บทความนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญค่ะ จู่ ๆ วันหนึ่งมีคนขุดทวิตในแท็ก #เกาหลีสามัญชน ที่เราเคยเขียนไว้ตั้งแต่ดูซีรีส์ Hotel Del Luna (ซีรีส์ปี 2019) ขึ้นมารีทวิตเพียบ เนื้อหาในทวิตนั้นก็เกี่ยวกับ กูชานซอง พระเอกของเรื่อง ที่เกิดปี 1991 และมีอายุ 29 ปี พอลองเช็กดูว่ามีข่าวอะไรกันนะ ถึงทำให้ทวิตกลับมาป๊อบปูล่าร์ขนาดนี้ ก็เจอว่า หนุ่ม JB หรือ อิมแจบอม แห่งวง GOT7 ได้อัพ IG Story ในวันเกิดว่า “จะใช้ชีวิต 28 เพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้นนะครับ ปีหน้าก็จะข้ามไป 30 เลย ผ่านเลข 9 ไปโดยอัตโนมัติ” แฟนๆ บางคนอ่านแล้วก็ตีความว่า เจบี จะเปรยๆ ถึงการเข้ากรมหรือเปล่า แต่จริงๆ แล้วก็เป็นความเชื่อของคนเกาหลีเค้าน่ะค่ะ เขาถือว่าอายุลงท้ายด้วยเลข 9 เป็นช่วง “พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก” คล้ายๆ กับเบญจเพสบ้านเรา
นอกจากนี้ (คิดว่า) บทความนี้น่าจะออกควบคู่ไปกับ Korseries Podcast ตอนที่ 4 จึงขอนำเสนอเรื่อง “อาถรรพ์หมายเลข 4” ไปด้วยเลย เราจะมาดูกันว่า ลัคกี้นัมเบอร์ของชาวเกาหลี มีเลขอะไรบ้าง และเลขอะไรที่เขาพยายามหลีกเลี่ยง
รับฟัง Korseries Podcast EP.4 เมื่อคนเกาหลีกลัวเลข 4 และ JB ไม่อยากอายุ 29 ได้ทาง Spotify , Apple Podcasts , Google Podcasts
เกิดปี 1994 ขึ้นปีใหม่ก็อายุ 28 เลยเหรอ ?
เป็นแฟนคลับเกาหลี ไม่ใช่เรื่องง่าย เอาแค่ตอบว่า “ไอดอลที่เธอชอบอายุเท่าไหร่น่ะ” ก็มึนตึ๊บแล้วค่ะ ประเทศเกาหลีมีวิธีนับอายุแบบแปลกๆ ส่วนใหญ่เรามักจำว่า บวกอายุในท้องแม่เพิ่มขึ้นปีนึง แล้วเคยสงสัยกันบ้างมั้ยคะ ว่าทำไมให้บวกเพิ่มขึ้นตั้ง 1 ปี ไม่บวก 9 เดือน หรือ 10 เดือน ตามเวลาที่เราปฏิสนธิล่ะ ตามแนวคิดจริงๆ แล้ว อายุที่บวกขึ้น 1 ปี ไม่ใช่อายุในท้องแม่หรอกค่ะ แต่เป็นสัญลักษณ์ว่าเราได้ “ผ่านประสบการณ์ในปีนั้นๆ มาแล้ว” ยกตัวอย่างเช่น เกิดวันที่ 31 ธันวาคม 2020 ก็เท่ากับว่าอายุ 1 ขวบ เพราะได้ผ่านประสบการณ์การใช้ชีวิตในปี 2020 มาแล้ว พอวันรุ่งขึ้นเข้าไปสัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตปี 2021 ก็มีอายุ 2 ขวบเลย ทั้งที่ความเป็นจริง อายุแค่ 2 วันเท่านั้น คนเกาหลีไม่ได้นับอายุตัวเองเพิ่มขึ้นในวันเกิดนะคะ แต่นับตอนวันปีใหม่ ดังนั้นก็อย่าแปลกใจว่า ทำไมพอขึ้นปีใหม่ ดาราที่เกิดปลายปีหลายๆ คน บวกอายุตัวเองเพิ่มขึ้นไปตั้ง 2 ปีแน่ะ ความที่นับอายุเฟ้อแบบสุดๆ เลยส่งผลให้ พ่อแม่เกาหลีที่ให้กำเนิดลูกเดือนธันวาคมบางคน นิยมไปแจ้งเกิดลูกในเดือนมกราคมแทนค่ะ จะได้นับอายุช้าลงอีกหน่อย มีเวลาสั่งสมพัฒนาการ ไม่ต้องเข้าเรียนหรือเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมเร็วเกินเหตุ
แล้วอย่าง เจบี ที่เกิดวันที่ 6 มกราคม ปี 1994 ในปี 2021 เขาจะอายุเท่าไหร่กันน้า คำตอบคือ เค้าอายุ 27 แบบสากลตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม และอายุ 28 แบบเกาหลี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมค่ะ ปีนี้ยังเป็นปีที่เจ้าตัวมองว่าโอเคอยู่ แต่ปีหน้าที่อายุ 29 นี่สิ เขาบอกว่าอยากข้ามไป 30 เลย โถพ่อคุณ
อายุ 9, 19 , 29, 39 ระวังจะมีเคราะห์!!
