Hit and Run Squad เป็นภาพยนตร์แอคชั่น ตำรวจไล่จับผู้ร้าย ผลงานของ ผู้กำกับฮันจุนฮี เจ้าของผลงานภาพยนตร์ดีๆหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น BABO (2008), Hwayi : A Monster Boy (2013), Coin Locker Game (2015) ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นมีตั้งแต่การที่สามนักแสดงระดับแม่เหล็ก อย่าง โจจองซอก กงฮโยจิน และ รยูจุนยอล มารับบทนำในเรื่องนี้
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อผู้หมวดสาว อึนชียอน (รับบทโดย กงฮโยจิน) หาญกล้าไปติดตามสืบจับคดีข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับอธิบดี มีนอกมีในเอื้อประโยชน์กับนักธุรกิจ การสืบเสาะสะสมข้อมูลที่ทำมาแรมปี พบว่าอธิบดีพัคฝังรากไปถึงขั้นมีชื่อบริหารในธุรกิจเงินกู้ของ จองแจชอล (รับบทโดย โจจองซอก) ผู้ทรงอิทธิพล ซึ่งเป็นเจ้าของเจซีมอเตอร์ ผู้ผลิตรถแข่งเจ้าใหญ่และสนามแข่งรถใหญ่โต เจ้าของธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ประกันภัย และเขาก็เป็นอดีตแชมป์นักแข่งรถฟอร์มูล่าร์วันคนแรกของเกาหลี
ล่าสุด มีการมอบเงินสินบนให้อธิบดีพัคที่สนามแข่งรถของเจซีมอเตอร์ และถูกบันทึกภาพเข้ากล้องหน้าของรถต้นแบบของจองแจชอลที่จอดอยู่ ซึ่งตำรวจก็ยังไม่สามารถเอาหลักฐานนี้มาได้ แต่ก็ได้เรียกตัว ชเวคยองจุน (รับบทโดย พัคฮยองซู) ที่ทำหน้าที่ตำแหน่ง CTO (chief transformation officer คนประสานจัดการเชื่อมโยงภายในภายนอกให้องค์กรบรรลุกลยุทธเป้าหมาย ในเรื่องก็คงประมาณสมุนมือขวาของจองแจชอลแหละ) มาสอบปากคำ และระหว่างนั้นเขาก็พยายามฆ่าตัวตาย
งานนี้อัยการยังไม่กล้าเล่นด้วยเลย อธิบดีพัคเองก็โกรธ เล่นงาน รื้อแผนก ลดขั้นเจ้าหน้าที่ หัวหน้าทีมของหมวดอึนชียอน คือ ยูจีฮยอน (รับบทโดย ยอมจองอา) ก็ทำได้เพียงขอเพื่อนที่แผนกบุคคลช่วยส่งหมวดอึนซียอนไปประจำหน้าที่ใหม่ในแผนกคดีรถชนแล้วหนี เป็นการลดขั้นด้วยงานด้อยศักดิ์ศรีกว่าเดิม แต่ก็เป็นหนึ่งกลยุทธที่จะยังสืบเสาะหาหลักฐานเมมโมรี่จากกล้องหน้ารถจองแจชอลต่อไปได้ เพราะว่ามันยังเป็นหลักฐานเดียวที่จะจับผู้กระทำผิดได้อยู่หมัด
ที่แผนกคดีรถชน ซึ่งมีที่ทำการซอมซ่ออยู่ชั้นใต้ดินของสถานีตำรวจ มีหัวหน้า อูซอนยอง (รับบทโดย จอนฮเยบิน) ตำรวจท้องแก่ ด้วยลุคที่เหมือนแม่บ้านหรือพนักงานแอดมินซะมากกว่า ทำให้หมวดอึนชียอนต้องเริ่มงานแรกเป็นการปะกาวใบเสร็จ 555 (คือ อาจเพราะท้องเลยต้องมาแผนกนี้ หรือมาแผนกแล้วว่าง เลยท้อง 555 แล้วแต่จะคิดนะ) แต่เจ๊เธอยังกล้าอวดว่า เธอเป็น ace (ตัวเจ๋ง) ของคลาสตำรวจสมัยเรียนร่วมห้องกับหัวหน้ายุนจีฮยอน (ต้องขำอีก 555) และเจ๊ก็ภูมิใจเสนอสมาชิกระดับ ace อีกคนของแผนก คือหนุ่มน้อย ซอมินแจ (รับบทโดย รยูจุนยอล) ที่ควบงานแมสคอตโปรโมตงานตำรวจที่สถานีด้วย
