ฆาตกรรมในห้องปิดตาย
หนึ่งเป็นศพที่ให้ปากคำไม่ได้แล้ว
อีกหนึ่งก็บาดเจ็บและตกเป็นผู้ต้องหาโดยที่ยืนยันว่าตนบริสุทธิ์
ใครคือคนร้ายตัวจริง?
ตามคุณทนายความมือหนึ่งไปสืบสาวหาความจริงใน ‘คำสารภาพ’ นั้น
Confession เป็นภาพยนตร์แนวปริศนาระทึกขวัญไปกับการสืบสาวหาความจริงของคดีอาชญากรรม รีเมคจากหนังดังเรื่อง The Invisible Guest (2016) ของสเปน เดิมมีแผนเตรียมฉายตั้งแต่ปลายปี 2020 แต่ต้องเลื่อนเพราะสถานการณ์โควิด-19 ถึงกระนั้นก็ยังให้ผลการตอบรับที่ดีมาก ๆ คือมียอดตั๋วสูงเป็นอันดับ 16 ของปี แม้จะไปไม่ถึงจุดคุ้มทุน แต่หนังก็ได้รับการตอบรับดีในแง่การรับเชิญไปฉายในหลาย ๆ เทศกาลภาพยนตร์ของต่างประเทศ
ความดีความชอบอันดับแรกต้องขอยกให้กับตัวบทดั้งเดิมซึ่งมีความโดดเด่นและสนุกน่าประทับใจเป็นทุนสำคัญ พอนำมาปรับใส่กลิ่นอายและรายละเอียดให้เข้ากับความเป็นเกาหลีอย่างเหมาะสม ถ่ายทอดผ่านนักแสดงที่มากฝีมืออย่าง โซจีซอบ และ คิมยุนจิน ก็ทำให้ยังสามารถเสพย์ซ้ำได้อย่างสนุกเพลิดเพลินสำหรับผู้ที่เคยผ่านต้นฉบับมาแล้ว และสนุกทึ่งอย่างสดใหม่แน่นอนสำหรับผู้ที่รับชมเป็นครั้งแรก
ตั้งต้นด้วยการท้าวความถึงคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง ผู้ต้องสงสัยคือ ยูมินโฮ (รับบทโดย โซจีซอบ) ซีอีโอของบริษัทไอที D&T Security ที่กำลังรุ่ง เหยื่อผู้ตายคือ คิมเซฮี (รับบทโดย นานะ) ซึ่งเป็นชู้รักของยูมินโฮ โดยที่มีปมปริศนาหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นห้องที่ปิดตาย ล็อคจากข้างใน มีเพียงสองคนในนั้น ตัวยูมินโฮเองที่ให้การว่าถูกใครสักคนทำร้ายบาดเจ็บจนสลบก่อนที่จะฟื้นขึ้นมาพบศพคิมเซฮีบนพื้นซึ่งเกลื่อนไปด้วยธนบัตรมากมาย ธนบัตรเหล่านั้นคือเงินพันล้านวอนที่ยูมินโฮอ้างว่าถูกผู้โทรมาข่มขู่แฉความลับเรื่องฉาวมีชู้ นัดให้นำไปมอบให้ที่นี่ และตั้งข้อสังเกตว่าทำไมตำรวจ 911 จึงมาถึงโรงแรมก่อนเวลาเกิดเหตุเสียอีก
ด้วยเส้นสายของพ่อตา ยูมินโฮได้รับการประกันตัว เพื่อรอหลักฐานที่ชัดเจนในการจับกุมใหม่ เขาจึงให้ทนายบริษัท คือ จางแทซู (รับบทโดย ฮงซอจุน) จัดหาทนายความฝีมือดีมาช่วยให้เขาหลุดพ้นความผิด เพราะเขายืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเองอย่างแข็งขัน และเชื่อว่ามีบุคคลที่สามเป็นผู้วางแผนและลงมือ ซึ่งทนายความที่รีบรุดมาพบเขาที่บ้านพักตากอากาศในป่าลึกโดดเดี่ยวในคืนนั้นเลย ก็คือ ยังชินแอ (รับบทโดย คิมยุนจิน) ท่ามกลางบรรยากาศหิมะขาวโพลนยะเยือก
งานแรกของทนายยังชินแอย่อมต้องคือการสอบถามข้อเท็จจริงทั้งหมดเพื่อไว้เตรียมสำนวนสู้คดี อุดช่องโหว่ หาช่องรอด และที่สำคัญคือประเมินว่าจะรับทำคดีให้หรือไม่ เพราะชื่อชั้นของเธอคือต้องชนะ 100%
เรื่องราวเกือบเท่าความยาวของหนังทั้งหมดถูกเล่าผ่านบทสนทนาในคืนนั้น เป็นการพาผู้ชมไปขึ้นโรลเลอร์โคสเตอร์ เอ๊ย ไล่ตามข้อมูลที่ทนายซักลูกความตอบ ทนายสงสัยลูกความชี้แจง ลูกความเล่าเรื่องแต่ถ้าทนายเห็นช่องโหว่ที่ไม่สมเหตุผล ทนายก็จะลองเล่าเรื่องใหม่ในอีก Scenario ที่เหมือนเป็นการไล่ต้อนเค้นความจริงประหนึ่งเขาเป็นผู้ก่อความผิดซะงั้น!
