Sori : Voice of the Heart เป็นหนังแฟนตาซีดราม่าผสมไซไฟ มิตรภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูของคนกับหุ่นยนต์ สนุกสนานเพลิดเพลิน จนทำให้นึกถึงหนังดังฮอลลีวูดเรื่อง E.T. เพื่อนรักจากต่างดาว เมื่อหลายสิบปีก่อน (ว๊า! รู้วัยผู้เขียนเลย!) หนังอาจไม่ได้เลอเลิศได้ถึงขั้นนั้น แต่มันมีอารมณ์ความสนุกและประทับใจแนวเดียวกัน เพราะเป็นพล็อตของมิตรภาพระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ ซึ่งผู้เขียนชอบความดีงามของ Sori : Voice of the Heart ด้านอื่นๆอีก คือ มีความกลมกล่อมหลากรสชาติจากหลายเส้นเรื่องที่เอามาผูกร้อยกันไว้อย่างลงตัว เป็นเอกลักษณ์ของบทสไตล์เกาหลี ต้องได้ทั้งอมยิ้ม ฮาๆ และซึ้งๆ หนังเรื่องนี้มีคะแนน IMDb 7 ก็ถือว่าใช้ได้นะ
แฮกวาน (รับบทโดย อีซองมิน) คุณพ่อที่รักลูกสาวมาก มีความสนิทสนมกันมาตั้งแต่เล็ก แต่เมื่อลูกสาว คือ ยูจู (รับบทโดย แชซูบิน) เข้าสู่วัยรุ่น ช่องว่างก็เกิด ความสัมพันธ์ก็สะดุด และขาดการติดต่อ หายไปในช่วงที่เธอไปเรียนต่อที่โซล ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาถึง 10 ปีแล้ว แฮกวานซึ่งทำใจรับไม่ได้ว่าลูกอาจตายไปแล้ว ทนทุกข์ใจมานานจนจวนจะถอดใจแล้ว
โซรี (รับบทเสียงพากย์โดย ชิมอึนคยอง) เป็นหุ่นยนต์ในดาวเทียมสอดแนมของนาซ่า ที่เกิดหลุดตกลงมาในเกาหลี ณ จุดที่แฮกวานผู้เศร้าซึมถูกคลื่นซัดมาอยู่บนหาดเดียวกัน โซรีถูกสร้างมาเป็น AI (Artificial Intelligence คือ ปัญญาประดิษฐ์ คงต้องแปลต่ออีกว่า เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างด้วยวิทยาการของวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ให้มีความสามารถเลียนแบบมนุษย์ ในด้านต่างๆ บางทีก็สร้างจนฉลาดล้ำกว่ามนุษย์อีก) ความสามารถพิเศษของโซรี คือการรับรู้เรื่องเสียง จดจำเสียงทุกอย่างบนโลกนี้ได้ ไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน วิเคราะห์ค้นหาเสียงหรือประมวลข้อมูลที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเสียงนั้นๆได้อย่างแม่นยำ
