การกลับมาคืนจอของทีมโจรสลัดชุดใหม่กับเป้าหมายใหม่
สมบัติล้ำค่ากลางทะเลโพ้นที่สุดอันตราย
แต่ท้าทายความเป็น ‘มังกรแห่งท้องทะเล’ ของพวกเขา
สืบเนื่องจากต้นกำเนิดของหนังโจรสลัดแห่งน่านน้ำเกาหลี The Pirates ปี 2014 ซึ่งโด่งดัง ประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งรายได้และรางวัล (อ่านรีวิวได้ที่นี่) นำมาซึ่งการสร้างสรรค์เรื่องราวผจญภัยครั้งใหม่ใน The Pirates: The Last Royal Treasure ในปีนี้ก็ได้ยกทีมนักแสดงชุดใหม่ และดำเนินอีกเรื่องราวบนพล็อตล่าสมบัติอีกครั้ง โดยออกฉายที่เกาหลีไปเมื่อปลายมกราคมที่ผ่านมา จัดเต็มในระบบ 3D ด้วย แน่นอนว่าหนังทำรายได้พุ่งโลดขึ้นอันดับหนึ่งของปีอย่างฉลุย สำหรับผู้ชมในต่างประเทศก็เรียกว่าได้ชมกันอย่างเร็วมากและทั่วถึงผ่านลิขสิทธิ์ Netflix ที่มาเสริฟถึงบ้าน
คำถามแรกของผู้ที่ยังไม่ได้ชมภาคแรกว่า เนื้อหาจะต่อเนื่องกันหรือไม่? ไม่ได้ดูภาคแรกจะทำให้ดูภาคนี้ไม่รู้เรื่องหรือไม่? ก็ต้องบอกว่า เนื้อเรื่องเป็นอิสระต่อกันโดยสิ้นเชิง แต่เชื่อเถอะว่าถ้าได้ดูภาคนี้แล้ว ต้องอยากหาภาคแรกมาดูด้วยแน่นอนค่ะ
ด้วยว่าผู้เขียนได้ดูภาคแรกมาแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะมีการพาดพิงเทียบเคียงบ้าง โดยโครงสร้างของเนื้อหา ยังคงรักษาการมีนางเอกเป็นหัวหน้าโจรสลัด พระเอกเป็นโจรป่ามาก่อน แบบว่า มังกรแห่งน่านน้ำเจอะกับพยัคฆ์แห่งพงพีร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้กับฝ่ายตัวร้าย มีเป้าหมายเดียวกันคือล่ามหาสมบัติของท้องพระคลังแห่งราชวงศ์โครยอ ซึ่งเคยถูกลักลอบขนหนีไปไว้ ณ โพ้นทะเลลึกลับก่อนสิ้นแผ่นดินและเปลี่ยนราชวงศ์เป็นโชซอน แต่ทว่า การเข้าถึงลายแทงแผนที่นั้น ก็ต้องไขปริศนาที่มีความซับซ้อน ต้องแกะรอยไปทีละขั้น และยังต้องฟันฝ่าอุปสรรคอันโหดร้ายของธรรมชาติวิปริตในท้องทะเลด้วย รวมถึง เจ้าวาฬยักษ์ตัวปัญหาจากภาคแรกก็ยังคงมีบทบาทในภาคนี้อีกครั้ง แถมเพิ่มน้องเพนกวินน่ารักกวน ๆ มาเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มาร่วมชงซีนฮาด้วย
สำหรับตัวละคร ภาคนี้ขนทัพนักแสดงที่ผู้ชมชื่นชอบมาอย่างเยอะ จะมาใครกันบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย ~
ฮันฮโยจู รับบทเป็น ‘แฮรัง’ กัปตันเรือโจรสลัดที่เด็ดเดี่ยวห้าวหาญ และเป็นโจรที่จิตใจดี
คังฮานึล รับบทเป็น ‘อูมูชิ’ อดีตนายทหาร ผู้กล้าโวตัวเองว่าเป็นนักดาบมือหนึ่งแห่งโครยอ
อีกวางซู รับบทเป็น ‘มักอี’ โจรสลัดที่ผู้เติบโตมาในท้องทะเล มีปมชีวิตที่ทำให้ใฝ่ฝันอยากเป็นราชาโจรสลัดบ้าง
ควอนซังอู รับบทเป็น ‘บูฮึงซู’ อดีตนายทหารโครยอ ผู้กระหายในอำนาจ อยากเป็นเจ้าเมือง ปลุกปั่นอีบังวอนเพื่อได้ผู้หนุนกองกำลังล่าสมบัติ สำหรับควอนซังอู นี่คือการเล่นหนังพีเรียดโบราณครั้งแรก และก็ผันตัวมารับบทร้ายครั้งแรกในชีวิตการแสดงเช่นกัน ซึ่งก็ทำได้น่าดู ดีเลยนะ
แชซูบิน รับบทเป็น ‘แฮกึม’ สาวน้อยสิบแปดมงกุฎผู้ถูกทีมโจรสลัดรวบตัวขึ้นไปใช้งานบนเรือ
เซฮุน รับบทเป็น ‘ฮันกุง’ โจรสลัดหนุ่ม พูดน้อย แต่ฝีมือการยิงธนูยอดเยี่ยม
คิมซองโอ รับบทเป็น ‘คังซอบ’ ลูกน้องมือขวาของอูมูชิ
พัคจีฮวาน รับบทเป็น ‘อากวี’ โจรสลัดลูกน้องใกล้ชิดของแฮรัง
พัคฮุน รับบทเป็น ‘มังโช’ ลูกน้องคนสนิทของบูฮึงซู
ซองดงอิล และ คิมซังคยอง ร่วมเป็นนักแสดงรับเชิญ
หนังเกลี่ยส่วนผสมองค์ประกอบความสนุกได้สัดส่วนดี ทำให้ตอบโจทย์บันเทิงได้ครบเครื่อง เป็นสองชั่วโมงที่ดูเพลินรวดเดียว เพราะเสิร์ฟทั้งความลุ้นเชียร์ของฉากบู๊ระห่ำ แอ็คชั่นเสี่ยงตาย เหินฟ้า ดำดิ่งใต้ทะเล หลาย ๆ ฉากออกแบบมาดี ถ่ายทำได้สวยงาม ชวนตื่นเต้นเร้าใจ พีคสุดก็คงเป็นฉากโต้คลื่นมหึมาที่เหมือนเล่นเซิร์ฟยักษ์
ความลุ้นฟินของพระนาง หยอดบทจีบที่น่ารักดี รวมถึงฉากสวย ๆ ใต้น้ำ ความเฮฮาจากมุกขำ ๆ ที่แทรกไว้เรื่อย ๆ ตลอดเรื่อง มีอีกวางซูเป็นตัวประกันบทฮาทั้งคน ย่อมไม่มีผิดหวังค่ะ คังฮานึลเองก็ใช่ย่อย ขายขำเยอะ ตั้งแต่ลุคเลย หน้าตามอซอผมเผ้ากระเซอะกระเซิงเนียนจริงจนเกือบจำไม่ได้ บทเกรียนแบบไม่มีห่วงหล่อเลย แต่ส่วนฮันฮโยจูไม่รู้ว่าเพราะเธอหน้าสวยหวานเกิน จนมอมแมมไม่ออก เข้มดุขึงขังไม่ค่อยสุด แม้จะมีเมคอัพช่วยเยอะ แต่ทุกครั้งที่กล้องจับหน้าเธอ ก็ยังสะกดสายตาอยู่ดีเพราะความเป็นแฟนคลับของเธอ
มาถึงตรงนี้ ก็คงเป็นการตอบคำถามอีกอันไปโดยปริยายว่า ถ้าภาคนี้มีโครงสร้างเหมือนภาคแรกซึ่งดูมาแล้ว จะยังดูสนุกอยู่ไหม… สนุกแน่นอนค่ะ
แล้วภาคไหนดีกว่ากัน ก็คงฟันธงไม่ขาดนัก เพราะในความเป็นข้อเด่นก็เป็นข้อด้อยได้ ภาคแรกอาจได้เปรียบในความสดใหม่ถ้าดู ณ เวลานั้น เพราะไม่เคยมีมาก่อน เร้าใจกับเทคนิคซีจี แต่ถ้าเอามาดูตอนนี้ก็อาจดูโบราณเสียแต้มไปหน่อย ในความดูง่ายเพลิน ๆ นั้นเป็นของภาคนี้ เพราะโครงสร้างเดิม มองอีกมุมก็อาจจำเจ การเดินเรื่องที่กระชับตัดตอนทันใจก็อาจชวนสะดุดกึกกักบ้าง ไม่รู้ที่มาที่ไปชัดเจน หรือแม้กระทั่งการประโคมนักแสดงชุดใหญ่ให้ว้าว ๆ ก็ยังอาจกลายเป็นความผิดหวังได้ เพราะหลาย ๆ คนมีแอร์ไทม์น้อยเกินไปไม่สมกับที่รอ เอาจริงนะ บทที่เด่นจัง ๆ ก็อยู่ที่ฮันฮโยจู คังฮานึล และอีกวางซู แหละ ขนาดควอนซังอูยังบทไม่เยอะนักเลย อาศัยว่าออร่าแรงเลยคุมซีนอยู่
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ชมที่ยังไม่เคยดูภาคแรกมาก่อน และเป็นสายนิยมงานย่อยง่าย ดูเพลิน ๆ สนุก ๆ ไม่เครียด ก็ยืนยันฟันธงได้ว่าเรื่องนี้ใช่ทางแล้วค่ะ
นอกจากนี้แล้ว สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนนึกชมตลอดเรื่องก็คือ งานแบบนี้ เน้นเทคนิคการถ่ายบนกรีนสกรีนเป็นส่วนใหญ่ นักแสดงต้องใช้จินตนาการสร้างอารมณ์ขั้นเทพเลยนะถึงถ่ายทอดออกมาได้เป็นธรรมชาติและสนุกขนาดนี้ ช่างน่านับถือฝีมือจริง ๆ รวมถึงทีมงานโปรดัคชันที่ต้องทำงานหนักในอีกรูปแบบ นี่ถ้าจ่ายเงินค่าตั๋วชม ก็ต้องบอกว่าคุ้มค่าความทุ่มเทของพวกเขาค่ะ
รับชม The Pirates: The Last Royal Treasure ได้ทาง Netflix
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