k-movies

รีวิวภาพยนตร์ Project Silence (2024) | เมื่อฝูงสุนัขพันธุ์เพชฌฆาต ล่าคลั่งกลางสะพานหายนะ

27/08/2024 - warumanu

project silence 1

เมื่อเส้นทางโดดเดี่ยวของสะพานสนามบินเกิดภัยพิบัติประดังประเดและถูกตัดขาด

ฝูงสุนัขเพชฌฆาตที่ซุ่มเงียบอยู่ในหมอกหนา พร้อมขย้ำคลั่งทุกเมื่อ

ทุกชีวิตต้องดิ้นรนเพื่อรอดให้ได้บนสะพานปิดตายเยี่ยงนรกแห่งนี้

project silence poster

Project Silence หรือชื่อไทยว่า เขี้ยวชีวะคลั่ง สะพานนรก เป็นผลงานเขียนบทของ ผกก. คิมยงฮวา เจ้าของบทหนัง  Along with the Gods : The Two Worlds (2017) ร่วมกับ พัคจูซอก เจ้าของบทหนัง Train to Busan (2016), Hwayi : A Monster Boy (2013) ส่วนงานกำกับแยกไปเป็นหน้าที่ ผกก.คิมแทกอน ซึ่งไม่ได้มีผลงานเยอะหรือเด่นนัก ออกไปทางงานฟอร์มเล็กด้วยซ้ำ ซึ่งเมื่อมองเป็นภาพรวมในสายตาผู้เขียน เห็นว่าเรื่องนี้งานกำกับทำได้ดีเกินชื่อชั้น น่าชมเลย ในขณะที่งานบทผิดคาด ไม่ว้าวเท่าชื่อชั้น และนี่อาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้หนังมีผู้ชมที่เกาหลีไม่ถึง 7 แสนคน ถือว่าค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับทุนสร้างทีทุ่มไปมากกว่า 3 เท่าตัวของรายได้

เรื่องราวเกริ่นนำไว้ว่า ทางฟากตะวันตกมีการฝึกฝนสุนัขเพื่อใช้งานการทหารมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และพัฒนาทางแล็ปให้กลายเป็นสุนัขสายพันธุ์นักสังหาร เพิ่มความเกรี้ยวกราดก้าวร้าวต่อเป้าหมายสังหารที่กำหนดให้ ซึ่งควบคุมโดยการฝังชิป ส่วนสุนัขในเรื่องนี้เป็นมาอย่างไร จะเหมือนหรือต่างในแง่มุมไหน ต้องไปติดตามดู

ในวันเกิดเหตุหายนะบนสะพานสนามบิน เป็นวันที่หมอกลงจัดจนทัศนวิสัยไม่ดี ผู้คนยังสัญจรด้วยจุดมุ่งหมายของแต่ละคน ซึ่งมีตัวละครหลักดังนี้

project silence 12
project silence 2

ชาจองวอน (รับบทโดย อีซอนคยุน) รองผอ.ในกระทรวงความมั่นคง เป็นลูกน้องคนสนิทของรัฐมนตรี จองฮยอนแบค (รับบทโดย คิมแทอู) ซึ่งกำลังจะลงสมัครประธานาธิบดีคนถัดไป ชาจองวอนเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่กำลังขับรถไปส่งลูกสาว ชาคยองมิน (รับบทโดย คิมซูอัน) ไปเรียนและอาศัยอยู่กับญาติที่ต่างประเทศ

project silence 3
project silence 4

โปรกอล์ฟ ชิมยูรา (พัคจูฮยอน) ที่จะไปลงทัวร์นาเมนท์แข่งขันที่ต่างประเทศ แต่พี่สาว ชิมมีรัน (พัคฮีบน) ซึ่งเป็นผู้จัดการ เป็นคนบื้อๆเงอะงะดันลืมต่ออายุพาสปอร์ต เลยไปไม่ได้ เธอรำคาญพี่ที่ไม่ได้เรื่องได้ราว พากันออกจากสนามบินเดินทางกลับบ้าน

project silence 5

คู่สามีภรรยาสูงวัย บยองฮัก (มุนซองกึน) กับ ซอนอ๊ก (เยซูจอง) ซึ่งเป็นโรคสมองเสื่อม ทั้งคู่เพิ่งเดินทางกลับจากเที่ยวเวียดนาม ขึ้นรถชัตเทิลบัสเข้าเมือง

project silence 7
project silence 8

คณะของรถบรรทุกฝูงสุนัขปริศนาของทหารกำลังจะไปศูนย์แล็บอินชอน ทหารคุมขนส่งนำทีมโดย คังแทวี (รับบทโดย ฮาโดควอน) และมีหัวหน้าทีมวิจัย ดร.ยาง (รับบทโดย คิมฮีวอน) แยกเดินทางในรถยนต์อีกคันตามมา

