นักปราบผีผู้ไม่เชื่อการมีอยู่ของผี
ผู้ทิ้งตำแหน่งสืบทอดตระกูลจอมเวทย์สุดขลัง
มาเป็น ‘ด็อกเตอร์ชอน’ นักอ่านจิตพิชิต ‘ผีในใจ’
การเผชิญภารกิจกำจัดผีร้ายอำมหิตตัวจริง
จะพิสูจน์ความเป็นนักปราบผีมืออาชีพตัวจริงของเขา
Dr. Cheon and the Lost Talisman เป็นงานที่ดัดแปลงมาจากเว็บตูนดังของไต้หวันที่เผยแพร่ใน Naver ใน Genre ของงานแฟนตาซีพลังเวทมนตร์ ที่ผสมผสานความเขย่าขวัญ ความตลกขบขัน และงานแอ็คชั่นเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน เป็นงานเดบิวท์ของ ผู้กำกับคิมซองชิก ซึ่งมีประสบการณ์จากการเคยเป็นผู้ช่วยของทั้ง ผู้กำกับบงจุนโฮ เจ้าของผลงาน Parasite (2019) และ ผู้กำกับพัคชานอุค เจ้าของผลงาน Decision to Leave (2022) มาก่อน ผลงานนี้ของเขาจึงมีคุณภาพระดับที่น่าชื่นชม การันตีความสำเร็จจากผลตอบรับของผู้ชมที่พาให้ติดอันดับ 5 ของ Box Office ปี 2023 เลยค่ะ
เรื่องราวเล่าถึงหมอผีปลอม ๆ ผู้ไม่เคยมองเห็นวิญญาณใด ๆ ไม่เคยเชื่อว่าผีมีจริง แต่คลี่คลายปัญหาให้ได้ด้วยความสามารถมองทะลุใจเยี่ยงผี การเผชิญหน้ากับเคสหนึ่งที่ต้องปราบผีทรงพลังสุด ๆ ทำให้เขาได้ค้นพบ ‘สิ่งที่หายไป’
ดร.ชอนดงชิก (รับบทโดย คังดงวอน) เจ้าของบริษัท Sky High-Tech Psychological Exorcism (ชื่อบอกชัดความเป็นหมอผียุคไฮเทค) บริษัทเล็ก ๆ ที่เขาและลูกน้องคู่หู อินแบ (รับบทโดย อีดงฮวี) ร่วมงานกันมาสามปีแล้ว โดยดร.ชอนทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญปราบผี ส่วนอินแบในฐานะเป็นอาจารย์คัง ช่างเทคนิครับผิดชอบการเสกสร้างฉากโชว์การปราบผีของดร.ชอนให้ดูขลังสมจริง และบริหารคอนเทนต์ช่องยูทูป Sky Cheon TV เป็นสื่อพีอาร์ผลงานเพื่อเรียกลูกค้า ช่างเข้ากับยุคสมัยของโซเชียลมีเดีย ทำให้ดร.ชอนค่อนข้างดัง รับจ๊อบได้เคสละ 10 ล้านวอนเลยเชียว
ในเมื่อเป็นหมอผีปลอม ๆ ไม่ได้เห็นผีจริง แล้วเขาประสบความสำเร็จได้อย่างไร? ก็เพราะว่าเขาใช้ศาสตร์ทางจิตวิทยา อ่านใจคน สำรวจสภาพแวดล้อม สังเกตพฤติกรรม ประมวลข้อมูลมาคลี่คลายปัญหาที่ลูกค้าประสบอยู่ อย่างตรงจุด โดนใจ ควบคู่ไปกับภาคพิธีกรรมซึ่งจัดฉากโชว์ความขลังของพลังปราบผี ก็เทคนิคกลไกและคิวเป๊ะ ๆ ฝีมืออาจารย์คังแหละ
