ภารกิจท้าทายครั้งใหม่ของ มาซอกโด
ตำรวจที่ใช้ร่างกายเป็นอาวุธ ผู้ห่างไกลความรู้ของโลกดิจิตอล
ข้ามห้วยจากคดีฆาตกรรมอำมหิต ไปสู่อาชญากรรมไซเบอร์
ที่เสนอทั้งความมันส์ระห่ำและความฮากระหน่ำ
The Roundup : Punishment เป็นงานภาคต่อเรื่องที่ 4 นับจาก The Outlaws (2017) The Roundup (2022) และ The Roundup : No Way Out (2023) ที่นำเสนองานอาชญากรรมแอ็คชั่นฉบับหมัดหนักพ่วงเสียงฮาของมาดงซอก โดยเรื่องนี้ได้ ผกก.ฮอมยองแฮง มือเก๋าแห่งวงการคิวบู๊ (เป็นผู้มีส่วนในงานมากมายล้านแปดเรื่องของเกาหลีเลยแหละ!) ซึ่งเคยกำกับและร่วมงานกับมาดงซอกในเรื่อง Badland Hunters (2024) มาก่อนที่จะกำกับเรื่องนี้
กระแสตอบรับที่เกาหลีคือแรงมาก ระดับที่ส่งให้เรื่องนี้มียอดผู้ชมทะลุ 11 ล้านแล้วหลังฉายมาแค่เดือนเศษๆเอง (เป็นข้อมูล ณ วันที่เขียนรีวิว ซึ่งยังเป็นเบอร์สองของปี หายใจรดต้นคอเรื่อง Exhuma อยู่) และเมื่อนับรวมทุกภาคเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ผู้ชมสะสมรวมมากเป็นประวัติการณ์ถึง 40 ล้านคน! ถ้ายังผลิตภาคต่อเรื่อยๆ จะไปจบที่เท่าไหร่ อยากรู้เหมือนกันค่ะ
ภาคนี้ มีความทันยุคทันเหตุการณ์และชาญฉลาดในการเลือกหยิบอาชญากรรมไซเบอร์มาแจมกับอาชญากรรมอุฉกรรจ์ได้อย่างกลมกลืนน่าสนใจมากขึ้น ผูกบทสืบสวนโยงใยได้ซับซ้อนขึ้นกว่าภาคก่อนๆ ทำให้ได้ตัววายร้ายสองสไตล์ หนึ่งจิตเหี้ยมอำมหิต มีมีดสั้นเป็นอาวุธ อีกหนึ่งเป็นเซียนไอที มีสมอง อำนาจเงิน และความเจ้าเล่ห์เป็นอาวุธ ได้ความสามเส้าอีกสูตร คือระหว่างวายร้ายสองคนกันเอง และระหว่างตำรวจกับวายร้าย
เริ่มต้นเรื่องราวจากที่ทีมของ มาซอกโด (รับบทโดย มาดงซอก) บุกจับคดียาเสพติด ทำให้พบว่ายุคนี้ซื้อขายผ่านแอปกัน และพอดีกับพบว่า โชซองแจ เด็กหนุ่มผู้เป็นต้นคิดพัฒนาแอปนั้น เกิดเสียชีวิตที่ฟิลิปปินส์ ส่งตัวกลับมาเกาหลีในสภาพที่รู้เลยว่าถูกฆาตกรรมโหด จึงสืบสาวต่อได้ความว่าเขาไปทำงานอยู่กับบริษัทหนึ่ง ซึ่งเบื้องหลังคือ องค์กรเถื่อนผูกขาดเว็บเกมพนันออนไลน์ซึ่งใช้วิธีการโหดชั่วในการกินรวบธุรกิจ โดย แบคชางกี (รับบทโดย คิมมูยอล) ซึ่งอดีตเป็นทหารรับจ้าง เชี่ยวชาญมีดสั้นและขึ้นชื่อเรื่องอำมหิต คือไม่ชอบพูดพร่ำทำเพลง ขอจ้วงฉึกๆ ฆ่าไว้ก่อนละกัน บรื๋อออ..
แบคชางกีมีพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่บริหารคุมเซิร์ฟเวอร์ให้ คือ ชางดงชอล (รับบทโดย อีดงฮวี) ซึ่งเขากำลังเตรียมโปรเจ็คท์ใหญ่ เรื่องการนำคอยน์ใหม่เข้าคริปโตเคอร์เรนซี่ เพื่อหวังผลเรื่องการหลบพ้นการติดตามของตำรวจ และสลัดการพึ่งพาเรื่องฟอกเงินซึ่งแบคชางกีคุมอยู่ ว่าง่ายๆก็คือกำลังเตรียมหักหลังและตัดขาดกับแบคชางกีนั่นเอง
ด้านมาซอกโด ผู้อ่อนต่อโลกดิจิตอลสุดๆ ต้องพึ่งพาตำรวจไซเบอร์ ซึ่งมี ฮันจีซู (รับบทโดย อีจูบิน) และ คังนัมซู (รับบทโดย คิมชินบี) ในการสืบเสาะเบาะแส ร่วมไปกับทีมตำรวจชุดเดิม ที่รับบทโดย อีบอมซู คิมมินแจ อีจีฮุน รวมถึง จองอินกี ที่ยังมารับเชิญในบทของผู้กำกับสถานีให้อยู่
การหยิบเอาเรื่องหรือมุกเดิมๆมาล้อใหม่ ก็ยังได้ผลอยู่นะ เช่นการใช้ตัวช่วยจากนักเลงธุรกิจที่ยังติดหนี้บุญคุณ (สื่อความเป็นตำรวจคุมนักเลงในภาคแรกๆ) รวมถึงการใช้ขาประจำ จางอีซู (รับบทโดย พัคจีฮวาน) อีกครั้งอย่างจริงจัง เพราะเขาคือตัวละครสำคัญที่ชูโรงความฮา และความสำเร็จของการสืบจับคดีเสมอ เป็นโบรมานซ์กับมาซอกโดที่ลงตัวสุดๆ สูตร ‘ต้องมี’ ในทุกภาคแน่นอน เป็นคู่กัดและผู้ช่วยจำยอมที่เข้าขาความฮาหน้าตาย (คงแข่งกันอยู่) จางอีซู จะเป็นตัวละครที่ชนะเลิศความฮาตั้งแต่คาแรคเตอร์ ท่าทาง บทพูด การต่อปากต่อคำ และการแบกรับความซวยฉบับตลกร้ายตลอดเลยค่ะ
รวมถึงนานามุกตลกร้าย แซะความรู้ ความหลังเขาไม่ทันโลกยุคดิจิตอลของมาซอกโด ซึ่งมักทำให้เขาปล่อยไก่เป็นเล้า ทว่าจะหน้าแตกยังไงก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างน่าเอ็นดู หรือความแสบตลกร้ายฉบับดื้อๆเป็นเด็กโข่งจอมกวนของเขาที่ทำหัวหน้าต้องปวดกบาลตามเสมอ
โดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนที่ชื่นชอบตัวร้าย จางเฉิน ใน The Outlaws มากสุด เพราะเขาไม่ได้โรคจิต แต่เขาตามทวงสิ่งที่ควรเป็นของเขาอย่างโหดๆ เหมือนจะรู้ใจ ภาคนี้ แบคชางกีเลยมาแบบ hybrid คือเป็นทั้งโรคจิตไม่รู้สึกรู้สาทางอารมณ์มนุษย์ และมุ่งมั่นทวงสิ่งที่ควรเป็นของเขาอย่างโหดๆเช่นกัน เมื่อตกอยู่ในฝีมือแสดงเทพๆของคิมมูยอลแล้ว ทำให้ดูมีเสน่ห์มาก หลายฉากที่ได้เห็นสายตาของเขา จิตจริงๆค่ะ แต่ถ้าไม่เผลอสบตา ก็จะเห็นเสน่ห์ความหล่อกำยำ เพราะเรื่องนี้เขาขุนน้ำหนักขึ้นมาหน่อย ส่วนอีดงฮวีก็เล่นดีเหลือใจ แค่เสียดายว่าบทและแอร์ไทม์อาจยังน้อยไปนิด
จะว่าไป คาแรคเตอร์มาซอกโดก็เป็นสิ่งซ้ำๆคุ้นเคย อาชญากรรมที่หยิบมาเสนอก็เป็นเรื่องจริงในสังคมที่คุ้นเคย รู้ๆกันอยู่แล้ว แต่การนำทั้งหมดมาเขย่าเข้ากันอย่างกลมกล่อม จัดสรรลดฉากแอ็คชั่นโหดเพิ่มเนื้อหาได้เหมาะสม เดินเรื่องในจังหวะกำลังดี อิมแพคท์ไม่ตก ทำให้สูตรสำเร็จง่ายๆเดิมๆเดาได้เหมือนล็อคไว้ และคลี่คลายได้ฉับไว ก็ยังกลายเป็นความสนุกบันเทิงได้อย่างเหลือเชื่อ เป็นสองชั่วโมงจบที่ไม่รู้ตัวเลย ใครชอบแนวเพลินเพลิน ก็ลองไปพิสูจน์กันได้ค่ะ
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
