ภาพยนตร์คอมเมดี้ ดราม่า ว่าด้วยความสัมพันธ์ในครอบครัว หนึ่งในพล็อตยอดนิยมตลอดกาลของเกาหลี จึงเป็นหนังที่ทำรายได้ค่อนข้างสูง ถ้านับถึง ณ ปัจจุบันที่เขียนรีวิวนี้ คือ ต้นเดือนเมษายน ก็เป็นรองแค่ Along With the Gods : The Two Worlds และ 1987 : When the Day Comes และถ้ามาดูคะแนน IMDb ก็จัดว่าใช้ได้ทีเดียว คือ 7.3
Keys to the Heart เล่าเรื่องความสัมพันธ์หลักของพี่ชายและน้องชายต่างพ่อ ที่เพิ่งได้มาเจอกัน และต้องอยู่ด้วยกัน แถมพี่ชายยังต้องดูแลน้องชายแทนแม่ ทั้งๆที่ไม่ได้เต็มใจนัก เพราะชีวิตมีบาดแผลทางใจฝังลึกจากความสัมพันธ์ของครอบครัวในวัยเด็ก แต่ในที่สุดน้องชายผู้เป็นเด็กพิเศษก็ทำให้หัวใจของพี่ชายเปิดกว้างได้
พี่หมัดหนัก คือ โจฮา (รับบทโดย อีบยองฮุน) หนุ่มวัยสี่สิบ อดีตนักมวยแชมป์เอเชียเวลเตอร์เวทของสภามวยโลก (Welterweight เป็นพิกัดน้ำหนักขนาดกลางที่เป็นที่นิยม) แต่ปัจจุบันเขาเป็นเพียงหนุ่มต๊อกต๋อยไร้อนาคต มีอาชีพรับจ้างแจกใบปลิว หาเช้ากินค่ำไปวันๆ เขามีอดีตวัยเด็กที่เจ็บปวด พ่อเมาเหล้าและทุบตีทำร้ายทั้งแม่และเขาเป็นประจำจนแม่ต้องหนีออกจากบ้านไป การถูกทิ้งไว้ให้อยู่เผชิญชะตากรรมเดียวดายจึงเป็นปมชีวิตที่ถ่วงใจ ไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จได้
น้องอัจฉริยะสุดป่วน คือ จินแท (รับบทโดย พัคจองมิน) เด็กหนุ่มวัยยี่สิบที่เป็นออทิสติกระดับ 2 (ออทิสติกในระดับนี้ จะมีไอคิวสูงกว่าปกติ มีความสามารถพิเศษเฉพาะทางบางอย่าง มักเพลิดเพลินกับการทำอะไรซ้ำๆ แต่ทักษะสังคมจะไม่ค่อยดี เพราะรับรู้ เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นไม่ค่อยได้) ทางกายภาพจินแทก็ดูเป็นเด็กหนุ่มที่ไม่ปกตินัก มีความตื่นตัวสนใจหมกมุ่นอยู่กับเกมบนมือถือตลอดเวลา และมีนิ้วมือที่เกร็งผิดปกติ แต่น่าอัศจรรย์ที่นิ้วเหล่านั้นกับพรสวรรค์ทักษะดนตรีที่มี ทำให้เขาเล่นเปียโนได้ดีเลิศ แม้จะไม่เคยเรียนมาก่อน แต่ก็สามารถเล่นตามได้จากการฟัง ไม่ว่าจะยากในระดับดนตรีคลาสสิคชั้นสูงก็ตาม นอกจากเปียโนแล้ว นิ้วของเขาก็ยังสามารถกดเกมส์ได้อย่างว่องไวแม่นยำหาใครสู้ชนะไม่ได้เลย เพราะชีวิตที่ทำซ้ำๆอยู่เพียง 2 อย่างนี้ตลอดเวลา ทำให้เขาเป็นสุดยอดโปรของฟิลด์นี้ ด้านทักษะการสื่อสารของเขา มักตอบรับทุกบทสนทนาประหนึ่งกดปุ่มว่า ‘ครับ’ เพียงอย่างเดียวเหมือนไม่ได้คิดอะไร ความกึ่งเอ๋อกึ่งฉลาดของเขามักนำมาซึ่งเรื่องเกินคาด ป่วนพี่ชายไปโดยไม่รู้ตัว
อินซุก (รับบทโดย ยูนยอจอง) เป็นแม่ของโจฮา และจินแท แต่เป็นคนละพ่อ เธอเป็นแม่ที่อุทิศตัวและใจเพื่อลูกชายออทิสติกของเธอ ส่วนหนึ่งก็อาจมาจากความรู้สึกผิดชดเชยการทอดทิ้งโจฮาด้วยก็ได้
