All About My Wife เป็นหนังปี 2012 แต่เข้าฉายในไทยเมื่อปี 2013 ในชื่อว่า ‘แผนลับสลัดเมียเลิฟ’ ถือว่าเป็นรอมคอมที่สนุกสนานน่าชม พร้อมสาระดีทีเดียว
ทูฮยอน (รับบทโดย อีซอนคยูน) กับ จองอิน (รับบทโดย อิมซูจอง) พบกันครั้งแรกในญี่ปุ่น ขณะเกิดแผ่นดินไหว จองอินกลัวมากจนฝังใจ แต่ทูฮยอนก็ช่วยปลอบโยนได้ดี จนทั้งคู่ได้กลายเป็นแฟน และแต่งงานกัน กลับมาอยู่โซล ทูฮยอนทำงานในบริษัทสร้างบ้านที่เชี่ยวชาญด้านการต้านแผ่นดินไหว ส่วนจองอินเป็นแม่บ้านงานดีสมบูรณ์แบบ
7 ปีผ่านไป ชีวิตคู่ชักจะไม่หวานสดใส จองอินเปลี่ยนไป จากหญิงสาวสวย หวาน น่ารัก กลายเป็นแม่บ้านจู้จี้ ขี้บ่นทั้งวัน หัวเสีย วีนได้ทุกเรื่อง ดูเหมือนว่าทูฮยอนทำอะไรก็ผิดไปหมด แต่ด้วยความไม่กล้าพูด ไม่กล้าเถียง ไม่กล้าแสดงอารมณ์ความรู้สึกตัวเองออกมาบ้าง ทูฮยอนได้แต่เก็บกดความอัดอั้นสะสมไว้ในใจจน ‘เมีย’ กลายสภาพเป็น ‘ฝันร้าย’ ของชีวิตเขาไป
และแล้ววันหนึ่งเมื่อถึงจุดที่เขาทนไม่ไหว ประจวบเหมาะกับเขาได้พบว่า ชายหนุ่มคาสโนว่าเพื่อนบ้านที่ชื่อ ซองกิ เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์แรงร้ายกาจถึงขั้นว่าวันๆมีแต่หญิงสาวสวยมากมายมาตามตื๊อหัวกระไดไม่เคยแห้ง แต่ยังไม่มีสาวไหนชนะใจคาสโนว่าได้ เพราะเขามีปม รักใครไม่ได้ ทูฮยอนจึงเกิดคิดแผนชั่วร้ายขึ้นได้ว่า จะขอร้องซองกิมาช่วยจีบจองอิน แบบจัดฉากให้เหมือนชะตาพามาเจอ เพื่อที่จองอินจะได้เป็นคนขอหย่าแยกทางจากเขาไปเองแต่โดยดี แค่ให้หย่าแหละ เพราะไงซองกิก็คงไม่มีทางรักจองอินอยู่แล้ว โห! ผู้ชายไรเนี่ย ใจร้ายจังเลยเนอะ
แผนการแรกจึงเริ่มจาก ต้องให้จองอินออกจากบ้าน งานที่ทูฮยอนชงให้จองอิน คือ ไปเป็นแขกในรายการวิทยุของเพื่อนทูฮยอน ด้วยสกิลนักบ่น-ก่น-ด่าขั้นเซียนภายใต้ความกล้าบ้าบิ่นของจองอิน กลายเป็นจุดขายใหม่ฮอตสุดๆของรายการ เรื่องอัดอั้นในสังคมที่ใครๆไม่กล้าพูด หรือได้แต่บ่นในใจ บอกมา จองอินจะทำสกู๊ปแฉและระบายให้โลกรู้เอง จองอินจึงกลายเป็นผู้ร่วมจัดรายการที่ประสบความสำเร็จ มีแฟนคลับติดตามมากมาย นี่แอบตลกร้ายนะ เพราะไปๆมาๆ จองอิน แม่บ้านไก่กา กลับทำงานได้รุ่งกว่าสามีทูฮยอนซะอีก 555
และเมื่อคาสโนว่าซองกิ เริ่มทำงาน แน่นอนว่าความสัมพันธ์ย่อมเป็นไปด้วยดี ถ้าแผนลับสลัดเมียเลิฟนี้ได้ผล ทูฮยอนจะยกภูเขาออกจากอกได้จริงหรือ แล้วถ้าเขาเกิดนึกเสียดายเมียขึ้นมา จะแก้ไขสถานการณ์ทันไหม ต้องตามไปดูต่อเองค่ะ
ดารานำแสดง : อีซองคยูน อิมซูจอง รยูซึงรยอง อีกวางซู อีซองมิน
