My Bossy Girl เป็นงานรอมคอม นำเสนอความรักของหนุ่มสาววัยมหาวิทยาลัย วัยแห่งการมีฝัน มีความสดใส น่ารัก เต็มไปด้วยพลัง ภายใต้อุปสรรคเรื่องความบกพร่องด้านกายภาพของนางเอก และอุปสรรคความเป็นตัวพ่อสายวิทย์ ที่เข้าถึงยากเข้าใจยากของพระเอก ชวนให้ลุ้นความรักของทั้งคู่ว่าจะสปาร์คกันติดอีท่าไหน และจะประคองไปได้รอดฝั่งไหม
เรื่องนี้เป็นงานภาพยนตร์ครั้งแรกของ อีเอลลียา สาวหน้าสวยที่มักได้รับบทนางรองสายร้าย คราวนี้ได้พลิกบทมาเป็นนางเอกครั้งแรก แฟนๆที่ชื่นชอบความงามและฝีมือของเธอ คงได้สมหวังกับบทสาวสวยคนแกร่ง เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่จะสยบผู้ชายได้อยู่หมัด แม้จะแค่นั่งเฉยๆบนวีลแชร์!
ส่วน จีอิลจู หนุ่มมากฝีมือ ที่ชีวิตจริงเป็นทั้งนักแสดงและผู้กำกับดาวรุ่ง ส่วนใหญ่เขามักจะได้บทซ่อนร้ายแฝงความจิต ซึ่งแสดงได้เนียนดีมาก เรื่องนี้เขาก็พลิกบทบาทเช่นกัน มาเป็นหนุ่มน้อย เนิร์ดใสๆน่ารัก ก็น่ามองไปอีกแบบ
ฮันฮวีซอ (รับบทโดย จีอิลจู) เป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ เก่งงานเครื่องกล บ้านเขาเป็นร้านขายและซ่อมจักรยาน พ่อแม่ก็อยากให้เขามีแฟน เพราะเห็นความเนิร์ดเอาแต่เรียนของลูกแล้วเป็นห่วง นอกจากนี้ยังอ่อนหัดทั้งเรื่องแอลกอฮอล์และผู้หญิง
เขามีเพื่อนสนิทร่วมคณะที่สุดเกรียน คือ กิลยงแท (รับบทโดย ฮอจองมิน) ผู้มีฝันอยากเป็นด็อกเตอร์ และ ชางกิล (รับบทโดย คิมกีดู) ผู้มุ่งมั่นกับโปรเจคท์หุ่นยนต์ AI ชาวแก๊งค์นี้มั่นหน้ามากว่าเด็กวิศวะแบบพวกเขาเทพทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องยากเรื่องเดียว คือการมีแฟน ทั้งๆที่ต่างก็อยากหลุดพ้นชีวิตแห้งเหี่ยวไร้แฟนมา 9,888 วัน!
คังฮเยจิน (รับบทโดย อีเอลลียา) เป็นนักกีฬายิงธนูฝีมือดี แต่เธอเป็นคนพิการที่ต้องนั่งวีลแชร์ พ่อแม่แยกทางกัน จึงอาศัยอยู่กับพ่อและน้องสาวซึ่งมีฝันอยากไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนต่างประเทศ แต่ติดที่ต้องช่วยพ่อดูแลพี่สาวพิการ เลยยังไปไหนไม่ได้ ทั้งๆที่จริงๆแล้วฮเยจินเองก็ยืนยันว่าจะใช้ชีวิตด้วยตัวเอง จะเอาตัวรอดโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร เธอเป็นคนแกร่งและไม่ยอมคน ค่อนข้างจะเป็นสาวดุด้วยซ้ำ และไม่ได้คิดจะสนใจความรักมาก่อนด้วย เพราะเธอทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมเพื่อแข่งขัน
ที่มาของความชอบยิงธนู คือลูกธนูมันมีอิสระ สามารถทะยานลิ่วไปได้ไกลได้อย่างมีเป้าหมาย ลึกๆเธอก็อยากให้ตัวเองเป็นได้เช่นนั้น
อุบัติเหตุที่เกิดกับฮเยจินในงานออกร้านกิจกรรมอาสาของมหาวิทยาลัย ทำให้รถวีลแชร์พาเธอไถลลิ่วเข้าไปล้มพับในบู้ทซ่อมจักรยานของฮวีซอ เหมือนชะตารักนำพวกเขามาเจอกัน แต่ฮวีซอก็สามารถกู้ชีพวีลแชร์ที่พังให้เธอได้
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงได้เริ่มต้นขึ้นจากการกินข้าวตอบแทน จนเกิดวีรกรรมทำวีลแชร์หาย ให้ฮวีซอต้องติดค้างรับผิดชอบ เป็นที่มาของกำเนิดวีลแชร์ DIY ฝีมือฮวีซอ สมศักดิ์ศรีเด็กวิศวะและทายาทเจ้าของร้านจักรยาน 555 และกลายเป็นสื่อรักชิ้นใหม่ของเขาและเธอ
แม้ความสัมพันธ์ทั้งคู่ดูจะไปได้สวย มีโมเมนท์ชวนขำ น่าเอ็นดู และฟินเข้ากันดี แต่โลกนี้ไม่ได้สวยงามด้านเดียว อุปสรรคย่อมมีให้ฟันฝ่า ชีวิตฮเยจินไม่ได้มีอิสระหรือพุ่งเป๊ะเข้าเป้าดังใจได้อย่างลูกธนู และฮวีซอ หนุ่มผู้ไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่เขาเลือกที่จะหนีปัญหา ไม่กล้าอยู่เคียงข้างฮเยจิน คงต้องไปช่วยให้กำลังใจเชียร์กันค่ะ
ด้วยความเป็นงานฟอร์มเล็ก ต้นทุนต่ำ และเน้นดูเพลินๆสบายๆตามสูตรมาตรฐาน genre หนังรอมคอมทั่วไป ก็ได้ความเฮฮา น่ารัก ทั้งคู่พระนางและคู่เพื่อนๆ แซมมุมซึ้งเศร้า ผิดหวัง ท้อถอยบ้าง ปมปัญหาที่ผูกไว้ก็ไม่ซับซ้อนบีบคั้นจนเกินไป คลี่คลายเป็นกำลังใจชีวิตได้อย่างง่ายๆ
โดยรวม บทก็ไม่ได้มีความสดใหม่ ซับซ้อน หรือเฉียบคมใดนัก แต่ก็ยังพอมีมุมมองที่น่าสนใจ ในเรื่องการสะท้อนชีวิตคนพิการ ที่ถ่ายทอดผ่านบทของฮเยจิน ให้เห็นถึงวิถีดำเนินชีวิตและทัศนคติ รวมถึงคำกล่าวของ Helen keller นักเขียนอเมริกันรางวัลพูลิตเซอร์ ที่ว่า ‘Disabilities are inconvenient, but they aren’t misfortunes หมายถึง ความพิการก็เป็นเพียงความไม่คล่องตัว มิใช่เรื่องอาภัพเคราะห์ร้าย’ ส่วนที่ชวนซึ้งมากๆก็คือมุมของพ่อแม่ที่มีลูกพิการก็มีความหวังว่าจะตายหลังลูกหนึ่งวัน เพียงเพื่อจะได้ปกป้องดูแลลูกจนถึงที่สุด!
Trailer :