ติดตามดูงานของนักออกแบบแผนฆ่า จัดฉากอำพรางการตายให้เป็นการเกิดอุบัติเหตุอย่างแนบเนียน
แต่เมื่อเขาต้องเจอเข้ากับตัวเอง เหมือนกำลังถูกใครจัดการบ้าง
มันจะใช่ความจริงหรือเป็นเพียงความคิดหลอนตัวเอง ชวนตามไปขบคิดหาคำตอบพร้อมกับเขาดู
The Plot หรือชื่อแรกเริ่มตามคำแปลจากภาษาเกาหลีคือ The Designer เป็นภาพยนตร์รีเมคมาจาก Accident (2009) ของฮ่องกง ใน genre อาชญากรรม ปริศนา ดรามา ทริลเลอร์ และนัวร์ หนังไม่ประสบความสำเร็จนักในแง่รายได้ และยังได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ ถึงขั้นแซะว่าบทไม่ได้รับการออกแบบ (design) ให้ดี ไม่สมกับชื่อเรือง แต่เนื่องจากผู้เขียนชื่นชอบคังดงวอน จึงต้องขอเปิดใจชมเองแบบไม่สนอคติชี้นำ และจะรีวิวตามเนื้อผ้าในจริตแบบของผู้เขียนดูค่ะ (ยาวหน่อย แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง)
*เรื่องย่อจะขอพาดพิงเนื้อหาสำคัญทั้งหมด เพื่อใช้อ้างอิงและวิเคราะห์ในบทรีวิว จึงขอแนะนำว่า ควรอ่านหลังดูหนังจบ หรือใช้ประกอบการทำความเข้าใจ*
ว่าด้วยทีมบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ไร้ตัวตนติดตามได้ ไม่มีข้อมูลในสารบบทะเบียนภาครัฐ พวกเขา ‘รับจ้างฆ่าคน’ ด้วยการออกแบบแผนการสร้างเรื่องจัดฉากเพื่ออำพรางให้การตายดูเหมือนอุบัติเหตุ เป็นเหตุบังเอิญที่ว่าดวงมันจะซวยจริงๆ
พวกเขาใช้ชื่อบริษัทซัมควังซิเคียวริตี้บังหน้า โดยมี ยองอิล (รับบทโดย คังดงวอน) หัวหน้าทีมผู้ทำหน้าที่ออกแบบวางแผนชุดสถานการณ์ต่อเนื่อง ลูกทีมภาคสนามของเขาจะเข้าฉากรับช่วงกันเป็นทอดๆ ‘ชง’ ให้ทุกอย่างดูเป็นเหตุบังเอิญแล้วบังเอิญเล่า จนเป้าหมายต้องตายในลักษณะของอุบัติเหตุแบบเนียนๆ ก็มี วอลชอน (รับบทโดย อีฮยอนอุค) ชายที่อยากเป็นหญิง จึงถนัดงานปลอมตัว จอมมัน (รับบทโดย ทังจุนซัง) น้องเล็กของทีมที่เพิ่งมาร่วมงาน ถนัดงานซิ่งมอเตอร์ไซค์ และแจ็คกี้ (รับบทโดย อีมีซุก) ซึ่งเป็นสมาชิกเก่าแก่ เก๋าเกม ที่ยองอิลนับถือและพึ่งพาไอเดียบ่อยๆ
แจ็คกี้ อยู่มาตั้งแต่ยองอิลเริ่มทำงานกับคู่หูผู้ร่วมก่อตั้งกิจการ คือ จักนุน (บทรับเชิญโดย อีจงซอก) จักนุนเป็นคนดีที่ช่วยเหลือแจ็คกี้ให้รอดพ้นการติดยาปางตาย เธอจึงอยู่ช่วยงานมาจนทุกวันนี้ แม้ว่าจักนุนจะเสียชีวิตไปแล้วจากอุบัติเหตุรถเมล์ชนระหว่างเดินข้ามทางแยกพร้อมกับเหยื่อคนเดินเท้าอีกสองราย ซึ่งยองอิลยังคาใจมาตลอดว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการออกแบบฆ่าโดย The Cleaners ทีมที่เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่มีความสามารถสูงมาก
ลูกค้างานใหญ่รายต่อมาของยองอิล คือทนายจูยองซอน (รับบทโดย จองอึนแช) ที่สั่งฆ่าพ่อตัวเอง คือ จูซองจิก (รับบทโดย คิมฮงปา) ผู้อยู่ระหว่างเสนอชื่อเป็นอัยการสูงสุด ข่าวพัวพันกองทุนสินบนของเขาถูกปัดไปเป็นความผิดของภรรยาเพียงผู้เดียว ซึ่งเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน ทำให้การสอบสวนชะงักไป และตอนนี้คดีกำลังถูกรื้อขึ้นมา โดยเปลี่ยนผู้ต้องหาเป็นจูยองซอนแทน ที่สำคัญ ยองอิลพบว่า การเสียชีวิตของแม่เธอนั้นเหมือนกับจักนุน จึงเชื่อว่าเป็นฝีมือของ The Cleaners อีกแล้วแน่นอน
แม้แผนการเขาจะสำเร็จ แต่ระหว่างปฏิบัติการ เขาพบว่าแจ็คกี้หายตัวไปกระทันหัน จึงออกตามหา และเขาก็เจออุบัติเหตุรถเมล์พุ่งเข้าใส่ แต่รอดมาได้หวุดหวิด ทว่า จอมมันที่ขี่รถตามมากลับไม่รอด!