ในการออกภาคสนามครั้งแรกของอึนชียอนพร้อมซอมินแจ เพื่อตรวจที่เกิดเหตุคดีรถชนแล้วหนี ซอมินแจผู้เต็มไปด้วยความสุดแอคทีฟ บุคลิกแบบเป็นมิตรลุคซื่อๆ กวนตีนลุคซื่อๆ แต่ก็ทำงานจริงจัง ภาคปฏิบัติแบบบ้านๆในวิถีของซอมินแจก็ทำเอาหมวดอึนชียอนมีอึ้ง เขาตรวจที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง สัมผัส จับ ดม เลีย บวกกับสัญชาตญาณ เสร็จสรรพพร้อมฟันธงสรุปเหตุได้เลย คือหลัการทำงานแบบ คนน้อย ต้องให้ไว แต่ข้อสันนิษฐานของเขาก็ถูกต้องนะ ก็เริ่มซื้อใจหมวดอึนชียอนได้บ้าง
ที่แผนกนี้ มีคดีเก่าชนแล้วหนีเมื่อสามเดือนก่อน พยานถอนคำให้การ ไม่มีหลักฐาน ไม่มีรายงานเหยื่อ มีเพียงเศษกระจกที่หาเบาะแสไม่ได้ เพราะคิดว่ามันคงเป็นรถพิเศษ หรือพวกรถต้นแบบ ก็ต้องนึกถึงเจซีมอเตอร์เลยละสิ
อัยการ กีแทโฮ (รับบทโดย ซนซอกกู) เป็นแฟนหนุ่มของหมวดอึนชียอน และเป็นอดีตเพื่อนเรียนของจองแจชอล เขาจึงช่วยพาหมวดอึนชียอนเข้างานปาร์ตี้ที่เจซีมอเตอร์ เพื่อแอบติดเครื่องดักฟังสืบข้อมูลจองแจชอล แต่โดนจับได้ซะก่อน
ในขณะที่ซอมินแจใช้วิธีลุยดื้อๆของตัวเองเข้าไปในงาน หลอกล่อคำถามซื่อๆนิดหน่อยก็ได้เบาะแสมาว่า รถที่ชนในคดี 3 เดือนที่แล้ว คือ รถของจองแจชอลนี่แหละ พยานถูกปิดปากด้วยค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันในเครือทั้งๆที่ไม่ได้ทำประกันใดๆ นอกจากนี้ซอมินแจยังได้ภาพถ่ายรถกลับมาพิสูจน์กับชิ้นส่วนที่เก็บได้ด้วย
เบื้องหลังความทรงอิทธิพลของจองแจชอล เพราะเขาใช้อำนาจเงินคุมเกมเหล่าลูกหลานข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และนักการเมือง แม้คนหนุ่มเหล่านี้จะมีชื่อร่วมบอร์ดบริหาร แต่ก็ไร้สิทธิ์เสียง มีแต่ต้องให้อำนาจของพ่อแม่มาแบคอัพเจซีมอเตอร์
จองแจชอลมีความโหดจิต ไบโพล่าร์ ชอบใช้ความรุนแรงข่มขู่จริงจัง ยามควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ จะไประบายออกด้วยการซิ่งรถบ้าคลั่ง เขามีบุคลิกพูดติดอ่าง ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากวัยเด็กที่เป็นโรคอีสุกอีใส แต่ไปหาหมอไม่ได้ เพราะพ่อซึ่งเป็นคนขับรถพยายามจะยืมรถเจ้านาย แต่เจ้านายแดกดันให้ไปขึ้นรถเมล์แทน และวันนี้ลูกชายของเจ้านายก็ต้องมาสยบอยู่ใต้อำนาจเขา