หนังดำเนินเรื่องได้ฮาๆ น่ารัก กระชับฉับไว ดูเพลินๆ มีความ overact หน่อยๆ กลิ่นอายฮาปนตลกร้ายบ้าง ถ้ามองให้ละเอียดจะเห็นเสน่ห์ของหนัง มีกิมมิคที่เก๋ดี และผูกเรื่องต่างๆได้สอดคล้อง และมีความหมายหมด เช่น
# การใช้ความกล้าของจองอินและความกลัวของทูฮยอนสร้างพลอตเรื่อง
# การพลิกมุมจากที่คิดว่าเป็นเพราะเมียแย่ๆ กลายเป็นเพราะสามีแย่ๆ แบบหาคำอธิบายได้ค่อนข้างลงตัว (เอ..เป็นเพราะคนเขียนเป็นผู้หญิง เลยเข้าข้างเมีย หรือว่าคนเขียนเป็นผู้ชายกลัวเมีย 555 คิดได้คิดไป)
# การผูกเอาโรค phobia แผ่นดินไหวของจองอินมาใช้เป็นโมเมนท์สำคัญในเรื่อง
# การเปรียบเปรยแผ่นดินไหวกับอารมณ์ปะทุของจองอินและความสัมพันธ์ของชีวิตคู่
# ความช่างบ่น-ก่น-ด่าของจองอินที่ turn เป็นความ popular กับมวลชนได้ ตรงกันข้ามกับสามีที่มองเห็นแต่ว่าเป็นความบกพร่องอย่างแรง เป็นต้น
สำหรับดารา ถือว่าเรื่องนี้ได้นักแสดงแถวหน้า ฝีมือเยี่ยม มารับบทนำทั้ง 3 คน โดยเฉพาะ อีซองคยอน ที่ดังมาจากบทพระรองของซีรีส์ดัง Coffee Prince (2007) ผู้เขียนชมชอบเขามากเป็นพิเศษในบทกระอักกระอ่วน พูดไม่ออกบอกไม่ถูก หรือแนวเก่งแต่ซวย ยิ่งแกะ ปมยิ่งพัน ประมาณนี้ อินเนอร์เขาจะมาแรงมากจนคิดสงสัยว่าตัวจริงคงเป็นคนแบบนี้มั้ง 555 ถ้าใครชอบบทคาแรคเตอร์แนวนี้ของเขา ตามชมได้อีกในภาพยนตร์เรื่อง A Hard Day (2014) และซีรีส์เรื่อง My Wife’s Having an Affair This Week (2016) ได้ค่ะ สนุกทั้งสองเรื่องเลยค่ะ
โดยสรุปสำหรับเรื่องนี้ เนื้อหาสาระของหนังถือว่าดีทีเดียวเลย อยากฟันธงว่าปัญหามาจากความผิดของทั้งคู่ผสมโรงกันแหละ มันไม่ได้เป็นแค่ข้อคิดของเฉพาะชีวิตคู่สามีภรรยาเท่านั้น แต่สามารถประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตทั่วไป จะแฟนกัน หรือเพื่อนกัน หรือความสัมพันธ์ใดๆก็ตาม การได้พูดออกมา ได้ทำความเข้าใจกัน ขยับเข้าหากัน ย่อมดีกว่าการเก็บเอาไว้แล้วคิดเองเออเอง สะสมความเก็บกดพอกพูนไปจนกลายเป็นระเบิดทำลายล้าง ผู้เขียนชอบที่จองอินใช้คำว่า อย่าให้บ้าน ‘เงียบ’
นอกจากนี้ยังมีข้อคิดที่ว่าเรามักจะเพิ่งเห็นคุณค่าของสิ่งที่เราต้องเสียไป ทั้งๆที่สิ่งนั้นเคยอยู่ในมือเรามาก่อน แต่เราละเลยมองข้ามไป ชวนให้หันมาคิดทบทวนบ่อยๆว่า ทุกสิ่งในโลกนี้มีทั้งข้อดีและไม่ดีอยู่ในตัวด้วยกัน เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน ถ้าเราระลึกด้านที่ดีไว้สม่ำเสมอ เราจะสามารถเข้าใจด้านที่ไม่ดีได้ด้วยใจเปิดกว้างค่ะ
Trailer :