วันหนึ่ง โอยูคยอง (รับบทโดย อีซอม) มาว่าจ้าง 100 ล้านวอนไปปราบผีที่บ้านเธอ ในหมู่บ้านที่บรรยากาศหลอนพิกล ทุกบ้านล้วนมีคนตาย และน้องสาวของเธอ โอยูมิน (รับบทโดย พัคโซอี) คือผู้ถูกผีสิง ทว่า ดร.ชอนกลับต้องแปลกประหลาดใจสุด ๆ ที่พบว่า นี่คือครั้งแรกที่กระดิ่งสร้อยข้อมือของเขาเกิดเสียงได้ ซึ่งแปลว่ามีผีอยู่จริง งานนี้จึงไม่สามารถจัดโชว์อย่างที่เคยทำมาซะแล้ว
สร้อยกระดิ่งนี้เป็นสมบัติในตระกูล จะส่งเสียงรับรู้การมีวิญญาณร้าย ปู่ของเขาคือจอมเวทย์เจ้าสำนัก ที่ปราบผีร้ายได้ด้วยการสร้างยันต์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีพลังปิดผนึกขังผีร้ายไว้ได้ สมัยเด็ก ดร.ชอนก็เคยถูกฝึกการวาดยันต์อาคม ซึ่งเขามีพรสรรค์ดีกว่าน้องชาย แต่กลับไม่มีความตั้งใจจะสืบทอด และด้วยเหตุร้ายหนึ่งที่พรากปู่และน้องชายไป สำนักจึงปิดตัวไปทิ้งไว้เพียงชื่อในตำนาน ตัวเขาเองก็หันหลังให้กับศาสตร์นี้ไปหาศาสตร์สมัยใหม่แทน หลงเหลือเพียงผู้ช่วยของปู่ ผู้เป็นมือกลองพิธีกรรม คือ ประธานฮวัง (รับบทโดย คิมจงซู) ที่หันมาเปิดร้านค้าวัตถุโบราณ และยังติดต่อกับดร.ชอนอยู่
ยูคยอง เป็นผู้หญิงที่มีดวงตาพิเศษมองเห็นผีได้ เธอช่วยให้ดร.ชอนสามารถรับมือกับผีจริงครั้งแรกได้อย่างหวุดหวิด ทำให้ดร.ชอนได้ใช้อาวุธที่เป็นสมบัติตกทอดอีกชิ้นจากปู่ คือ ดาบเจ็ดดาว เป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ที่จะถูกใช้คู่กับยันต์ลงอาคมพิเศษในการสร้างโซ่ตรวนจองจำวิญญาณ
แต่ทว่า ตอนนี้ดาบที่มีอยู่ก็หักเหลือเพียงครึ่งด้าม ผ้ายันต์ผืนนั้นก็หายสาบสูญไปนานแล้ว การพยายามไล่ติดตามปราบผีจริงครั้งนี้ ทำให้ ดร.ชอน ได้เจอกับวิญญาณร้ายศัตรูเก่าของปู่ คือ บอมชอน (รับบทโดย ฮอจุนโฮ) ซึ่งเคยถูกปู่ปิดผนึกขังไว้ในยันต์ แต่ทำไมตอนนี้จึงแผลงฤทธิ์ได้ ก็ต้องตามไปดูกันค่ะ
และจะได้ชมปฏิบัติการจับผีลงหม้อ เอ๊ย ปราบผีแบบมืออาชีพของจริงของดร.ชอน สมกับเป็นทายาทผู้มีจิตวิญญาณโดยแท้ของปู่ และการต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรี เก่งปะทะเก่ง โค่นกันไม่ลงง่าย ๆ ส่งให้ผู้ชมอย่างเรา ๆ รับความเพลิดเพลินกันไปอย่างเต็มอิ่ม
ความสนุกที่เอาอยู่ตลอดเรื่องจนจบ ยกความดีงามอันดับแรกให้งานโปรดักชั่นและซีจีที่สวยงามตื่นตาตื่นใจ เมื่อมาอยู่กับฉากแอ็คชั่นจังหวะมันส์ ๆ ด้วยแล้ว ก็ยิ่งน่าดูขึ้น ฉากกลไกทำงานของยันต์ดูทันสมัย ดีไซน์ได้สวยงาม เร้าใจเท่ ๆ ดี (แม้จะเคยเห็นมาบ้างจากหนังฟากฮอลลีวู้ดแล้วก็ตาม) แสดงการล็อคตัวเหมือนค่ายกลซับซ้อนหลายชั้นหลายชุดของลวดลายอักขระกราฟฟิคบนนั้น เมื่อบทมาอยู่ในมือคังดงวอน พระเอกที่เล่นบู๊ได้เก่งเป็นธรรมชาติน่ามองมากคนหนึ่ง ก็ต้องบอกเลยว่าออกมาเพอร์เฟ็คมาก ๆ
ฉากต่อสู้คือสนุกพีคเลย คังดงวอน คือนักแสดงที่ลงตัวกับบทนี้มาก เสน่ห์ของการผสมผสานลีลาคนคล่อก ๆ กับความทรงภูมิสมัยใหม่น่าเชื่อถือ ความลื่นไหลจากบทอมยิ้มสู่บทจริงจัง เคมีกับ อีดงฮวี ก็ดูดีเข้ากันมาก อีดงฮวีทำหน้าที่สายฮาส่งบรรยากาศคลายเครียดได้น่ารักพอเหมาะพอเจาะ
นอกจากนี้ก็ยังมีทีมนักแสดงรับเชิญที่สะดุดตาชวนว้าวอีก เช่น คิมวอนแฮ มารับบทปู่, พัคจองมิน รับบทพ่อหมอร่างทรง, จีซู รับบทเทพประทับร่าง ส่วนทีมของ พัคมยองฮุน, อีจองอึน และ โจอีฮยอน มารับบทเป็นครอบครัวซึ่งเป็นลูกค้าเปิดเรื่องของ ดร.ชอนด้วย
จากความคิดแรก ๆ เมื่ออ่านเรื่องย่อก่อนชม ยอมรับว่าไม่ค่อยดึงดูดความสนใจนัก แต่ก็ยังอยากดูด้วยความเป็น คังดงวอน กับอีดงฮวี พอได้ชมจบเรื่อง ขอบอกเลยว่าเนื้อหาดี มีความลึกซึ้งเกินหนังปราบผีหรือหนังแอ็คชั่นสู้กับวายร้ายทั่วไป และได้ความสดใหม่ไปอีกแบบด้วย
ความหมายของการตามหายันต์ที่หายไปมีสองนัย นอกจากผืนยันต์ที่ขาดเป็นสองท่อนแล้ว ก็ยังมีนัยของสภาพจิตใจของดร.ชอนที่เคยประสบสถานการณ์บอบช้ำจนปิดกั้นอารมณ์บางส่วนไป การได้ปะติดปะต่อสิ่งที่เว้าแหว่งก็เหมือนเชื่อมต่อความผูกพันที่เคยมีให้กลับคืนมา
ความแยบยลช่างคิดของวิธีปรุงบันเทิง จับไสยศาสตร์มาเขย่าเข้ากับวิทยาศาสตร์ได้กลมกล่อมลงตัว การหยิบเรื่องปราบผีมาตีความให้เป็นการบำบัดจิต ตั้งแต่การสร้างคาแรคเตอร์ดร.ชอน หรือการสร้างสกิลทำมาหากินที่ผิวเผินคือต้มตุ๋น แต่พลิกให้ลึกลงไปเป็นการเยียวยาจิตใจลูกค้าของเขา ไล่ไปถึงวาทะอันคมคายที่ว่า ‘สุดยอดผีร้ายที่สุดที่คนเราเผชิญกัน ก็คือความคิดในจิตของเรานั่นเอง’ นั่นแปลว่า ถ้าเราสามารถกำจัดผีร้ายที่กักขังจิตใจเราให้หมองหม่นมืดมัว เราก็จะมั่นคงแข็งแกร่งขึ้นได้ และนี่คือเหตุผลที่เขาตัดสินใจคล้อยตามลูกค้าว่าที่นี่มีผี ก็เพราะเขารู้ว่าถ้าบอกว่าไม่มี ลูกค้าก็ไม่เชื่ออยู่ดี และเมื่อเขาบอกว่าได้ไล่ผีไปให้หมดแล้ว ทุกคนก็จะสามารถกลับสู่ความสบายใจได้ นี่คือการจัดการที่ต้นตอปัญหาของจิตโดยแท้จริง
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