การซักหาความจริงได้ย้อนตั้งต้นที่ความสัมพันธ์เชิงชู้สาวของ ยูมินโฮ กับ คิมเซฮี แล้วไล่เรื่องราวต่อจากนั้น ไปแบบค่อย ๆ ลำดับค่อย ๆ ปะติดปะต่อ (ต่อผิดก็หยิบชิ้นใหม่ต่อใหม่ได้) ได้ฟิลกระตุ้นต่อมอยากรู้ไปพร้อม ๆ กับลุ้นระทึกด้วยจิตวิทยาหยั่งเชิง หลอกล่อ จริง ๆ เท็จ ๆ ปนเปกันไป แต่ทุกอันดูมีน้ำหนักน่าเชื่อทั้งนั้น ใครฉลาดกว่าก็จะคุมเกมอยู่มากกว่า หรือเพลี่ยงพล้ำก็กลับตัวได้ทัน สีหน้าแววตาของทั้ง โซจีซอบ และ คิมยุนจิน นั้นปล่อยพลังสะกดผู้ชมอยู่แน่นอน
ไม่เพียงพวกเขาสองคนจะตกอยู่ในเกมซักความจริงที่กดดันตึงเครียด เราผู้ชมก็สนุกติดหนึ่บเข้าไปด้วยแบบสมองหมุนติ้ว คิดตามให้ทัน เดาต่อให้สนุกตามสกิลเฉพาะตัวของใครของมัน ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าดูให้ละเอียดก็จะพบพิรุธเล็ก ๆ น้อย ๆ ปล่อยตามรายทางมาตั้งแต่ต้น ๆ เรื่อง ที่จะทำให้ไม่วางใจเชื่อฉากเล่าเรื่องทั้งหลายซะทีเดียว ส่วนเนื้อหาเรื่องราวที่เหลือก็ต้องขอละไว้ให้ทุกคนไปพบเจอด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ
ความมีเสน่ห์ของบทเรื่องนี้ ก็คือ การตั้งต้นจากปมไม่กี่เงื่อนแต่ขยายความเชื่อมโยงได้เก่ง ความฉลาดลำดับเล่าเรื่องได้น่าติดตาม การใช้โมเมนท์ของทนายกับลูกความได้อย่างลงตัว ความแยบยลในบทสนทนาที่มีลีลาเชิงจิตวิทยา ชั้นเชิงการหักมุม หักเฉียบและหักหลายตลบ ขนาดความจริงหลัก ๆ เริ่มเผยเมื่อเข้าครึ่งชม.สุดท้ายแล้ว ก็ยังมีอะไรให้ชวนติดตามต่อจนสุดเรื่องได้ ซึ่งในเวอร์ชั่นของรีเมคเกาหลีได้เพิ่มเนื้อหาช่วงท้ายเข้าไปแบบจบให้สุดเลย
แต่ก็ไม่รู้นะว่าเป็นเพราะผู้เขียนมี Bias จากความคุ้นเคยงานเกาหลีมากกว่า อินเพราะคุ้นชินกับนักแสดงเกาหลีมากกว่าหรือไม่ จึงรู้สึกว่าเรื่องราวดูเข้าถึงได้ง่ายกว่าหน่อย หรืออาจเป็นเพราะการได้ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับไปก่อนหน้าแล้วก็ได้ นอกจากนี้ ก็มีความชอบชื่อเรื่องของเกาหลีมากกว่าด้วยแม้จะเป็นคำพื้น ๆ แต่ได้ใจความเข้ากับเรื่องได้ดีแบบง่าย ๆ
สรุปโดยรวมว่าเป็นงานดีมีคุณภาพเต็มขั้นทั้งบท นักแสดง งานโปรดักชั่น คุ้มค่ายิ่งสำหรับคอหนังทริลเลอร์สายปริศนาแยบยลเล่นชั้นเชิง ได้อารมณ์ไม่จำเจอย่างแน่นอนค่ะ
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