Collectors เป็นหนังอาชญากรรมแบบเบาสมอง หรือที่มีศัพท์เรียก genre เฉพาะว่าพวก Caper หรือ Heist หมายถึงหนังปล้น ซึ่งมีเสน่ห์เฉพาะตัว คือ แผนโจรกรรมจะสนุกสนาน ฉลาดเท่ คาดไม่ถึง จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ได้อารมณ์ชวนลุ้นชวนเชียร์ให้ปล้นสำเร็จ ความสนุกสนานของเรื่องนี้พิสูจน์ได้จากรายได้ติดอันดับ 5 ของปี รองจากเรื่อง The Man Standing Next, Hitman : Agent Jun, Ashfall, Samjin Company English Class ตามลำดับ
หนังปล้นเรื่องนี้เพิ่มความน่าสนใจด้วยการเป็นงานโจรกรรม‘สุสาน’ ซึ่งถ้าเป็นสุสานหลวงโบราณ ของมีค่าในนั้นก็จะเป็นโบราณวัตถุ ศิลปะล้ำค่า ระดับสมบัติของชาติ แต่จะสวนทางกับความเป็นหลุมฝังศพซึ่งไม่น่าพิศมัยนักหรอก เป็นงานที่มีความยากในการเข้าถึง คือถ้าจะลักลอบได้เนียน ก็ต้องเป็นการขุดลัดเลาะเจาะอุโมงค์ใต้ดินเท่านั้น
เปิดเรื่องมาให้รู้จักกับ คังดงกู (รับบทโดย อีเจฮุน) หนุ่มมิจฉาชีพต้มตุ๋นฝีมือโจรกรรมดีเยี่ยม ลีลาพริ้ว มาดชิล เต็มไปด้วยลูกเล่นแพรวพราว เขาลักขโมยพระพุทธรูปล้ำค่าเก่าแก่เป็นพันปีไปจากองค์เจดีย์เก้าชั้นของวัดฮวังนยองซาได้อย่างชิลๆ และยังขี้เล่นด้วยการทิ้งขนมช็อคโกพายไว้ดูต่างหน้าแทน เหมือนตั้งใจป่าวประกาศผลงานให้โลกรู้
ในระหว่างความชิลๆหิ้วถุงก๊อบแก๊บใส่องค์พระพุทธรูปทองคำองค์นั้นไปตระเวนขายในย่านการค้าวัตถุโบราณ ทำให้เขาถูกอันธพาลในคราบสูท กวังชอล (รับบทโดย อีซองอุค) มาดักตัวหวังฉกชิงพระพุทธรูปไป แต่บังเอิญที่ตำรวจหัวหน้าโอ (รับบทโดย พัคจินอู) ผ่านมาเห็นการตะลุมบอนเข้า และหลักฐานก็ถูกคังดงกูเนียนสลับส่งต่อพรรคพวกไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงรอดตัวกันไป
แต่กวังชอลก็ยังไม่ยอมปล่อยวาง ยื้อยุดชิงใต้โต๊ะแบบเถื่อนๆไม่ได้ ก็เปลี่ยนวิธีมาเจรจาซื้อขายบนโต๊ะละกัน โดยให้นำพระพุทธรูปมาเจอกับกับผู้ซื้อชาวจีนที่เขาชักนำมาเอง แต่กลับถูก ยุนโซฮี (รับบทโดย ชินฮเยซอน) มาสกัดลาภปากไว้ก่อน
ทั้งกวังชอลและยุนเซฮีต่างเป็นลูกน้องของประธานจินซังกิล (รับบทโดย ซงยองชาง) ที่มีหน้าฉากเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และได้รับเลือกให้เป็นประธานคนที่ 28 ของมูลนิธิมรดกวัฒนธรรมเกาหลี แต่เบื้องหลังประธานคือผู้ลักลอบค้าโบราณวัตถุล้ำค่าให้ต่างชาติเน้นที่ญี่ปุ่น ของเหล่านั้นก็ได้มาด้วยการจ้างวานมิจฉาชีพลักขโมยมา หรือไม่ก็ให้มือซ้ายสายเถื่อนอย่างกวังชอลไปขู่กรรโชกฉกชิงมาแล้วฆ่าปิดปากทิ้ง
