เมื่อ ‘มาซอกโด’ ตำรวจตัวพ่อขาลุย พร้อมใช้กำปั้นแก้ทุกปัญหาให้จบไว ๆ ในหมัดเดียว
ตะบันหมัดใส่วายร้ายอั้ก ๆ อัดมุกฮาร่วนใส่ผู้ชมเอิ๊กอ๊าก
สร้างสองชั่วโมงแห่งบันเทิงสุข ยาคลายเครียดขนานนี้ ต้องไม่พลาดค่ะ
The Roundup : No Way Out เป็นงานภาคที่สามซึ่งแตกหน่อเติบโตมาจาก The Outlaws (2017) เล่าวิถีและภารกิจหน้าที่ของตำรวจตัวพ่อ เอกลักษณ์กล้ามโต เป็นสายบู๊บ้าบิ่นตะบันลูกเดียว นามว่า มาซอกโด (รับบทโดย มาดงซอก)
สำหรับภาคแรก The Outlaws มาซอกโดจัดการกับนักเลงโหดเหี้ยมสัญชาติจีนหลายก๊กหลายแก๊งตีกัน โดยมี ยุนคเยซัง รับบทตัวร้าย ก็จะมาในโทนดิบเถื่อนและดาร์คนัวร์โลว์คีย์หน่อย ต่อมาภาคสองเป็น The Roundup (2022) การล่าวายร้ายข้ามประเทศ อาชญากรโรคจิตที่กระหน่ำแทงฆ่าคนอย่างอำมหิต โดยมี ซนซอกกู รับบทตัวร้าย โทนก็จะผสมผสานการต่อสู้ด้วยหมัดและมีดโหด ๆ สยองบ้าง แต่ไม่ค่อยอึมครึมโลว์คีย์แล้ว และแซมมุมตลกขำขันเข้าไปมากขึ้น
มาถึงภาคนี้ เราจะได้พบกับความบันเทิงที่ขยับมาเป็นแอ็คชั่นคอมเมดี้แบบเต็มขั้น ทุกฉากบู๊แอ็คชันเน้น Vibe สนุกสนาน ไม่ใช่เหวอะหวะนองเลือดแบบภาคก่อน และที่สำคัญทุกตัวละครพร้อมใจกันแย่งซีนชงมุกฮา สาดกระจายกันตลอดเรื่อง จนชื่อไทยที่ว่า บู๊ระห่ำล่าล้างนรก : ทุบนรกแตก นั้น ผู้เขียนอยากเติม ‘ต่อมฮาแตก’ เข้าไปด้วยเลยอะ
เรื่องราวเริ่มต้นที่ มาซอกโด (รับบทโดย มาดงซอก) ย้ายมาสังกัดหน่วยสืบสวนกลาง ร่วมทีมกับ ผู้กองจางแทซู (รับบทโดย อีบอมซู) และคู่หูลูกน้อง คิมมินแจ (รับบทโดย คิมมินแจ) ไปทำคดีการเสียชีวิตของหญิงสาวคนหนึ่งที่ตกตึก สาวไปสาวมาก็เกี่ยวพันกับยาเสพติด ขุดคุ้ยต่อก็เจอแก๊งค้ายาตัวใหม่ที่ชื่อว่า ‘ไฮเปอร์’ มีฤทธิ์รุนแรง กำลังเริ่มแพร่หลายกระจายขายอยู่ตามคลับบาร์ ทำให้มาซอกโดลุยเข้าไปสืบ แม้ว่าจะเป็นพื้นที่สน.อื่น และยังล่วงล้ำเส้นงานของตำรวจหน่วยอาชญากรรมยาเสพติด ซึ่งมี ผู้กองจูซองชอล (รับบทโดย อีจุนฮยอก) ดูแลอยู่
แก๊งค้ายาต้นตอนี้ไม่ธรรมดา เป็นยากูซ่าอยู่ที่ญี่ปุ่น คือ อิชิโสะ (บทรับเชิญโดย จุน คุนิมูระ) มีสมุนมือขวาสายบู๊โหดคือ ริคกี้ (รับบทโดย มูเนทาเกะ อาโอกิ) และมี โทโม (รับบทโดย อันเซโฮ) เป็นตัวกลางที่ดูแลกิจการอยู่ที่เกาหลี ทั้งการรับวัตถุดิบจากญี่ปุ่นมาผลิตเม็ดที่นี่ การกระจายสินค้าขายผ่านนายหน้าแก๊งย่อยหรือเจ้าของคลับบาร์รายเล็ก ๆ และเก็บเงินส่งกลับญี่ปุ่นเป็นรายเดือน แน่นอนว่าจะค้ายาได้โลดก็ต้องมีตำรวจเอี่ยวคุ้มครองร่วมผลประโยชน์ แต่ไป ๆ มา ๆ ตำรวจสายเถื่อนโลภมากผู้นี้ก็ฮั้วกับโทโมโกงยามาไว้ขาย รวยลงกระเป๋าตัวเอง โดยมีลูกค้าใหญ่เป็นจีนที่กำลังเจรจาจะซื้อจำนวน 20 กก. นอกจากนี้ยังเหิมเกริมฆ่าทำลายศพตำรวจนายหนึ่งที่สืบพบยาด้วย
