The Exclusive : Beat the Devil’s Tattoo หรืออีกชื่อคือ Journalist หรือชื่อไทยว่า ยอดนักข่าวกระชากหน้ากากปีศาจ เป็นภาพยนตร์แนวทริลเลอร์สืบสวนหาฆาตกรโดยนักข่าว เป็นงานเขียนบทและกำกับโดยผู้กำกับผู้หญิง แต่ก็มีลีลาความสนุกน่าสนใจใช้ได้เลยทีเดียว ได้ทั้งอารมณ์ลุ้นๆ จิตๆ ดราม่า จิกกัด ตลกร้าย ภายใต้พลอตเรื่องที่ไม่ธรรมดาของหนุ่มนักข่าวคนหนึ่งกับสกู๊ปพิเศษเฉพาะ Exclusive scoop = ไม่มีใครหรือสำนักข่าวอื่นมี เป็นข้อมูลของเขาคนเดียวเท่านั้น) ซึ่งเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสะเทือนขวัญของสังคม ชีวิตเขาประสบภาวะตกต่ำทั้งการงาน และครอบครัว แต่ได้พบกับความเฮงแล้วซวย ซวยแล้วกลับเฮง เรื่องราวพลิกตลบไปมาหลายครา แต่ก็นำพาไปสู่ภาวะวิกฤตบานปลาย จะเป็น ‘นักข่าวหัวเห็ด’ หรือ ‘นักข่าวหน้าแหก’ ก็อยู่ที่การตัดสินใจของเขาเพียงคนเดียวแหละ
ฮอมูฮยอก (รับบทโดย โจจองซอก) เป็นนักข่าวของสถานีโทรทัศน์ดังแห่งหนึ่ง เขาพยายามจะผลักดันตัวเองจากนักข่าวต๊อกต๋อยให้เป็นนักข่าวหัวเห็ด เกาะติดข่าวเด็ด แต่โชคไม่เข้าข้าง เพราะข่าวที่กำลังขุดคุ้ยตีแผ่อย่างมั่นใจว่าเด็ดแน่ ดันไปเหยียบเท้าผู้มีอิทธิพลเข้าให้ โดยไม่รู้มาก่อนว่าเป็นญาติคนสำคัญของผู้บริหารบริษัทที่เป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของสถานี คราวซวยจึงมาเยือน เขาถูกหมายหัวให้ออก
แต่โชคดีก็มาช่วยทันการ เมื่อมีหญิงสาวแรงงานต่างด้าวคนหนึ่งโทรมาแจ้งเบาะแสว่า เพื่อนบ้านของเธอมีพฤติกรรมน่าสงสัย อาจเป็นฆาตกรต่อเนื่องของคดีเขย่าขวัญสังคม ซึ่งตำรวจกำลังเร่งตามคดีนี้อยู่ แต่เธอไม่กล้าแจ้งตำรวจเพราะกลัวตัวเองจะโดนซิวในข้อหาแรงงานผิดกฎหมาย จึงเลือกแจ้งนักข่าวดีกว่า จะสามารถช่วยปกปิดแหล่งข่าวได้
มูฮยอกจึงตะครุบโอกาสอย่างเงียบๆ แอบเข้าไปตรวจสอบห้องพักผู้ต้องสงสัยดังกล่าวและพบว่า มีหลักฐานที่ชวนเชื่อได้ว่าเป็นฆาตกรโรคจิตที่ตามหากันอยู่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นกองเลือดมากมายของเครื่องใน และเครื่องมือชำแหละ ที่บ่งบอกว่าการฆาตกรรมเกิดขึ้นที่นี่แน่นอน หรือกระดาษโน้ตเขียนข้อความพรรณนาเจตนาการฆ่าคนแบบจิตๆ
เขาจึงกลับสถานีไปด้วยข้อมูลข่าวใหญ่ ที่พลิกชีวิตเขา ไม่เพียงไม่ตกงาน แต่กลายเป็นคนสำคัญของสถานี เพื่อนร่วมงาน และเจ้านาย คือ ผู้บริหารมุน (รับบทโดย คิมอึยซอง) กับ ผอ.แพค (รับบทโดย อีมีซุก) มูฮยอกเจ้าของผลงาน ได้เป็นคนรายงานสกู๊ปข่าวเบาะแสคดีดังชิ้นนี้ออกทีวี ได้ชึ้นเงินเดือนเลื่อนตำแหน่ง กลายเป็นสตาร์ของวงการ เรตติงของสถานีก็พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความโชคดีอีกด้านของชีวิต เมื่อเขาเห็นอนาคตที่สดใสมั่นคงของตัวเอง จึงมั่นใจจะกลับไปง้อคืนดีกับซูจิน (รับบทโดย อีฮานา) ภรรยาสาวที่อุ้มท้องลูกของเขา แต่แยกกันอยู่เพราะเธอเบื่อความคิดขัดแย้งจนอยากหย่า ซูจินเป็นภัณฑารักษ์ เพิ่งถูกหลอกเรื่องศิลปินเก๊เอางานเถื่อนมาแสดง เธอจึงซึ้งเข้าใจคำเตือนของสามีก่อนหน้านี้ และเธอกำลังโอนอ่อนคิดจะยอมคืนดีกับมูฮยอก
เมื่อมูฮยอกย่ามใจติดตามสืบต่อ เพื่อ Exclusive scoop ชิ้นเด็ดต่อไป โดยสะกดรอยตามผู้ต้องสงสัยจากบ้านไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง แน่นอนว่าเที่ยวนี้เขาต้องถ่ายคลิปการตามสะกดรอยไว้ จุดหมายปลายทางของรถสีแดงคันนั้น จบลงที่โรงละครเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่ทำให้เขาต้องตามเข้าไปดูให้ถึงที่สุด