เรื่องนี้คนไทยเก็ตสุดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ผ่านวัย 25 ปีมาแล้ว แทบไม่มีใครไม่โดนขู่ว่าจะมีเคราะห์ ให้ระวังตัว หรือบางคนเจอเรื่องซวยๆ เข้ามา ก็โดนมองว่าเกิดจาก “อาถรรพ์เบญจเพส” แต่พอผ่านอายุ 25 ไปได้ก็โล่งใจใช่มั้ยคะ ทว่าเบญจเพสของคนเกาหลีนี่สิ นางเวียนมาวอแวทุกๆ สิบปี เรียกได้ว่าถ้ามีอายุยืนถึง 100 ปี ก็จะเจอเบญจเพสถึง 10 ครั้ง
อย่างที่บอกไปแต่ต้นค่ะ คนเกาหลีกลัวอายุที่ลงท้ายด้วยเลข 9 (ซึ่งจริงๆ นับแบบสากลอาจจะเป็นอายุเลข 7 หรือ 8 ด้วยซ้ำ) ไม่ว่าจะเป็น 9 ขวบ , 19 ขวบ , 29 ขวบ , 39 ขวบ … และอื่นๆ เขามองว่าเป็นช่วงเวลาที่ขวัญเปลี่ยนเรือน ตัวเลขเปลี่ยนหลักค่ะ เมื่อถึงช่วงอายุเหล่านี้ จึงมักถูกทักว่าอย่าริทำการใหญ่ใดๆ เช่น แต่งงาน , เปิดกิจการใหม่ , ซื้อรถใหม่ , ย้ายบ้าน ฯลฯ เพราะอาจจะเจอเรื่องซวยๆ เข้าตัว เจบีเองก็คงอยากผ่านช่วงเวลาเซ็งๆ นั้นไปอย่างอัตโนมัติค่ะ
อาถรรพ์อายุเลข 9 (โดยเฉพาะอายุ 29) พบเจอได้ในซีรีส์หลายเรื่องเลย อย่าง Goblin ที่จะมียมทูตมาพบ จีอึนทัก (คิมโกอึน) ตอนอายุ 9 , 19 ขวบ และคิมชิน (กงยู) รู้ล่วงหน้าว่าเธอต้องตายตอนอายุ 29 , Hotel Del Luna กูชานซอง (ยอจินกู) พระเอกของเรามีดีกรี MBA จากฮาร์วาร์ด แต่กลับผีซ้ำด้ำพลอย มาเป็นผู้จัดการโรงแรมที่มีลูกค้าเป็นผี , หรือซีรีส์เก่าๆ อย่าง 9 Ends 2 Outs ก็เล่าถึงเรื่องราวของเพื่อนสองคนที่เช่าบ้านอยู่ด้วยกัน แต่ด้วยคำสาปอายุ 29 ของทั้งคู่นี่แหละ ทำให้เกิดสถานการณ์ “ผีผลัก” จากเพื่อนกลายเป็นแฟนซะงั้น … ซีรีส์เรื่องนี้ก็เหมือนมาแย้บๆ ว่า อย่ากังวลกับอายุ 29 ขนาดนั้น บางทีการถูกผีผลักก็ไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป แต่ก็ยังมีอีกเรื่องนึงค่ะ ที่มากระซิบเราว่าอายุอื่นๆ ก็ต้องระวัง นั่นคือซีรีส์ Plus 9 Boys เรื่องราวของสามพี่น้องและคุณอา ที่อายุ 9 , 19 , 29 , 39 แล้วชะตากรรมก็พาไปเจอเรื่องซวยๆ ตลอด จีบสาวก็แห้วไม่หยุดหย่อน
อายุเท่านี้ ถึงทีต้องฉลอง!