ส่วนยุนโซฮีก็เป็นมือขวาสายภาพลักษณ์ เป็นผู้ช่วยข้างตัวด้วยตำแหน่งหัวหน้าภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์โอซง อีกหนึ่งองค์กรในเครือ เธอทำหน้าที่เจรจางานขายให้กับต่างชาติ เพราะเธอพื้นเพเการศึกษาดี จบนอก พูดได้หลายภาษา อยู่กับเขามา 6 ปี ใกล้ชิดระดับหนึ่ง ได้รับรู้ห้องลับนิรภัยไฮเทคที่ซ่อนไว้ที่โรงแรมในเครือ ซึ่งเป็นโกดังเก็บสินค้าล้ำค่าก่อนนำออกขาย ซึ่งประธานก็ไม่ได้ไว้ใจใครจริง สร้างระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา ผ่านเข้าไปได้ด้วยการสแกนม่านตา ลายนิ้วมือของเขาคนเดียวเท่านั้น รวมถึงกุญแจดอกเดียวที่พกติดตัวตลอดเวลา
เพราะกวังซอลและยุนโซฮีต่างไม่ไว้ใจกัน มีความแข่งกันในทีเพื่อเป็นคนสำคัญคนเดียวของประธาน งานนี้พระพุทธรูปจึงถูกยุนโซฮีจัดการซื้อเข้าห้องลับของประธานเพื่อรอขายต่อไป
เมื่อความสามารถของคังดงกูดูน่าสนใจขนาดนี้ ยุนโซฮีจึงเจรจาจ้างคังดงกูไปปล้นงานจิตรกรรมฝาผนังยุคโกคูรยอที่สุสานในเขตชายแดนจีน คังดงกูที่มีแบคอัพมือดีอย่างมันกี (รับบทโดย จูจินโม) เจ้าของร้านซื้อขายขยะของเก่าเหลือใช้ ที่มีลูกสาววัยรุ่น ฮเยริ (รับบทโดย พัคเซวาน) ทั้งฉลาดเฮี๊ยวและไฮเปอร์ เรื่องไอทีรวมถึงอุปกรณ์ gadget ที่หยิบใช้เอื้องานมิจฉาชีพไว้ใจเธอได้ พวกเขาได้ไปตะล่อมชวน ดร.โจนส์ (รับบทโดย โจอูจิน) ด๊อกเตอร์โบราณคดีกำมะลอ อดีตมิจฉาชีพที่ชำนาญงานจิตรกรรมสุสาน แต่ชีวิตตกอับไปเป็นพ่อค้าแผงขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยว ปฏิบัติการงานปล้นสุสานที่สุดเสี่ยงในเขตแดนจีนของพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ คังดงกูจึงได้โอกาสพบกับตัวเป็นๆของประธานซังกิล และยังล่อหลอกจนได้เห็นห้องลับกับตาเป็นครั้งแรก
คังดงกูจึงเปลี่ยนเกมมาเป็นผู้เสนองานใหม่งานใหญ่ให้กับประธานเองบ้าง คือการปล้นดาบคู่ใจของอีซองคเย (แม่ทัพแห่งโกคูรยอก่อนได้ขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์ของโชซอน) จากสุสานหลวงกลางกรุงโซล แผนการปล้นที่ต้องขุดอุโมงค์ใต้ดินกลางเมืองอันขวักไขว่จึงเกิดขึ้นอย่างแยบยลมืออาชีพ และต้องทันเวลาก่อนที่จะถึงวันซ่อมแซมสุสานของทางการ และสมาชิกทีมคนใหม่ที่มาเสริมทัพก็คือ ซับดารี (รับบทโดย อิมวอนฮี) อดีตมิจฉาชีพที่เกิดมาเพื่อขุด ขุดจนถูกจับ เขาเพิ่งพ้นโทษและกำลังคิดจะวางมือ แต่ก็ยอมมาร่วมทีม นั่นคือครึ่งเรื่องหลังที่ต้องตามไปเชียร์กันเองอย่างมันส์ๆ สนุกแน่นอน ในสไตล์หนังปล้นที่จะมีแผนการฉลาดแกมโกงลีลานักต้มตุ๋น ทีมเวิร์คที่เข้าขา กระบวนการขุดทะลุทะลวง ที่ต้องอาศัยทั้งฝีมือและโชคช่วย มีอุปสรรคให้รับมืออย่างตื่นเต้นหวาดเสียวบ้าง
นอกจากนั้นแล้ว ก็ต้องมีการหักหลังไปมา เพราะลูกน้องประธานก็ใช่ว่าจะไว้ใจได้ ทีมพระเอกเองก็ลูกเล่นเยอะ แผนซ้อนแผน หักมุมกระทั่งคนดูก็ยังถูกสับขาหลอกไปด้วย ความสนุกจะพีคไปจรดสิบนาทีสุดท้ายของเรื่องเลยเชียว ชวนให้กลับมาเข้าใจฉากเริ่มต้นของหนัง ว้าวในลีลาของพระเอก รวมถึงบทสรุปจบอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง คนทำชั่วถูกลงโทษ คนทำดีก็ได้รางวัลไป
งานแคสนักแสดงเรื่องนี้คือดี ตั้งแต่อีเจฮุนแสดงได้เนียนกับบทบาทคังดงกู ลื่นไหลมีเสน่ห์มาก ไม่ต้องสงสัยว่าเขาจะหลอกใครๆได้สำเร็จอย่างไม่ยาก และยังหยอดมุกขำๆได้น่ารัก เช่นทักษะการชิมดินปุ๊บ รู้ปั๊บเลยว่านี่คือดินสุสาน ทั้งขำทั้งหยึย! (จริงๆแล้วดินในฉากนั้น คือช็อคโกแลตค่ะ อีเจฮุนบอกว่าหวานอร่อยนะ 555) หรือฉากล้อเลียนหน้าของพัคจินอูว่าเหมือนหน้าพระพุทธรูป ขำกลิ้งเลยเพราะเหมือนจริงๆแฮะ (จริงๆแล้วเพราะเป็น props ที่จัดทำขึ้นใหม่เข้าฉาก) เมื่อแทคทีมร่วมกับโจอูจินและอิมวอนฮี สองดาราที่แค่เห็นหน้าก็การันตีว่าได้ปล่อยก๊ากแน่ โจอูจินซึ่งล้อเลียนอินเดียนาโจนส์ได้ฮาๆ อิมวอนฮีที่เป็นยอดนักขุดที่มีสิทธิ์ครองเหรียญทองโอลิมปิคถ้าบรรจุกีฬาขุดไว้แข่งขัน 555 บทตลกขบขันที่มีหยอดไว้เป็นระยะๆตลอดเรื่อง
ส่วนใครที่ตามมาดูชินฮเยซอน ก็บอกได้ว่าแม้บทจะไม่เยอะมาก แต่เธอก็ได้โชว์ฝีมืออีกลุคที่ต่างจากบทมเหสีคิมโซยง (Mr. Queen) และทนายจองอิน (Innocence) และสำหรับนักแสดงหญิงอีกคนที่ขโมยซีนได้ดีก็คือพัคเซวาน เป็นคาแรคเตอร์ที่สนุกน่ารักทีเดียว
แม้ว่าฉากสำคัญส่วนหนึ่งต้องเกิดในอุโมงค์ใต้ดิน แต่ผู้กำกับก็ทำให้ฉากพื้นที่แคบๆนั้นมีความน่าติดตาม สนุกตื่นเต้นได้ดีทีเดียว เมื่อรวมการร้อยเรียงเรื่องราวที่อาจเดาได้บ้างตามสูตรหนังปล้น และเดาไม่ได้บ้างเพราะไม่ทันคิด ก็เป็นจังหวะสนุกที่ทำให้ตามดูได้เพลินๆจนจบเรื่องค่ะ
Trailer :
ติดตามบทความและงานรีวิวอื่นๆ ของ WARUMANU ได้ที่https://www.facebook.com/MoviesAllDay.SeriesAllNight/