ในขณะที่ จูยองซอน กลับเจอบรรดาสตรีมเมอร์และสื่อรุมทึ้งข่าวฉาวเรื่องการรับผลประโยชน์ก้อนโตจากแผนประกันชีวิตของพ่ออย่างน่าสงสัย รวมถึงสารวัตรยังคยองจิน (รับบทโดย คิมชินรก) ก็ตั้งข้อสงสัยมาสอบปากคำ
นอกจากนี้ ไลฟ์สตรีมเมอร์ชื่อเฮาเซอร์ (รับบทโดย อีดงฮวี) ยังพ่วงข้อสังเกตุด้วยว่ามีผู้ร่วมสมคบคิดกับจูยองซอนในการฆ่าพ่อ และตีประเด็นต่อมาเรื่อยๆจนถึง ‘ลางหลอนฑูตมรณะ’ อ้างว่าเป็นชายคนหนึ่งที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุเสมอ (ทำให้ยองอิลเชื่อว่าเขาหมายถึง The Cleaners)
ในช่วงที่ยองอิลตามสืบหาเบาะแส The Cleaners เขาพบแจ็คกี้โดยบังเอิญ ได้รู้ความจริงว่าเพราะเธอเป็นอัลไซเมอร์ จึงหลงหายตัวไป (บทสนทนาเลอะๆหลงๆของเธอทำให้ผู้ชมรู้ว่า จักนุนอยากเลิกทำงานนี้ ไปใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดา จึงตัดสินใจจากยองอิลไปเอง)
ยองอิลลงมือสืบจนพบว่า อีชีฮยอน (รับบทโดย อีมูแซง) คนของบริษัทประกันภัยบันวอล เกี่ยวข้องกับเรื่องของจูยองซอน ปะติดปะต่อเรื่องได้ลงตัวจนเขาเชื่อว่านี่คือคนของ The Cleaners และยังพบเรื่องที่ทำให้เชื่อว่า วอลชอนเป็นหนอนบ่อนไส้ ติดต่อรับเงินจากอีชีฮยอน (เป็นความเข้าใจผิดที่เขาจะได้รู้ภายหลัง) นำมาสู่การมีปากเสียง จนต้องเสียวอลชอนไปด้วยน้ำมือของเขาเองอย่างน่าสลดใจ
ในขณะที่ จูยองซอน ตกตึกตายหลังเข้าพบอีชีฮยอน ตามไล่ๆมาด้วย แจ็คกี้ก็ตกตึกเช่นเดียวกัน ยองอิลที่คิดว่าทั้งสองเหตุการณ์ติดๆคือแผนการของ The Cleaners เขาจึงเริ่มหวาดระแวงว่าเป้าหมายต่อไปก็คือตนนั่นเอง ยิ่งพบว่ามีผู้แอบบุกรุกเข้าบ้านเขาด้วย
ยองอิลต้องรีบชิงลงมือกำจัดอีชียอน ด้วยแผนที่ออกแบบมาอย่างดี แต่นาทีที่กำลังจะบรรลุผล เขากลับรู้ความจริงจากรายงานข่าว เช่นว่า จูยองซอนทนข่าวฉาวไม่ไหวโดดตึกฆ่าตัวตาย ว่าอีชีฮยอนคือคนธรรมดาๆที่มิใช่ The Cleaners ผู้หญิงอีกคนที่ถูกเข้าใจว่าเป็นเป้าหมาย แท้จริงคือคู่หมั้น ผู้ชายอีกคนที่ถูกเข้าใจว่าเป็นผู้ช่วยแท้จริงคือว่าที่พ่อตา และยิ่งไปกว่านั้น ลางหลอนฑูตมรณะที่เฮาเซอร์ เอ่ยถึงก็ถูกเผยออกสื่อว่าคือ ตัวยองอิลเอง ด้วยหลักฐานภาพจากที่เกิดเหตุ! … แต่ทุกอย่างสายเกินกว่าเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรได้ อีชีฮยอนต้องมาตายด้วยอุบัติเหตุรถชนที่เกิดจากแผนของยองอิล
ยองอิลจึงเข้ามอบตัวกับสารวัตรยังคยองจิน นอกเหนือจากได้รู้ความจริงน่าเศร้าของวอลชอน (หรือชื่อจริงว่าคังดงจุน) กับเงินกระเป๋านั้นในวันที่ตาย ยองอิลยังถูกตำรวจหาว่าพูดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หลักฐานก็ไม่มี ควรไปบำบัดจิต ส่วนอีกคนที่สติไม่ดีก่อความไม่สงบคือเฮาเซอร์ ก็ถูกจับแล้ว ตามด้วยคำถามว่า ยังเชื่อว่ามี The Cleaners อยู่จริงๆหรือ ทำให้ยองอิลคิดถึงเมื่อก่อนที่เขาใช้แผนรั้งจักนุนไว้ให้อยู่กับเขา ด้วยการแอบติดเครื่องดักฟังแล้วอ้างว่าถูกดักฟังโดย The Cleaners
คล้อยหลังยองอิลออกไป สารวัตรยังคยองจินคือคนที่มีตัวหมากรุกจากบ้านของยองอิล!!!