จริง ๆ ก็ไม่เชิงว่าโชคดีหรอกค่ะ แต่เป็นอายุที่คนเกาหลีจะจัดงานฉลองใหญ่ในชีวิต คือ อายุ 100 วัน , อายุ 1 ขวบปี (นับแบบสากล) , อายุ 60 ปี และถ้ามีอายุยืนยาวกว่านั้น ก็จะฉลองใหญ่อีกครั้งเมื่ออายุครบ 70 ปี
อายุ 100 วันสำคัญตรงไหน ก็ต้องขอเล่าก่อนว่า ในอดีตเกาหลีเคยเป็นประเทศทุรกันดาร สภาพอากาศโหดร้าย โรคภัยก็มาก เด็กที่ตายตอนเกิด หรือลืมตาดูโลกไม่กี่วันแล้วตายถือเป็นเรื่องปกติ คนเกาหลีก็เลยมีธรรมเนียมว่า 21 วันหลังคลอด ห้ามให้เด็กเห็นหน้าคนนอกครอบครัว และจะไม่นับว่าเด็กที่เกิดมาเป็นสมาชิกใหม่ของบ้าน จนกว่าจะชัวร์ว่า เด็กคนนี้มีชีวิตรอดแน่ๆ และหมุดหมายแรกแห่งความยินดีก็คือ 백일 잔치 แพกอิลจันชี “งานฉลองอายุครบ 100 วัน” เรียกว่าเป็นงานเปิดตัวสมาชิกใหม่ในครอบครัวอย่างเป็นทางการ ในสมัยก่อนเค้าจะถ่ายรูปนู้ดของลูกชายให้คนในงานได้เห็นด้วยนะคะ เป็นการประกาศว่าบ้านนี้มีลูกชายสืบสกุลแล้วจ้า แต่ปัจจุบันธรรมเนียมนี้ยกเลิกไป เนื่องจากกฎหมายคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก
หมุดหมายต่อไปคือการฉลองอายุครบ 1 ขวบปี (นับแบบสากลนะคะ) หรือพิธี 돌잔치 โทลจันชี อันนี้คนไทยน่าจะเคยเห็นบ่อยในซีรีส์ ความที่อัตราการตายของเด็กทารกสูงมาก การที่สามารถอยู่รอดมาได้ครบปี จึงเป็นเรื่องน่ายินดี งานนี้ยังเป็นพิธีฝากเนื้อฝากตัวลูกไว้กับ 삼신할머니ซัมชินฮัลมอนี (นางฟ้าแม่ทูนหัว) ด้วยนะ คนเกาหลีจะจัดงานฉลองใหญ่ให้ลูก มีของให้เด็กเลือกหยิบเสี่ยงทาย เพื่อทำนายอนาคตวันหน้า ถ้าเด็กเลือกหยิบเงิน หมายถึงโตไปจะเป็นเศรษฐี , เลือกหยิบหนังสือจะโตไปเป็นบัณฑิต , เลือกหยิบเส้นด้ายจะมีอายุยืนยาว เดี๋ยวนี้พ่อแม่บางบ้านมีของให้ลูกเลือกหยิบตามสมัยนิยมด้วยค่ะ อาทิ หยิบไมโครโฟนจะได้เป็นไอดอล หยิบหูฟังแพทย์จะได้เป็นหมอ ส่วนงานฉลองอายุครบ 60 ปี หรือที่บ้านเราเรียกงานแซยิด ก็จัดยิ่งใหญ่เหมือนกัน เป็นหมุดหมายที่น่ายินดี ในการมีชีวิตยืนยาว
เรื่องนี้ต้องขยาย เมื่อคนครึ่งเอเชียพากันกลัวเลข 4