เมื่อแฮกวานได้เจอกับหุ่นยนต์กระป๋อง เขาพบความสามารถพิเศษที่น่าทึ่ง มีดีเกินรูปลักษณ์กระป๋องๆของมัน จนทำให้เขาเกิดความคิดนำเจ้าหุ่นนี้ไปช่วยตระเวนตามหาลูกด้วย ความหวังว่าลูกต้องยังมีชีวิตอยู่ ผุดกลับมาอีกครั้ง ซึ่งก็ได้ผล เพราะหุ่นยนต์ช่วยดึงเบาะแสของเสียงขึ้นมาให้ สาวได้มาแต่ละครั้ง จะส่งต่อไปหาเบาะแสใหม่ไปเรื่อยๆ จนเข้าใกล้ปลายทาง ทำให้ชวนติดตามว่าเขาจะหาเจอไหม และลูกสาวไปอยู่ไหน ทำอะไร หรือตายไปแล้ว ระหว่างการสืบหาก็มีตัวละครที่เกี่ยวข้องเข้ามาหลายๆคน เช่น หนุ่มนักร้องต๊อกต๋อย (รับบทโดย รยูจุนยอล) และ เพื่อนหนุ่มของลูกสาว (รับบทโดย ควักซียัง) เป็นสีสันให้ผู้ชมได้กรี๊ดบ้าง และมีความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทของเขาเองคือ กูชอล (รับบทโดย คิมวอนเฮ) ซึ่งเป็นช่างอิเลคโทรนิคส์ขาพิการนั่งวีลแชร์ แต่ใจเต็มร้อยกับเพื่อนมาก
ในขณะเดียวกัน อีกเส้นเรื่องที่เป็นเรื่องราวของหุ่นยนต์นี้ คือ นาซ่าไม่ต้องการให้ความลับการแอบสอดแนมถูกเปิดเผย (อันนี้แฝงจิกกัดหน่อยๆนะ) จึงขอให้ความร่วมมือข้ามประเทศ ให้ทางหน่วยข่าวกรองประสานงานกับนักวิจัยอวกาศของเกาหลีช่วยค้นหาและส่งคืน โดยแจ้งเพียงว่าเป็นชิ้นส่วนดาวเทียมที่หลุดตกลงมา ทำให้ จนท.หน่วยวิจัย จียอน (รับบทโดย อีฮานี/ฮันนี่ ลี) ต้องมาทำงานร่วมกับหน่วยข่าวกรอง จินโฮ (รับบทโดย อีฮีจุน) และทีมนาซ่า ตามจับแฮกวานที่เอาหุ่นยนต์ไป
เลยทำให้ 1 คน 1 หุ่น กลายเป็นตัวเอกคู่หูของเรื่องไป กับภารกิจล่าความจริง และถูกล่าโดยหน่วยข่าวกรองกับนาซ่าไปพร้อมๆกัน จึงดูลุ้นดี ลุ้นให้เจอลูก ลุ้นให้ลูกไม่ตาย ลุ้นให้ทันเวลา ลุ้นให้รอดจากถูกหน่วยข่าวกรองจับ ลุ้นให้โซรีรอดจากนาซ่า ไม่ต้องกลับไปอยู่บนดาวเทียมอีก อ้าว! เริ่มเชียร์หุ่นยนต์เป็นคนไปซะละ ซึ่งบทหนังจะทำให้เราคล้อยตามไปเช่นนั้นจริงๆ อันที่จริง หุ่นยนต์ของเราดูจะเป็นเพศหญิงด้วยนะ เพราะลีลาการขยับตัว เสียงพากย์ของชิมอึนคยอง และเสื้อแจ็คเก็ตสีชมพูที่น้องหุ่นใส่ รวมๆกันจึงเป็นน้องหุ่นสาวอย่างแน่นอน ปฏิกิริยาตอบโต้ของหุ่นยนต์กับแฮกวานช่างน่ารักดูอบอุ่นมาก บางบทก็ซึ้งกินใจ บางบทก็ถึงขั้นชวนขำกันเลย จนแฮกวานเอ็นดูตั้งชื่อให้เจ้าหุ่นว่าว่า ‘โซรี’ ซึ่งแปลว่า ‘เสียง’ ผู้เขียนรับประกันว่าผู้ชมทุกคนจะหลงเสน่ห์ตกหลุมรักและเอ็นดูโซรีอย่างแน่นอน
เป็นหนังที่ถือว่าผูกเรื่องได้อรรถรสครบ ทั้งสนุก ตื่นเต้น ตื้นตัน ฟิลกู้ด และมีสาระดี สะท้อนความรักในครอบครัว วิธีการเลี้ยงลูก ชีวิตวัยรุ่น และมิตรภาพที่มีค่าเกินคาดคิด ควรค่าแก่การชมค่ะ