โจบัก (รับบทโดย จูจีฮุน) และโจดี้ (สุนัขตัวเล็กๆ คู่หูที่เป็นเหมือนลูกชายของโจบัก เลยชื่อขึ้นว่าโจเหมือนกัน 555) โจบักเป็นคนขับรถลากที่ตระเวนหางานตามท้องถนน ว่างก็ทำงานให้ปั๊มน้ำมันสถานีสุดท้ายก่อนเข้าสะพานสนามบิน เขาเป็นคนเติมน้ำมันให้รถของชาจองวอน แต่ขอให้จ่ายเป็นเงินสดเท่านั้น ชาจองวอนระแวงว่าเขาอาจคิดโกงเงินเจ้าของปั๊ม เพราะเห็นละว่าโจบักเป็นคนขับรถลาก ไม่ใช่เด็กปั๊มปกติ ชาจองวอนจึงตั้งใจจะจ่ายให้เถ้าแก่เองตอนขากลับ โจบักเข้าไปหางานในเหตุการณ์ภัยวิบัติบนสะพานสนามบินเมื่อเขาได้ยินข่าวว่ามีอุบัติเหตุรถชน และเมื่อเจอชาจองวอนอีกครั้งจึงตั้งหน้าตั้งตาทวงเงินค่าน้ำมัน

project silence 9
project silence 6

รถชนครั้งใหญ่มีต้นเหตุจากรถขับซิ่งคันหนึ่งเสียหลัก ทำให้รถที่ตามมาชนกันวินาศสันตะโรเต็มถนนเนื่องจากหมอกหนาเกิน วิบัติตามมาคือ ฝูงสุนัขปริศนาของแล็บหลุดออกมาจากกรงไล่ขย้ำผู้คน อุบัติเหตุร้ายซ้ำเติมสถานการณ์ไปอีก เมื่อเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจจะมาจับสุนัขอันตรายฝูงนี้ออกไปก่อนการกู้ภัยถนน แต่โดนสุนัขก็ทำเครื่องตก เกิดระเบิดไฟลุกควันพิษคลุ้งกระจายไปทั่ว แถมใบพัดเครื่องยังไปตัดเอาสายแขวนสะพานขาด สะพานจึงขาดท่อนในเวลาต่อมา

project silence 11

ความโกลาหล พยายามเอาชีวิตรอดของผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และรอการช่วยเหลือจากทางการ แต่สัญญาณโทรศัพท์ใช้งานไม่ได้ ความดุดันโหดร้ายของฝูงสุนัขที่เหมือนนักล่าซุ่มขย้ำในหมอกหนา คือวิกฤติที่ผูกเงื่อนปมไว้ให้ระทึกเร้าใจ ความพยายามกู้สถานการณ์ของชาจองวอน และดร.ยาง ในการควบคุมและจัดการฝูงสุนัข คือการลุ้นเอาใจช่วยฮีโร่จำเป็นและฮีโร่จำยอม รวมถึงพลังของผู้คนที่จะร่วมกันฟันฝ่าเหตุร้ายนี้ไปให้ได้ และท่ามกลางวิกฤติก็มีเรื่องราวความสัมพันธ์ของผู้คนที่น่าติดตามความเป็นไปอย่างหลากหลายอารมณ์ รวมถึงการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับสุนัขจากแล็ปในโปรเจ็กต์ไซเลนซ์นี้ ที่พวกมันชื่อ ‘เอ็คโค่ (Echo)’ และโครงการชื่อ ‘ไซเลนซ์ (Silence)’ เพราะอะไร ดูได้จากในเรื่องเลยค่ะ

project silence 10
project 13

สนุกน่าดูไหม…ขอเรียกว่าสนุกแบบได้มาตรฐานหนังแอ็กชันภัยพิบัติก็แล้วกัน ในแง่การเล่าเรื่อง กระชับไม่เยิ่นเย้อ 15 นาทีแรกก็พาเข้าสถานการณ์พีคเลย แล้วเลี้ยงจังหวะพีค-คลายหลายๆช็อตในรูปแบบความกดดันภายใต้สถานที่-เวลาอันจำกัด มาได้เรื่อยๆจนจบ ฉากแอ็กชันจัดเต็มตื่นตาดี งานซีจี วิชวลเอฟเฟกต์ได้คุณภาพ คุมโทนสร้างบรรยากาศได้ฟิลสมจริง ด้วยโปรดัคชันทีทั้งทุ่มทุนและทุ่มเท สร้างสถานที่และฉากสเกลใหญ่จริงจัง

