู่ได้อย่างไร ถ้ามีเหตุปากเสียง เธอจะปักหลักเข้าข้างพี่สะใภ้ก่อนแน่นอน ในขณะที่ ซอกกึนมองน้องเขยเป็นคนจืดชืด ทึ่ม ขาดสีสัน คิดมากเกิน ความรักกับเซ็กส์ มันคนละเรื่อง นั่นเพราะบงซูไม่เคยจะมีทีท่าจะหวั่นไหวใดๆกับผู้หญิงสวยๆที่มาอ่อยสักคน
และแล้ววันหนึ่ง เมื่อ เจนี่ (รับบทโดย อีเอล) สาวสวยสุดเซ็กซี่ทุกองศา อ่อยแรงทุกท่วงท่า เข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตของสองหนุ่ม เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิตเขาทั้งคู่ในคนละแบบ
ซอกกึนลั้นลาไปกับเจนี่เป็นปกติวิสัย จนวันหนึ่งเมียจับได้ว่ามีกางเกงในผู้หญิงติดกลับมาบ้าน ก็แถๆไปก่อน แล้วค่อยไปซื้อกระเป๋าแบรนด์หรูมาเอาใจเมีย ดัมด๊อกมีความสุขหิ้วโชว์เที่ยวเตร่จนประสบเหตุรถชนตาย ยังความเศร้าใจให้ซอกกึน ความซ่าส์เพลย์บอยเลยถูกสยบหงอยไปโดยปริยาย
ในขณะที่บงซู ซึ่งตั้งท่าดีอยู่ก่อน กลับเข้าสู่โหมดดีแตก โอนเอนไปตกหลุมเสน่ห์เจนี่แทน จนได้ขึ้นเตียงแอบเป็นกิ๊กถูกใจกันไป ชีวิตบงซูเปลี่ยนไปทันใด! มีสีสัน สดใสกระชุ่มกระชวย เลยพลอยส่งให้เขากลายเป็นคนทำอะไรๆก็ถูกใจมียองไปด้วย ชีวิตคู่จึงราบรื่นขึ้น แม้กระทั่งร้านอาหารก็ได้โอกาสเปลี่ยนเป็นร้านอาหารจีน ธุรกิจไปได้ดี เงินทองมา มียองก็มีความสุขเช่นกัน
การลักลอบกิ๊กกั๊กของบงซูและเจนี่ดำเนินไปอย่างสุขสันต์ราบรื่นดี โดยจะไม่มีใครล่วงรู้ ถ้าไม่ใช่เพราะเจนี่เองที่เป็นคนก้าวมาเปิดเผยตัวตนกับมียอง โดยมาสมัครเป็นพนักงานเสิร์ฟ เพื่อที่จะได้มาอยู่ใกล้ๆบงซู ก็เพราะเธอเริ่มหลงรักบงซูเข้าให้
บงซูจะอยู่ได้รอดปลอดภัยดีไหม สถานการณ์จะถูกคลี่คลายไปในทางใด ต้องไปติดตาม และนอกเหนือจากเรื่องราวที่เห็น ยังมีเรื่องหักมุมซ่อนไว้เป็นความลับชวนอึ้งของแต่ละคนอีก ซึ่งเป็นเงื่อนปมที่แกะยากซะด้วยสิ
เมื่อดูจบ ก็ต้องกลับมาตอบคำถามของเรื่องว่า พวกผู้ชายเค้าต้องการอะไรกันหรือ หนังสอนให้รู้จักมองคู่ตัวเอง และคิดแทนเขาบ้าง ฟังเขาบ้าง หนังบอกเราว่า สิ่งที่เราเห็น อาจมีเบื้องหลังอีกแบบก็ได้ เหมือนที่ซอกกึนเจ้าชู้ นึกว่าจะไม่ไยดีเมีย แต่จริงๆแล้วรักเมียมาก หรือบงซูที่ทำท่าเป็นสามีอยู่ในกรอบ ทำให้ยามออกลาย ไม่สร้างความเอะใจให้เมียเลย หรือการที่บงซูชีวิตเปลี่ยน เห็นเป็นว่าทุกอย่างดีขึ้น มันก็คือพลังที่มาจากการแอบมีกิ๊กของเขา ดังนั้น บางครั้งคนเราอาจต้องชั่งน้ำหนักดีๆว่า จะสนใจผลลัพธ์ที่เราพอใจ หรือ จะสนใจการกระทำระหว่างทาง นี่ยังแอบคิด ‘ถ้า’ เองต่อว่า ถ้าเรื่องราวกลายเป็นว่ามียองจับได้แต่แรก ชีวิตคู่คงพังพินาศ คงกลายเป็นหนังคนละม้วนไปแน่ๆ 555
ข้อคิดชีวิตคู่มากมายจากเรื่องนี้แฝงมากับบทหนังที่ดูเพลินๆ การทำวันนี้ให้ดีที่สุด ย่อมดีกว่ามาระลึกเสียดายทีหลัง เช่นกรณีของซอกกึน หรือการรู้จักให้อภัย ผ่อนปรน เอาใจเขาใส่ใจเรา ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้งคนเดียว หรือมุมการมองว่าชีวิตย่อมมีสีเทาๆได้บ้างในบางโอกาส ต้องผ่อนปล่อยวางเป็น ถูกจังหวะ ไล่ไปจนถึง white lie คือ การโกหกที่ทำโดยเจตนาดี บางครั้งก็จำเป็นบ้างในชีวิต แต่ต้องอยู่บนความมีวิจารณญาณ และไม่พร่ำเพรื่อเกินไป
เหนืออื่นใด ชีวิตคนเราก็คงเปรียบเสมือนการอารมณ์ที่อยู่บนเครื่องเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ มีหลายจังหวะ ช้าเร็ว ขึ้นลง เหวี่ยงซ้ายขวา ตีลังกามั่ง การประคองตัวให้ผ่านแต่ละจังหวะที่อาจทุกข์ยาก หวาดเสียว หมิ่นเหม่บ้าง ถ้ามีสติและความมั่นคงในอารมณ์ ก็จะสามารถผ่านพ้นมันไปได้ เพราะไม่นานมันก็จะจบรอบของมัน โปรดสังเกตสีหน้าของ ซอกกึนกับบงซูที่นั่งคู่กันบนเครื่องเล่น หน้าเค้านิ่งมากเลยค่ะ 555
นอกจากสาระมากมายแล้ว เรื่องนี้เป็นหนังที่เปิดฉากมา แค่สามนาทีแรกก็ทำเอาผู้เขียนฮาลั่นได้ และมีอมยิ้มได้เป็นระยะๆ ซึ่งบางบทก็เป็นแนวตลกร้าย อยากหัวเราะก็ทำไม่ได้เต็มที่ เพราะเห็นใจสงสารอยู่นะ แต่รวมๆก็ถือว่า หนังดูได้สนุกเพลินๆค่ะ เชียร์พิเศษสำหรับคนมีแฟน หรือแต่งงานแล้ว
ปล. เรื่องนี้เดิมใช้ชื่อว่า Wind Wind Wind จะเห็นได้จากงานดีไซน์ฟ้อนท์ชื่อเรื่อง และสไตล์ภาพโปสเตอร์ที่ล้อกับลม ผู้เขียนเข้าใจเองว่ามันก็มีความหมายที่สอดคล้องกับสถานที่ คือเกาะเชจู และ ชีวิตที่มีลมพัด ลมปะทะบ้าง แต่วูบที่มันผ่านไปได้แล้ว เราจะสดชื่นขึ้น เหมือนได้เริ่มต้นอะไรใหม่ๆได้
Trailer :
