The Closet เป็นหนังผีหลอน กระตุกขวัญที่มีนักแสดงแถวหน้าอย่าง ฮาจองอู และ คิมนัมกิล เป็นแม่เหล็กเรียกความสนใจ และยังได้นักแสดงเด็ก หนูน้อยฮอยูล ที่เคยฝากฝีไม้ลายมือมาแล้วในซีรีส์ Mother (2018) และ The Guest (2018) ซึ่งเป็นแนวสยองขวัญเช่นกัน ถ้าใครเคยดู จะรู้ว่าน้องไม่ธรรมดาเลยล่ะ ทำให้เรื่องนี้มีความชวนดูขึ้นมาเยอะแน่นอน
ที่มาของเรื่องราวคือ สถาปนิก ยอนซังวอน (รับบทโดย ฮาจองอู) เพิ่งสูญเสียภรรยาที่รักจากอุบัติเหตุรถชน เขาและลูกสาววัยสิบขวบรอดชีวิตมาได้ แต่สภาพจิตใจก็ยังไม่เป็นปกตินัก ตัวเขาเองมีความเครียดจนต้องพึ่งยาบ้าง การย้ายบ้านไปอยู่ห่างเมืองวุ่นวาย เป็นบ้านหลังใหญ่ที่ดูสงบเงียบ อาจเป็นการพยายามเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ รวมถึงการพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกสาวที่กระท่อนกระแท่น ไม่ราบรื่นเอื้อต่อการทำหน้าที่พ่อเลี้ยงเดี่ยว
ลูกสาวของเขา ยอนอีนา (รับบทโดย ฮอยูล) จากเด็กสดใสสมัยยังมีแม่ ก็กลายเป็นเด็กอมทุกข์พูดน้อย ไม่เปิดใจให้พ่อที่พยายามพูดดีทำดีด้วย ข้าวของตุ๊กตาโปรดมากมายที่พ่อประเคนมาเอาใจเธอ ก็ได้เพียงความเย็นชากลับไป แต่แล้ว จู่ๆอีนาก็เปลี่ยนไป เป็นเด็กอารมณ์ดีขึ้นทันตา บอกว่าสนุกกับการเล่นตุ๊กตากับเพื่อนใหม่ในห้องของเธอ และในบางคืนซังวอนก็รู้สึกเหมือนหูแว่วได้ยินเสียงแปลกๆจากห้องอีนา แต่ก็ไม่เคยพบเห็นอะไร
เนื่องจากซังวอน มีภารกิจต้องไปดูแลไซต์งานก่อสร้างโปรเจกต์ใหญ่ที่ต้องห่างบ้าน จึงคิดจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูก แต่ช่างหายากเย็นเหลือเกิน จนเขาเริ่มคิดเรื่องการส่งลูกไปอยู่ประจำในค่ายศิลปะ ตอบโจทย์ทั้งคนดูแล และบำบัดสุขภาพจิตไปด้วย แต่เขาก็โชคดีได้พี่เลี้ยงมาทันการ และโชคร้ายก็ตามมาด้วย เพราะเป็นวันที่จู่ๆอีนาก็หายสาบสูญไร้ร่องรอย
เขาติดตามหาลูกมานานหนึ่งเดือนเต็มโดยการพึ่งพาตำรวจ พึ่งพาสื่อ แต่ไม่ได้ผลใดๆสักทาง ซ้ำยังทำให้เรื่องราวแย่ลงไปอีก จนกระทั่งมีหมอผีหนุ่ม คยองฮุน (รับบทโดย คิมนัมกิล) เสนอตัวเข้ามาช่วยจัดการตามหาอีนา เพราะเชื่อว่าเธอหายไปในมิติของโลกคนตายที่อยู่ระหว่างการไปสู่ปรโลก ปฏิบัติการต่อสู้กับภูติผีวิญญาณร้ายเพื่อนำตัวอีนากลับมาให้ได้ในเวลาที่จำกัดจึงเกิดขึ้น ซังวอนจะได้ตัวอีนาคืนกลับมาหรือไม่ ด้วยวิธีการอย่างไร ที่มาของอาถรรพ์สยองนี้คืออะไร และหมอผีคยองฮุนจะมีบทบาทอย่างไรบ้าง ต้องไปติดตามลุ้นดูกันเองค่ะ
คำถามแรกสุดสำหรับการรีวิวหนังผีทุกครั้ง มักถูกถามว่าน่ากลัวไหม ดูดีไหม คนกลัวผีจะดูไหวไหม อันนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบ และความจิตแข็งของแต่ละคน ผู้เขียนคงบอกได้แค่ว่า หนังผีก็ต้องมีฉากผีหลอนเป็นเรื่องปกติ หลอกธรรมดาคงไม่ตกใจ ก็ต้องหลอกทีเผลอให้สะดุ้ง โหมภาพและซาวน์ให้ตื่นเต้นระทึกขวัญ จึงจะสมศักดิ์ศรีเป็นหนังผี ใช่ไหมคะ เรื่องนี้ก็จัดให้พอชวนขนลุกอยู่บ้าง
ความน่าดูของการปราบผีเรื่องนี้ มีการเสริมกรรมวิธีที่ทันสมัย อิงความเป็นวิทยาศาสตร์บ้าง เขย่ารวมไปกับความเป็นไสยศาสตร์ด้วยพิธีกรรมแบบพื้นบ้านดั้งเดิม ทำให้โทนโดยรวมดูทันสมัย น่าติดตามมากขึ้น เพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือด้วย
ความน่าสนใจของเนื้อหาที่ขมวดเรื่องความสัมพันธ์พ่อลูก ครอบครัว มาใช้วางพลอตและคลี่คลายปม การแฝงสะท้อนปัญหาสังคมเล็กๆเรื่องความยากจนของคนหาทางออกไม่ได้ การฆ่าตัวตาย และปัญหาเด็กหายซึ่งมีเยอะมากในทุกๆสังคม ก็เป็นสาระที่ดี แต่ในมุมของการถ่ายทอดอารมณ์ดูจะไปได้ไม่สุดนัก เพราะตัวบทที่อาจไม่เอื้อการขยี้อารมณ์ เนื้อหาไม่ได้ทะลุปล้องจากที่มายันที่ไปให้อินตามได้สุด
ส่วนมุมอารมณ์ขันที่หยอดแซมไว้บ้าง ก็ชวนให้โมเมนท์ของซังวอนกับคยองฮุน ในสถานะของผู้ว่าจ้าง-ผู้รับจ้างมืออาชีพ ซึ่งในอีกมุมหนึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นคู่หูกลายๆ มีเคมีที่น่ารักดี มีความโบรมานซ์นิดๆ บุคลิกของคิมนัมกิลบางส่วน ดูแล้วก็จะชวนนึกถึงเขาในซีรีส์ The Fiery Priest เลย แค่ว่าไม่ได้หัวร้อนแบบนั้น
ปิดท้ายด้วยความรู้สึกแรกที่ผู้เขียนเห็นจั่วหัวชื่อเรื่องจากเกาหลีมาว่า The Closet ก็ชวนให้นึกถึงตู้พิศวงในเรื่อง Narnia ขึ้นมาทันที เพราะมีความเป็นตู้ที่มีมิติลึกลับเหมือนกัน แต่ The Closet อาจเป็นภาคดาร์คภาคหลอนของ Narnia ซะมากกว่า 555 ยิ่งเมื่อเจอชื่อไทยเข้าไป ‘ตู้นรก ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด’ บางคนอาจถึงขั้นผงะกลัวขาสั่น ตั้งใจให้เป็นผีหลอนฉบับจริงจังมาก เอาเป็นว่าถ้าใครชอบขนลุกแบบมีเนื้อหาสาระ ก็ลองหามาชมกันดูได้ค่ะ สนุกพอใช้ได้ค่ะ
Trailer :