เมื่อความแตกก็ทำให้ริคกี้ต้องรุดมาเกาหลี เพื่อจัดการปัญหาด้วยดาบซามูไรคมกริ๊บ แต่ยา 20 กิโลมูลค่า 30 ล้านนั้นถูกซุกซ่อนไว้ที่ใดสักที่ ทำให้ต้องเกิดการรุมตามหาของทุกฝ่าย และเป็นชนวนของงานบู๊สามเส้า ระหว่างริคกี้กับตำรวจเกาหลีขี้โกง ริคกี้กับมาซอกโด มาซอกโดกับตำรวจ และในกระบวนการสืบจับนั้นก็พ่วงเอาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่ Drug Ring นี้ มาร่วมมืออย่างจำใจจำยอมต่อกำปั้นของมาซอกโด ได้แก่ คิมยังโฮ (รับบทโดย จอนซอกโฮ) และ โชรง (รับบทโดย โกกยูพิล)
โดยรวมแล้ว ถ้าว่ากันที่เรื่องราวก็ไม่ได้มีอะไรใหม่หรือน่าสนใจเป็นพิเศษเลย ปมเดียวที่เป็นเซอร์ไพรส์หักมุมของเรื่องก็ยังเฉลยแบบโต้ง ๆ ตะลึงไปอีกแบบ แม้จะเดาเรื่องได้ง่ายและเป็นไปตามสูตรสำเร็จ ก็ไม่น่าเบื่อนะ ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับการหยอดขำน้อยขำใหญ่ตลอดเรื่อง เสน่ห์ของการตบมุกโบ๊ะบ๊ะแนวด้นสด เหมือนทุกตัวละครตั้งใจแข่งกันขโมยซีน และยอมรับว่ามุกส่วนใหญ่ใช้ได้เพราะจังหวะโป๊ะดี แม้แต่มาดงซอกยังยอมให้ใช้ปมด้อยไม่หล่อมาเล่นตั้งหลายช็อตเลย
งานแอ็คชั่นก็ปรับโทน เป็นการใช้ซาวน์เอฟเฟคและมุมกล้องสร้างฟิลทุบสนั่นโอเวอร์หน่อย ตามด้วยซีนถูกเหวี่ยงโครม ๆ อย่างกับพวกหนังฮีโร่มาร์เวล แม้จะมีฉากมีดสั้นบ้างหรือฉากไฮไลท์ต่อสู้กับดาบซามูไรก็ตาม ฟิลของดาบเสียบแทงก็ยังให้ใช้การสร้างภาพในสมองประมวลผลของผู้ชมเอง ไม่ได้โชว์ความสยองนองเลือดเหวอะหวะเช่นหนังฆ่ากันโดยปกติ หลัก ๆ แล้วก็เน้นหมัดแหละ มาซอกโดยังสู้กับดาบซามูไรด้วยสองหมัดเท่านั้นเลย อิอิ
สำหรับวายร้ายของเรื่องที่ต้องจับตาในฐานะอีกหนึ่งแม่เหล็ก เพราะผู้ชมจะติดใจในเสน่ห์ของ ยุนคเยซัง ตามมาด้วย ซนซอกกู ที่ทำไว้ดีมาก ตอนนั้นบวกกระแสส่งด้วย ทำให้ อีจุนฮยอก อาจโดนจับตาเปรียบเทียบ ก็ขอบอกว่าเขาแผ่รังสีความร้ายออกมาทางใบหน้า แววตา ท่าเดินได้ดีมีเสน่ห์จริง ๆ คุ้มการตั้งใจขุนน้ำหนักฟิตหุ่นให้แกร่งเป็นควายไบซัน แม้ว่าบทของเขาอาจไม่เยอะนัก แต่ทุกฉากที่ออกมามีพลังดึงดูด ส่วนวายร้ายญี่ปุ่นก็พอประมาณ ส่วนตัวคิดว่าเขาคงยั้งน้ำหนักไว้ แต่สิ่งที่ดีก็คือ เราจะได้ฟังสำเนียงญี่ปุ่นแท้ ๆ ไม่ต้องแปร่ง ๆ จากการใช้นักแสดงเกาหลีเล่นเป็นคนญี่ปุ่นเหมือนเรื่องอื่น ๆ
ตบท้ายเรื่อง หลังเอ็นด์เครดิตอย่าลืมดูบทแถมของ จางอีซู (รับบทโดย พัคจีฮวาน) ตัวละครที่ตามกันมาทุกภาค ที่อุตส่าห์เปลี่ยนอาชีพหนีมาซอกโดแล้วก็ยังต้องเจอกันอยู่
เรียกได้ว่าเป็นอีกผลงานเด่นของบันเทิงแอ็คชั่นคอมเมดี้ เป็นงานที่ไม่ได้ใช้ต้นทุนมากนัก แต่ประสบความสำเร็จถึงจุดคุ้มทุนไว ยอดจำหน่ายตั๋วที่เกาหลีทะลุ 8 ล้านไปแล้ว (ณ 13 มิ.ย. 2023) เชื่อว่าจะข้าม 10 ล้านแน่ แถมยังมียอดขายลิขสิทธิ์ต่างประเทศอีกมากมาย ตอนนี้คือขึ้นแท่นอันดับหนึ่งหนังทำเงินของปีนี้ไปแล้ว ในเมื่อหนังทั้ง 3 ภาคขายดิบขายดีขนาดนี้ ใคร ๆ คงเชื่อว่าเขาต้องผลิตภาค 4 แน่เลยเนอะ รอตามข่าวต่อไปค่ะ
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