กายูล (รับบทโดย ฮันจีมิน) นักเปียโนฝีมือดีชื่อดัง ที่มีเหตุให้เลิกเล่นเปียโนไป เธอเป็นไอดอลของจินแท เขามักจะเล่นเพลงตามเธอจากในยูทูปเสมอๆ (ในเรื่องนี้ฮันจีมินออกมาทุกฉาก สวยสง่าออร่าสุดๆ ชุดก็งามมากๆ)
วันหนึ่งเมื่อโจฮามาเจอแม่โดยบังเอิญในจังหวะที่เขากำลังตกอับสุดๆเข้าขั้นไม่มีที่อยู่ แม่จึงชวนไปอาศัยบ้านแม่ แต่โจฮาก็ยังมีความฝังใจเรื่องแม่ทิ้ง จึงคิดว่าจะขออาศัยเพียงชั่วคราวเท่านั้น
การใช้ชีวิตในบ้านนี้ มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น มีทั้งการกระทบกระทั่งที่ตอกย้ำบาดแผลบ้าง การค่อยๆซึมซับเข้าถึงความสัมพันธ์แบบครอบครัว ไปสู่การปลดล็อคปมในใจ และเมื่อแม่มีความจำเป็นต้องฝากจินแทให้โจฮาดูแล และฝากภารกิจยิ่งใหญ่ที่จะช่วยให้จินแทได้ลงแข่งขันเปียโน พี่ชายคนนี้จะทำได้สำเร็จหรือไม่ น้องชายคนนี้จะทำได้สำเร็จหรือไม่ ต้องตามไปเชียร์กันค่ะ
โดยรวม หนังเรื่องนี้ให้ความบันเทิงได้ดีทีเดียว และยังมีบทเนื้อหาที่ส่งเสริมความสัมพันธ์พี่-น้อง แม่-ลูก ส่งเสริมความเข้าใจที่ดีและการปฏิบัติต่อคนเป็นออทิสติก ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่ผู้เขียนขอชื่นชมอย่างยิ่ง ซึ่งนักเขียนและผู้กำกับได้ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบที่สนุกสนาน สอดแทรกมุกขำๆ หยอดมาเป็นระยะๆ ทำให้ดูได้เพลินๆตลอดสองชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างโมเมนท์น่ารักๆ น่าเอ็นดู ของโจฮาและจินแท แทบทุกฉากดูแล้วก็อิ่มเอิบหัวใจ และแน่นอนว่าสูตรสำเร็จหนังเกาหลีแนวนี้ต้องมาแบบ ‘หัวเราะนำ น้ำตาตาม’ ปล่อยขำกันไปสักพัก ก็เข้าสู่โหมดรีดน้ำตา เศร้า สะเทือนใจ ก่อนพาไปปิดเกมด้วยความซาบซึ้งกินใจ ให้หัวใจกลับมาเบิกบานเป็นบทสรุปของหนังฟิลกู้ด
ดูจบก็เข้าใจละว่า key ของเรื่อง คงหมายถึง คีย์บอร์ดของเปียโน (ซึ่งผู้กำกับก็พยายามเล่นซีนคีย์บอร์ดอยู่ตลอด เช่น ทางม้าลาย หรือ ลายแถบเส้นบนพื้นถนน ที่จินแทมักชอบโดดเล่นไปมา เหมือนที่ชอบเล่นเปียโน) และให้ความหมายซ้อนกลายเป็น key ที่เป็นกุญแจเปิดหัวใจของพี่ชาย ให้เข้าถึงความสุขของครอบครัว น่ารักจริงเชียวค่ะ
ข้อคิดดีๆที่ฉวยหยิบมาฝากเป็นกำลังใจ คือ ‘Impossible isn’t a fact, it’s an attitude’ motto ประจำใจ ของโจฮา ที่จินแทก็เชื่อและเลียนแบบมอตโต้นี้ตามพี่ชายด้วย ‘คำว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่เป็นเรื่องของทัศนคติ’ หมายความถึงว่า ทุกคนสามารถทำได้ คนที่ทำไม่ได้เป็นเพราะคิดไปเองว่าทำไม่ได้
Trailer :