ส่วนเบื้องหลังชีวิตซอมินแจ เป็นเด็กกำพร้า มีคดีเกเรมากมาย ทั้งเรื่องยา และการขับรถซิ่ง จนวันหนึ่งที่เขาทำให้ตำรวจที่ตามจับเขาเกิดอุบัติเหตุขาหัก แต่ด้วยทัศนคติและจิตใจดีงามของตำรวจ ทำให้ซอมินแจเปลี่ยนตัวเองหลังจากออกจากสถานพินิจ นับถืออดีตตำรวจ จองแจ (รับบทโดย อีซองมิน) เสมือนพ่อ อาศัยอยู่ด้วยกัน และพ่อคนนี้แหละที่มีฝีมือในการตรวจสอบเรื่องชิ้นส่วนรถยนต์ จึงได้ยืนยันว่าผู้กระทำผิดคดีนั้นคือจองแจชอลแน่นอน
นี่คือ กิมมิคหลักของเรื่อง ที่จะพาไปชมการไล่บี้ตามจับจองแจชอล ด้วยคดีเล็กๆ ชนแล้วหนี เพื่อหาทางต่อยอดให้ได้เมมโมรี่การ์ด นำไปสู่คดีหลักเพื่อโค่นอำนาจการเมืองที่หนุนหลัง แต่ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดหรอก เรื่องราวจะมีการดิ้นหลุด พลิกเกมไปมา ให้งานยากขึ้นไปอีก มีเหตุดรามาซ้อนเข้ามากดดัน สร้างความแค้นเคือง เพื่อเปลี่ยนให้บทเข้มข้นขึ้น เกินระดับคำว่าตำรวจ vs ผู้ร้าย และแน่นอนเมื่อเป็น Hit & Run ก็ย่อมต้องมีฉากแอคชันไล่ล่ากันบนถนนและสนามรถอย่างเข้มข้นเมามันส์ ยิ่งซอมินแจก็เป็นอดีตตีนผีเหมือนกัน ทั้งหมดคงทิ้งให้ไปชมต่ออย่างเพลิดเพลินกันเองนะ
ยอมรับว่าตอนเห็นข่าวสร้างหนังเรื่องนี้ ออกจะตื่นเต้นดีใจกับทีมนักแสดงคนโปรดเด็ดๆทั้งนั้น และเชื่อว่าหนังแนวนี้น่าจะสนุกแบบบล็อกบัสเตอร์ แต่เอาจริงตัวบทหนังที่ดูรวมๆก็พอจะเพลินดี แต่พอลงรายละเอียด คำถามในใจจะตามมาเยอะแยะ เพราะเหมือนบทจะหลวมๆไปไม่สุด ข้ามที่มาที่ไปหลายๆประเด็น จนขาดความหนักแน่นให้อินกับเรื่อง บางอันก็ไม่สมเหตุสมผล ผสมโรงไปมา เลยทำให้หลายๆอารมณ์มาแบบผิวๆแตะๆแล้วผ่านไป ฉากแอคชันไล่ล่าก็ไม่ได้มันส์หรือได้ซีนแหวกแนวแปลกตาอะไร สำหรับผู้ที่ช่ำชองหนังแอคชั่นไล่ล่ามันส์ๆมาเยอะ จึงดูเป็นการใช้เวลาเยอะ ยืดเยื้อซะมากกว่า ทำให้หนังยาวถึงสองชั่วโมงกว่าจนอาจดูเบื่อๆได้บ้างนะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าดูแบบไม่คิดอะไรมาก และเน้นการดูนักแสดงหลักที่ชื่นชอบ ก็ยังถือว่าโอเคอยู่นะ โจจองซอก เล่นบทโหดจิต ไบโพล่าร์ได้ดีทีเดียว รยูจุนยอล เล่นได้ธรรมชาติ คล้ายกับบุคลิกจริง มีความขี้เล่นในความจริงจัง มีความกวนตีนในความซื่อใส มีความฉลาดเจ้าเล่ห์ในความตรงไปตรงมา สรุปว่ามีเสน่ห์ดีนะ น่าจะโดดเด่นไม่แพ้โจจองซอกเลยหละ แต่บท กงฮโยจิน กลับไม่ค่อยได้ปล่อยของอะไรเท่าไหร่ และอีกหลายคนก็ได้เกลี่ยๆบทกันไปคนละนิดละหน่อย ไม่ว่าจะ อีซองมิน ยอมจองอา จอนฮเยบิน หรือ ซนซอกกู บทไม่จัดจ้านเช่นกัน
สำหรับใครที่อยากชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังไม่มีซับไทยถูกลิขสิทธิ์ แต่ผู้เขียนเชื่อว่าไม่นานเกินรอคงจะต้องมีเจ้าใดเจ้าหนึ่งเอามาลงให้ได้ชมกันเร็วๆนี้ อย่าลืมปักหมุดกันไว้นะคะ^^
Trailer :