ก็เรียกว่า หนังแปลกดี มี trick หลอกล่อจูงยองอิลให้หลงเข้าใจผิดไปพร้อมๆกับหลอกผู้ชมด้วย ให้ค่อยๆเชื่อว่ามี The Cleaners เมื่อคิดว่าเจอตัวเล้ว ก็หักมุมว่าไม่ใช่ เป็นความเข้าใจผิดทั้งหมด ตอกย้ำจากตำรวจว่าเหลวไหล ไม่มีใครทำการวางแผนแบบนี้ได้ แล้วก็หักมุมแรงอีกที ซีนเดียวน็อคว่า ยองอิลถูกวางแผนจัดฉาก! เข้าใจโดยปริยายได้ว่า The Cleaners มีอยู่จริง และมีฝีมือเก่งซับซ้อนมาก หลอกคนวางแผนเก่งๆได้อีกทอด ปั่นหัวคนสุขุมเยือกเย็นอย่างยองอิลให้สติแตกพารานอยด์ได้ สะท้อนให้เห็นว่าในโลกนี้ไว้ใจอะไรได้ยากจริงๆ
ชวนให้เราฉุกคิดต่ออีกว่า แล้วรอบตัวเราที่เห็นเป็นอุบัติเหตุมากมายนั้น มีอันไหนถูกวางแผนจัดฉากแบบในหนังหรือไม่ เราผู้ชมนี่แหละที่ชักเริ่มคิดมากละว่า คนอย่าง The Cleaners มีจริงหรือไม่ คือชอบนะที่ดูไปต้องคิดตามไป จบแล้วก็ยังคิดต่ออีกไม่ยอมเลิก 555 ในความซับซ้อน เป็นนัย และปลายเปิด อีกทั้งยังจุกอกในหลายสิ่งที่เกิดกับทีมของยองอิล ไม่ว่ามันจะเป็นอุบัติเหตุหรือถูกจัดฉากวางแผนก็ตาม หรือแม้แต่ตัวยองอิลเอง บทส่งท้ายจำลองอุบัติเหตุด้วยตัวหมากรุก ซีนแรกคือเคสของยองอิลหรือไม่ น่าคิด! น่าทึ่ง!
นอกจากนี้ การหยิบเหล่าไลฟ์สตรีมเมอร์เข้ามาแจมบทให้เข้ากับยุค สะท้อนประเด็น ความจริง vs ความเท็จ มันปะปนกันจนยากจะแยกแยะ แต่จะจริงหรือเท็จก็แล้วแต่ว่าใครจะเชื่อ และที่สำคัญมันก็บีบให้คนตายได้มานักต่อนักแล้ว ไม่ต้องไปพึ่งพาถึงทีมของยองอิลหรือ The cleaners หรอก หรือดีไม่ดี เบื้องหลังข่าวก็อาจถูกชักใยโดยคนแบบ The Cleaners ก็ได้นะ หรือในอีกด้านคนเหล่านี้แหละที่กล้าหาข้อมูลเพื่อเปิดหูเปิดตามวลชน จนตัวเองอาจเดือดร้อนเหมือนเฮาเซอร์ก็ได้
ช่างเป็นเรื่องที่ปั่นหัวผู้ชมให้คิดกลับไปกลับมาได้หลายตลบตลอดเวลา เปิดช่องให้คิดดิ้นได้หลายทฤษฎี ซึ่งกลายเป็นดาบสองคม คือคิดแล้วมันก็ไม่มีคำตอบจากหนัง เลยชวนอึดอัดและสนุกไม่สุด ทั้งๆที่ตอนขึ้นต้นเรื่องก็บันเทิงเข้าใจง่ายดี มาเจอปัญหาดูยากขึ้นพร้อมๆกับที่ยองอิลเจอปัญหา ก็เพราะคนดูถูกลากให้เข้าไปเป็นยองอิล อาจเป็นเพราะการลำดับตัดต่อเล่าเรื่อง เหมือนเว้าๆแหว่งๆไม่ครบความ คลุมเครือกำกวม ก็เข้าใจนะว่าเป็นเทคนิคที่ใช้ลวงผู้ชม สร้างความสงสัย แต่บางซีนก็ตัดจนงงได้เลย แถมเมื่อบทดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลนัก เลยยิ่งพาให้ชวนงงเพิ่มไปอีก และสิ่งที่รู้สึกขัดใจอีกอย่างคือ งานซาวน์ที่โฉ่งฉ่างรบกวนหูมากกว่าจะเพิ่มฟิลระทึก สรุปโดยรวมแล้ว ผู้เขียนว่าเป็นงานดูสนุกได้ถ้ายอมถูกสูบพลังเยอะหน่อยค่ะ 555
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีtข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน