เมื่อสามหนุ่มคนเก่งต่างสัญชาติ ร่วมทีมภารกิจล่าคนร้ายข้ามชาติ
และปฏิบัติการที่ลับไปกว่านั้นคือต่างเป็นจารชนต่อกัน
มิชชั่นนี้จะบรรจบกันตรงไหนดี ต้องตาม ฮยอนบิน ยูแฮจิน และแดเนียล เฮนนีย์ ไปชมกัน
Confidential Assignment 2 : International เป็นภาพยนตร์ภาคสองของ Confidential Assignment ปี 2017 ที่ประสบความสำเร็จขึ้นแท่นขายตั๋วได้สูงเป็นอันดับสามของปี คือ 7.8 ล้านใบ มาภาคนี้ก็ยังคงความขายดีอยู่ ยอดตั๋ว ณ วันที่เขียนรีวิวก็ปาไป 6 ล้านกว่าใบแล้ว
คาดว่าคงมีคำถามนำเช่นเคยว่า ไม่ได้ดูภาคแรกมาก่อน แล้วจะดูภาคสองรู้เรื่องไหมสนุกไหม? ก็เรียกว่าไม่ได้จำเป็นนะสำหรับภาคแรก เพราะเรื่องราวหลักของภาคนี้เป็นอีกภารกิจ อีกคดีใหม่ สามารถดูจบครบความได้โดยตัวมันเอง เพียงแค่บทสนทนาหรือมุกบางฉากพาดพิงมาจากเนื้อหาในภาคแรก ถ้าใครดูมาก่อน มาดูภาคนี้ก็จะอ๋อ แต่สำหรับผู้เขียนอาจรู้สึกต่างไปบ้าง เพราะอ๋อแล้วทำให้ไม่ค่อยสนุกนัก เพราะอะไรเดี๋ยวค่อยกลับมาวิเคราะห์กัน
รีวิววันนี้ ผู้เขียนจึงขออนุญาตยึดจากภาคแรกเป็นหลักนะคะ เพราะดูทรงแล้ว ผู้กำกับตั้งใจยึดโครงจุดเด่นต่าง ๆ ของภาคแรกไว้ ต่อยอดบ้าง ตอกย้ำบ้าง ดังนั้น ถ้าจะไม่กล่าวถึงเลยก็คงกระไรอยู่ (ติดตามอ่านรีวิวภาคแรกได้ ที่นี่ เลย)
ท้าวความโครงพล็อตในภาคแรก มีการนำเจ้าหน้าที่มือดีเกาหลีเหนือมาตามจับผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งหลบมาอยู่ในเกาหลีใต้ ฝ่ายใต้จึงมอบหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประกบสืบสวน กลายเป็น ‘คู่หูจำยอม’ สืบคดีไปด้วยกัน แต่ก็แอบสืบความลับเบื้องหลังแท้จริงภารกิจของฝ่ายเหนือ เคมีของสองคน ลิมชอลรยอง (รับบทโดย ฮยอนบิน) และ คังจินแท (รับบทโดย ยูแฮจิน) ที่ค่อย ๆ ผ่านเหตุการณ์พัฒนาความสัมพันธ์ จากความไม่ทันกัน ไม่เข้าขา ไม่ไว้ใจกัน กลายเป็น ‘คู่หู’ ตัวจริงไปในที่สุด เดินเรื่องไปพร้อม ๆ กับการร่วมเสี่ยงตายจนภารกิจสำเร็จลุล่วงด้วยกัน
ภาคนี้คือฟอร์แมทเดิมเลยค่ะ แต่เพราะลิมชอลรยองและคังจินแทมีมิตรภาพที่ดีต่อกันไปแล้ว จึงต้องหาคนใหม่มาเพิ่มให้มี ‘ความคู่หูที่ไม่เข้าทีม แง่ง ๆ ไม่ไว้ใจกัน ข่มกันในที’ อีกครั้ง เพื่อมาเป็น ‘ทีมเฉพาะกิจแบบจำยอม’ และทำให้ทั้งสามคนเกิดการร่วมงานที่ค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์เหมือนภาคแรก (นี่ถ้ามีภาคสาม จะกลายเป็น 4 พระเอกไหมเนี่ย 555)
ผู้มาเป็นพระเอกคนที่สามของเรื่องนี้ ก็คือ FBI แจ๊ค (รับบทโดย แดเนียล เฮนนีย์) ด้วยสูตรเดิม คือหล่อล่ำ เก่งด้วยประสบการณ์อินเตอร์ (แต่ขอบอกว่า หล่อจริงจังมากกก) เป็นลุคที่ไม่เพียงข่มคังจินแทได้เท่านั้น แต่ลิมชอลรยองยังต้องมีสะเทือนโคลงเคลงไปบ้าง นอกจากนี้ การเลือกแดเนียล เฮนนีย์มารับบทนี้ ก็คงหวังความฮือฮาในมุมที่เป็นเพื่อนร่วมงานเก่าของฮยอนบินตั้งแต่ซีรีส์ดัง My Name is Kim Sam Soon เมื่อปี 2005
ส่วนสมาชิกครอบครัวของ คังจินแท ที่เข้ามาช่วยเสริมความฮาตั้งแต่ภาคแรก ก็ยังคงมีบทบาทมากขึ้น นั่นคือ ภรรยา (รับบทโดย จางยองนัม), ลูกสาว (รับบทโดย พัคมินฮา) ซึ่งภาคแรกแค่ 10 ขวบ ภาคนี้เป็นสาวแล้ว และน้องภรรยาอย่าง พัคมินยอง (รับบทโดย อิมยุนอา) สาวฮาเกรียนช่างมโนจิ้นกับลิมชอลรยอง เป็นบทที่น่ารักมากจนภาคนี้ต้องขยายบทให้เธอเข้ามามีส่วนในการสืบคดี เป็นสาวมีสาระมากขึ้น สวยขึ้นแบบสับ ระดับสวยเลือกได้ถึงสองหนุ่มหล่อ จะเกาหลีดีหรืออเมริกันดีล่ะ? แต่ที่แน่ ๆ ได้สร้างมู้ด ‘หึง’ ให้ลิมชอลรยองละลายความซึนลงบ้างแ้ลว ก็จะเป็นพาร์ทที่ภาคสองนี้เสิร์ฟขาจิ้นโรมานซ์ได้จุใจขึ้น
บุคคลที่จะขาดไม่ได้คือ จางมยองจุน (รับบทโดย จินซอนกยู) ตัวร้ายสัญชาติจีน-เกาหลีเหนือ เป้าหมายของ 3 พระเอกเรา รูปลักษณ์ของนายจางนั้นสะดุดตาดี ผมเผ้าและเมคอัพกรีดตา บวกฝีมือการแสดง ทำให้จินซอนกยูดูโหดเหี้ยมโรคจิตถูกใจผู้เขียน แต่เสียดาย โดยบทอาจไม่ค่อยได้โชว์บทเหี้ยมเท่าไร่นัก และน่าจะเล่นได้มากกว่านี้
การผูกเรื่องราวของคดี เป้าหมาย และที่มาของการกระทำของตัวร้าย การข้ามชาติ อาจดูรวบรัดหลวม ๆ ไปหน่อย ก็คงเพราะเน้นใช้เวลาให้กับการโชว์ลีลาแอ็คชั่นและการพัฒนาความสัมพันธ์ของ 3 พระเอก อย่างไรก็ดี ก็ยังมีการผูกปมไว้หักมุม รวมถึงการหักหลังไปมาของตัวละครหลักให้ดูมีความสนุกคาดเดายากขึ้น (แต่ก็ไม่ได้ยากเลยสำหรับคอหนังสืบสวนจริง ๆ)
โดยภาพรวมและการชี้นำโดยชื่อเรื่องภาษาไทยว่า ‘จารชนโอปป้า รั่วส์ข้ามโลก’ สรุปได้ว่าเป็นงานขายบันเทิงจ๋า ไม่แคร์ความโม้ ๆ เน้นแอ็คชั่นเพลิน ๆ ด้วยสูตรลีลาหนังฮ่องกงแบบผู้กำกับจอห์นวู ส่วนใหญ่ก็เป็นฉากสวยแบบคุ้นชินเจนตาทั้งนั้น เน้นบทฮาบทจิ้นเอาใจแมสเป็นหลัก
ในมุมของผู้เขียนที่เคยชมภาคแรกในอารมณ์สดใหม่ในตอนนั้น พอเจอความเดิม ๆ อีกครั้ง เลยเหมือน ‘ซ้ำ’ ก็เลยอาจเป็นเหตุให้รู้สึกว่ามุกเฝือ มุกฝืดซะส่วนใหญ่ ตัวอย่างเช่น การคว้าม้วนทิชชู่ไปเป็นอาวุธต่อยตีในภาคแรก ตอนนั้นคือฮาฉลาดดี แต่พอซ้ำในภาคนี้ด้วยไม้ตีแมลงวันแทน ก็ดูกร่อยไปนิดหน่อย อย่างไรก็ตาม ก็ยังเชื่อว่าถ้าใครไม่เคยดูภาคแรกมาก่อน หรือเป็นคนเส้นตื้นหน่อย ก็น่าจะฮาถูกใจได้ดีอยู่นะ และสำหรับใครที่ตั้งใจมาดูพระเอกหล่อ ๆ ฉากสวย ๆ แอคชั่นเบาสมองก็ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