ความจริงสุดช็อคที่พบ คือ ผู้ชายคนนี้เป็นนักแสดงละครเวที กำลังเล่นเรื่อง ‘ตามรอยฆาตกรเหลียงเฉิน’ ที่มาจากนวนิยายดัง บทพูดในละครก็คือ ข้อความบนกระดาษโน้ตที่เขาท่องบทของเหลียงเฉินฆาตกรโรคจิต!! เลือดในห้องคือเลือดสัตว์ที่ใช้เมคอัพตัวให้สมจริงกับบทฆาตกร!! ….. โอละพ่อ!! หนังคนละม้วน แปลว่างานเข้า หน้าแหกซะละ พ่อนักข่าวคนดัง
จากจุดนี้ไป ชีวิตเขาจึงต้องตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้าบอกความจริงออกไป ชีวิตเขาจะร่วงตกต่ำทันที โอกาสคืนดีกับภรรยาและมีครอบครัวที่สมบูรณ์ก็จะหายวับไปทันใด ถ้าเขายอมรับทางเลือกนี้ไม่ได้ ก็เหลือเพียงต้องเลือกขี่หลังเสือ ลงมาไม่ได้ จะเอาแค่เลยตามเลยก็ยังไม่ได้ เพราะตำรวจนำทีมโดยสารวัตรโอ (รับบทโดย แบซองอู) เริ่มเข้ามาเอี่ยวตามติดสืบสอบมูฮยอกไม่เลิก จุดพิรุธผิดสังเกตกำลังถูกมอง มูฮยอกจึงเกิดไอเดียบรรเจิดสร้างหลักฐานปลอม เพียงเพื่อหวังหลุดพ้นการวอแวของตำรวจ แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น การถลำลึกทำให้ยิ่งทำยิ่งยุ่ง ยิ่งทำยิ่งแย่ เรื่องราวบานปลายเกินคาด เจอมรสุมปัญหากระหน่ำ ทั้งจากตำรวจ แหล่งข่าว และฆาตกรตัวจริง!!
เมื่อข่าวเอ็กคลูซีฟของเขา กลายเป็นสิ่งที่ยั่วยุความจิตของฆาตกรตัวจริง ฮันซึงอู (รับบทโดยคิมแดมยอง) ซึ่งฉลาดพอที่จะเข้ามาร่วมเล่นเกมจิตกับมูฮยอก และมีแผนการเอาตัวรอดจากช่องโหว่เรื่องราวที่มูฮยอกสร้างขึ้น ทำเอาชีวิตมูฮยอกและภรรยาสุดที่รักต้องตกอยู่ในอันตราย เขาจะตัดสินใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร จะได้เป็นนักข่าวหัวเห็ดต่อไป หรือ ยอมเป็นนักข่าวหน้าแหก และแผนการร้ายของฆาตกรคืออะไร จะลอยนวลได้หรือไม่ ไปช่วยลุ้นกันค่ะ
โดยรวม หนังดูเพลินๆนะคะ เพราะอารมณ์ลุ้นๆ จิตๆ เป็นแบบไม่ดาร์ค เข้ม หรือขยี้บทใดจนรุนแรงเกินไป ดราม่าก็มาแบบแตะๆ บททวิสต์นิดๆ และอาจเพราะมันมีความจิกกัด ตลกร้ายผสมอยู่ด้วย จึงทำให้หนังดูผ่อนคลายพอควร ในแง่เนื้อหา ก็มีความหลวมๆ ไม่สมเหตุผลอยู่บ้าง เช่นในส่วนการสืบสวนของตำรวจ การกรองข่าว หรือการชงเรื่องให้มาชนๆกัน ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็ถือว่าดูได้ สนุกสนานอยู่ อาจเพราะผู้เขียนชอบพวกจิกกัดตลกร้ายมั้ง
ผู้เขียนชอบบทคนซวยของโจจองซอก เขาแสดงได้ดีมาก อารมณ์ตกที่นั่งลำบาก กระอักกระอ่วน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นี่ชัดมากๆ ถ้าพูดถึงบทแบบนี้ นักแสดงในดวงใจคือ อีซอนคยอน จาก A Hard Day ทำไว้ดีมาก และอีกคนที่ชื่นชม คือ คิมแดมยอง เป็นนักแสดงที่มากฝีมือจริงๆ เล่นมาแล้วสารพัดบทบาทที่ต่างกันสุดๆ ซึ่งก็ทำได้ดีทุกบทเลย และแน่นอนว่าบทฆาตกรโรคจิตเรื่องนี้ แม้ไม่ได้มีฉากสยดสยอง แต่ก็ทำเรากลัวขนลุกได้ ด้วยฝีมือการแสดง หน้าตา น้ำเสียง ของเขา บทพูดที่จิตจนหลอนแทนพระเอกในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญหน้ากัน
ในแง่เนื้อหา กรองมาได้แบบตรงไปตรงมาก็คงเป็นเรื่องของจรรยาบรรณนักข่าวแหละ ทุกวันนี้มันมีเรื่องของธุรกิจโลกนายทุนที่ทำให้ความจริงของข่าวเบี่ยงเบนไป ได้แค่ half truth บ้าง หรือถูกกลบทิ้งหายไปเลยก็มี เรื่องของพลังสื่อที่บุคลากรข่าวทั้งตัวจริงและมือสมัครเล่นพึงตระหนักความรับผิดชอบให้กับสังคม เพราะข่าววันนี้แพร่ได้ไวมากกว้างมาก แต่พลาดง่าย แก้กลับคืนยาก เหมือนปัญหาที่เราๆพบเห็นกันอยู่เนืองๆในโลกข่าวโซเชียลทุกวันนี้แหละ
Trailer :