นักแสดงทำหน้าที่ได้ดีตามบททุกคน โดยเฉพาะจูจีฮุนที่ให้สมภาษณ์สนุกๆถึงเบื้องหลังไว้ตอนงานแถลงข่าวว่า เขาแสดงบทแอ็กชันเองส่วนใหญ่ ฉากที่ทำเอาเรื่องก็คือการขดตัวสูงๆในท้ายรถกระเตงไปบนถนน ปวดระบมและเป็นตะคริวอย่างแรง ส่วนฉากอมเหล้าพ่นไฟด้วยตัวเอง โดยหวังให้เป็นธรรมชาติ แต่ผลคือปวดกรามด้วยต้องอ้าปากกว้างและเกร็งกลัวไฟ แถมยังแสบคอสุดๆจนต้องไปหาหมอหลังจากนั้น เลยเป็นที่มาของคำพูดติดตลกของเขาว่ารู้แล้วหละว่าทำไมหนังถึงต้องพึ่งพาซีจี แถมท้ายด้วยมุกน่ารักว่าการจับคู่กับสุนัขนั้นไม่มีปัญหาเลย เพราะเขาเกิดปีจอเหมือนกัน 555

แต่ในแง่ตัวบท เรียกได้ว่าเป็นสูตรสำเร็จเกินไปของแนวแอ็กชันภัยพิบัติ ถ้าใครช่ำชองชมบ่อยก็คงรู้สึกจำเจ ไม่ตื่นเต้นเอาเสียเลย แต่ถ้าใครมือใหม่หรือนานๆชมที ก็คงสนุกได้อยู่ สูตรสำเร็จต่างๆ เช่น รูปแบบการจัดอุปสรรคและการแก้สถานการณ์ หรือสะพานสนามบินที่โดดเดี่ยวขาดสัญญาณก็ให้ฟิลคับขันของพื้นที่ปิดตายไม่ต่างจากตู้ขบวนรถไฟแคบๆใน Train to Busan หรอก หรือพิบัติสาธารณภัยที่ต้องมีประเด็นการเมืองเป็นอุปสรรคให้ลุ้น รวมไปถึงประเด็นของแก่น (ที่ไม่ได้ขยี้แต่เข้าใจได้เอง) ว่าด้วยตัวร้าย (สุนัข) ที่มีผู้ซึ่งร้ายกว่าก็คือมนุษย์!

ตัวละครก็เช่นกัน ออกแบบมาในลักษณะที่เดาได้ ทุกคนเลยดูจะเดิมๆจำเจ ยกเว้นตัวละครโจบักที่ดูมีมิติ มีความเทาๆที่พกพาความขำมาด้วยหน่อยนึง ซึ่งเข้ากับลีลาการแสดงของจูจีฮุนเป็นอย่างดี อันที่จริงตัวละครชาจองวอนก็เทานิดๆเป็นทุน แต่บทของความเป็น‘พระเอก’หรือ’ฮีโร่’ ก็ทำให้รู้สึก cliché ได้ง่าย หรือบทลูกสาวที่คิมซูอันแสดงไว้ดีมาก แต่ก็ได้ฟิลเดิมมากเหมือนเรื่อง Train to Busan การจับคู่ที่ได้ความสดใหม่หน่อยก็คือโจบัก-โจดี้ (เคยเห็นงานที่จูจีฮุนอยู่กับน้องหมามาแล้วจากเรื่องอื่น แต่เรื่องนี้ดูน่ารักกว่า แม้บางฉากเป็นตุ๊กตาน้องหมาแสดงก็เหอะ)

แต่ที่สุดแล้ว ผู้เขียนก็ขอยกค่าความน่าดูไว้ที่ ‘อีซอนคยุน’ นี่คือหนึ่งในหนังสองเรื่องสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้ให้เราได้ชมอย่างอาลัยอาวรณ์  ฝีไม้ลายมือระดับเพชรเม็ดงามของวงการที่ยังไงก็จะไม่มีวันเลือนหายจากความทรงจำเราอย่างแน่นอน ใครรักอีซอนคยุน ต้องไปชมกันให้ได้นะคะ (รอยยิ้มอบอุ่นในฉากสุดท้ายทำผู้เขียนน้ำตาซึมกลางโรงเลย)

project silence 14

Trailer :

ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน


Korupdate






เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อการตลาด

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก