Dark Figure of Crime เป็นภาพยนตร์ขายดีอันดับ 6 ของปี 2018 งานดีจนกวาดรางวัลมากมาย ทั้งตัวหนัง บท รวมไปถึงนักแสดง เป็นภาพยนตร์แนวสืบสวน-อาชญากรรม ที่เล่าเรื่องราวของนักโทษคดีฆาตกรรมที่ออกมาสารภาพว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องอีกหลายคดีในอดีต แต่กลับเล่นเกมจิตวิทยากับตำรวจ ไม่ให้เจ้าหน้าที่สืบคดีกันง่ายๆ ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้อ้างอิงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของคดีอาชญากรรมที่เกิดในในพูซาน
คำว่า Dark Figure of Crime เป็นศัพท์เฉพาะในภาษากฎหมาย ซึ่งหมายถึง คดีที่ไม่ถูกรับรู้ เพราะไม่มีศพ ไม่ถูกแจ้งความ ไม่เคยมีบันทึก และไม่มีการสืบคดีใดๆ สำหรับใครที่กำลังมองหาภาพยนตร์ที่ตื่นเต้นและลุ้นไปตลอดเรื่อง บอกเลยว่าเรื่องนี้ห้ามพลาดเลยล่ะค่ะ…
ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดเรื่องด้วยการนัดพบของ คังแทโอ (รับบทโดย จูจีฮุน) หนุ่มขี้ยาซอมซ่อที่ตั้งใจมาปล่อยข้อมูลแลกเงินให้กับตำรวจสายสืบ คิมฮยองมิน (รับบทโดย คิมยอนซอก) โดยเขาอ้างว่าครั้งหนึ่งเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว เขาอยู่ในเหตุการณ์ช่วยฝังถุงอะไรบางอย่างบนเขา ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นถุงศพ เพราะหนัก หนึบ จนต้องจับโยน เลยจับเจอส่วนที่เป็นข้อเท้า แต่ไม่ใช่ว่าร่างนั้นพับงอตัว มันเป็นท่อนของชิ้นส่วน!!! แทโอเล่าพลางซดบะหมี่พลางอย่างหน้าตาเฉยไร้ความรู้สึก แถมยังกั๊กข้อมูลไม่บอกว่าใครเป็นต้นตอ หวังรอเงินเปิดปาก แต่ไม่ทันละ เพราะมีตำรวจกลุ่มใหญ่เข้ามารุมตึ้บจับกุมแทโอไป ในข้อหาฆาตกรรมโหดแฟนสาว
สามเดือนถัดมา นักโทษคังแทโอสายตรงมาจากคุกถึงนักสืบคิมว่า แฟนสาวไม่ใช่ผลงานเดียวของเขา นักสืบคิมเกือบจะตัดสายก่อกวนนี้ทิ้ง แต่สะดุดกึกว่าทั้งหมดคือ 7 ศพ กระจายซุกทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ
คังแทโอ เลือกที่จะมาบอกความลับนี้กับนักสืบคิม เพราะตำรวจอื่นๆไม่ได้ดั่งใจ บอกไปก็ไม่รักษาสัญญา บอกไปก็มือไม่ถึง ขนาดคดีแฟนสาว เขาสารภาพจะๆ ยังไม่มีปัญญาหาหลักฐานจริงมาได้ ดีแต่สร้างหลักฐานปลอมมามัดตัวเขา โอ! เอากับเค้าสิ ฆาตกรจิตขี้โอ่จริง
เครื่องพิสูจน์แรกว่าเขาไม่ได้โม้ คือ โพยชี้เป้าที่ซ่อนเสื้อผ้าและเทปซึ่งเป็นหลักฐานจริง นอกจากนี้ยังแชร์ทฤษฎีการหั่นร่างคนเป็น 7 ท่อนแบบมือโปรที่ใช่ว่าใครจะทำได้ง่ายๆ เช่นเคยค่ะ พูดหน้าตาเฉยในอารมณ์กึ่งเอ๋อกึ่งเทพ เป็นความจิตที่ชวนขนลุกไปอีกแบบ แทโอจะออกอาการเหวี่ยงมากถ้าใครไม่ทึ่งฝีมืออันสมบูรณ์แบบของเขา เหมือนถูกหยาม หรือถ้าตามเขาไม่ทันก็ข่มคนอื่นว่าไม่ฉลาดเอาซะเลย จัดว่าเป็นฆาตกรโรคจิตที่อารมณ์แปรปรวนทีเดียว
และนักสืบคิมก็พบหลักฐานตามนั้นจริง แต่การคายข้อมูลของแทโอ มีข้อแลกเปลี่ยนแน่นอน คือทำให้พิจารณาคดีลดโทษลง และสิ่งอำนวยความสะดวกตามที่ต้องการ เช่นชุดชั้นใน แว่นปรับแสงกันแดด และเงินใช้สอย 2 ล้านวอน
โพยใบ้ที่สองจากแทโอ คือ เบาะแสสั้นๆของ 7 ศพ ซึ่งทำให้นักสืบคิมตัดสินใจขอย้ายจากส่วนกลางไปสังกัดหน่วยสืบสวนฆาตกรรมของสถานียอนเจ พูซาน เพื่อขุดคุ้ยหาข้อมูลและความจริงของคดี dark figure เหล่านี้
รายที่ 1 เหยื่อเป็นชายวัย 50 กว่า ถูกฝังในป่า เกิดเมื่อนานมาแล้วสมัยแทโออายุยังน้อย
รายที่ 2 สมัยแทโอยังขับแท็กซี่ เหยื่อผู้หญิงถูกชำแหละทิ้งกระจัดกระจาย
รายที่ 3 เหยื่อนามว่า พัคหางม้า อยู่แถวซาซังในซงจอง ทิ้งศพที่สะพานกวังอัน
รายที่ 4 สมัยยังขับแท็กซี่เหมือนกัน เหยื่อผู้หญิงที่หน้ามหา’ลัย
รายที่ 5 มาจากแถวคลับในย่านถนนยองซาน ฝังศพไว้ที่สุสาน ใกล้บ่อน้ำพุร้อน
รายที่ 6 เหยื่อชายวัย 30 จ้วงด้วยมีด และผลักตกบันได
รายที่ 7 เคสล่าสุด คือซูจิน แฟนสาว เป็นลัคกี้นัมเบอร์ที่ทำให้แทโอติดคุก เหตุจูงใจการฆ่าคือโกรธที่ทะเลาะกันเรื่องผ้าอนามัยสอด! แต่ศพถูกตัดไปแค่แขนเพราะวันนั้นฝนตกกวนใจจนหมดอารมณ์ชำแหละต่อ
แต่หลังจากการขมักเขม้นสืบสาว เรื่องราวกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นว่านักสืบคิมถูกแผนปั่นหัวกวนประสาทของแทโอเล่นงานเข้าให้ซะมึนตึ้บ เสียท่าตกเป็นเบี้ยล่าง เพราะแทโอมีเป้าหมายเบื้องหลัง แถมฉลาดเป็นกรด นักสืบคิมจึงต้องตั้งสติพลิกเกมสู้กับแทโอใหม่ ด้วยวิธีไหนหละ แล้วคดีทั้งหมดจะถูกไขได้หรือไม่ และที่สำคัญ ถ้าคังแทโอเป็นเจ้าของผลงานจริง จะจับให้อยู่หมัด ต้องดำเนินคดีอย่างไร แค่ขุดคุ้ยหาความจริงของเรื่องราวและหลักฐานก็ยากอยู่ละ ยังจะมีเรื่องอายุความเข้ามาเป็นตัวแปรด้วย งานนี้ต้องอาศัยชั้นเชิงของนักสืบคิมเท่านั้น บอกเลยว่ามันส์มากค่ะ
เป็นหนังสืบสวนอาชญากรรมที่พล็อตแปลกใหม่ เล่นเกมจิตวิทยากัน บทจึงสนุกเข้มแบบไม่โฉ่งฉ่าง แต่ชวนติดตามต่อเนื่องตลอดเรื่อง ทั้งการควานหาเบาะแสหลักฐานของแต่ละคดี การเผชิญหน้าของนักสืบคิมกับแทโอ ปมที่ซ่อนไว้ การพลิกเกมให้ชวนลุ้นเอาใจช่วย
ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้โดดเด่นขึ้นมากที่ได้สองดารามากฝีมืออย่าง จูจีฮุน และ คิมยอนซอก มาครองบทเกือบทั้งหมดของหนังได้อย่างอยู่หมัด จูจีฮุนสามารถถ่ายทอดคาแรคเตอร์คนมีปมหลายมิติออกมาได้อย่างชวนคล้อยตาม โรคจิตอารมณ์แปรปรวน หลงผิดในความเป็นฮีโร่ของตน คลั่งไคล้การฆ่าหั่นศพ มีความฉลาดซับซ้อนปนความกวนประสาทสำเนียงใต้
ผู้เขียนชอบวิธีการใช้สคริปต์บทพูดของคังแทโอมาสร้างความน่าสะพรึงกลัวให้ผู้ชม ยิ่งเมื่อประกอบกับการแสดงความไม่รู้สึกรู้สาไรว่าที่พูดนั่นหนะคือโหด ยิ่งทำให้เราขนลุกสยองได้เลย เป็นทริลเลอร์ที่ไม่ต้องพึ่งภาพศพเหวอะหวะ แม้จะเป็นเรื่องของฆาตกรโรคจิตจอมชำแหละก็เหอะ
ส่วน คิมยอนซอก ก็ได้บทที่เข้าทางกับเขามาก การใช้สีหน้าสื่ออารมณ์มากกว่าคำพูด และยังต้องแสดงให้สีหน้าซ่อนอารมณ์แบบ poker face อีก คุมเกมการดีลกับพวกโรคจิตที่ชอบโชว์ออฟก็คงต้องนิ่ง อดกลั้นให้ดีแบบนี้แหละ แต่ในความมุ่งมั่นของเขา ผู้เขียนได้ใจมากกับประโยคสั้นๆที่เขาว่า ‘คุณเป็นใคร ให้ผมได้รู้หน่อยเถอะ ผมจะได้ช่วยคุณได้’ ช่างชวนหดหู่ใจกับความจริงในสังคมที่ยังคงมีเหยื่อที่ไม่มีใครรู้ใครเห็น เพราะเขาเหล่านั้นเป็น nobody และเพราะสังคมนี้ยังมีคนร้ายที่กฎหมายไล่ตามไม่ทันอยู่
Trailer :