กลับมาที่หัวข้อบทความกันค่ะ จะว่าไปอาการกลัวเลข 4 นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะคะ ถึงกับมีชื่อเรียกเป็นทางการว่า Tetraphobia แล้วก็ไม่ได้เป็นกับเฉพาะคนเกาหลีด้วย แต่ฝั่งเอเชียตะวันออกมีอาการนี้กันทั้งแถบ ไม่ว่าจะเป็น จีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ฮ่องกง ทิเบต เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย แม้กระทั่งมาเลเซีย ความที่เป็นประเทศใหญ่ประชากรเยอะทั้งน้าน เลยว่ากันว่า มีประชากร 1 ใน 3 ของโลกเลย ที่กลัวไม่อยากเห็นเลข 4 ไม่อยากมีเลข 4 ปะปนเข้ามาในชีวิต (คนไทยรอดจากอาถรรพ์นี้มาได้อย่างน่าอัศจรรย์ค่ะ 555 และดูเหมือนว่าจะไม่มีตัวเลขไหนที่คนไทยกลัวเป็นพิเศษ แม้เลข 6 หรือ 8 จะมีความหมายไม่ค่อยน่ารัก (หกล้ม , แปดเปื้อน) แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่จนต้องหลีกเลี่ยงซะหน่อย)
สาเหตุที่ทำให้คนพากันไม่ปลื้มเลข 4 ก็เพราะการออกเสียงของมันที่ไปพ้องกับคำว่า “ตาย” ในภาษาต่างๆ นี่แหละค่ะ เลข 4 ในภาษาเกาหลี อ่านว่า 사 (ซา) พ้องเสียงกับคำว่า “ตาย” 사 死 (ซา) ส่วนภาษาอื่นๆ ก็เช่น ซื่อ(4) สื่อ (ตาย) – สำเนียงจีนกลาง , สี่ (4) ซี้ (ตาย) – จีนแต้จิ๋ว , เสย (4) เสย (ตาย) – จีนกวางตุ้ง , ชิ (4) ชินุ (ตาย) – ภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น
ในประวัติศาสตร์เกาหลี มีรัชทายาทองค์หนึ่งพระนามว่า “ซาโด” ทรงขัดแย้งกับพระเจ้ายองโจ ผู้เป็นพระราชบิดาอย่างรุนแรง จนถูกตัดสินประหารชีวิตขังในกล่องไม้จนถึงแก่ความตาย ต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้าจองโจ (อีซาน) โอรสของรัชทายาทซาโด จึงได้เปลี่ยนพระนามหลุมศพพระบิดาเป็น “รัชทายาทจังฮอน” เพื่อหลีกเลี่ยงชื่อที่ฟังแล้วโศกเศร้า
คนเกาหลีกลัวเลข 4 แค่ไหนถามใจเธอดู
ก็ต้องบอกว่า ถ้าเทียบกับหลายๆ ประเทศที่กลัวเลข 4 ของเกาหลีถือว่ายังน้อยค่ะ ยังพอใช้ชีวิตร่วมกับเลข 4 ได้อยู่ บ้านเลขที่ 4 , ลิฟต์ชั้น 4 (บางทีก็เลี่ยงไปใช้คำว่าชั้น F) , ลิปสติกเบอร์ 4 แต่ว่าถ้ามีเลข 4 เยอะๆ จนผิดสังเกต เช่น อพาร์ตเมนต์ห้อง 404 เจ้าของตึกก็อาจจะข้ามไปค่ะ เพราะกลัวราคาตก แต่ในบางพื้นที่ที่เค้าซีเรียสเนี่ย เห็นเลข 4 ตำตาไม่ได้เลยนะคะ ภาพด้านล่างเป็นลิฟต์ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ที่ข้ามชั้น 4 ชั้น 14 ไปเลย แถมยังไม่มีชั้น 13 อีก เนื่องจากเมืองนี้ชาวตะวันตกเยอะ แล้วฝรั่งเค้าก็กลัวเลข 13 กัน
แต่ที่บอกว่าความกลัวเลข 4 ของคนเกาหลีนั้นเบๆ กว่าใครเพื่อน เอาเข้าจริงก็สายมูเตลูไม่น้อย
1. ในโรงพยาบาล และสถานที่ประกอบฌาปนกิจของเกาหลี ลิฟต์จะไม่มีชั้น 4 ค่ะ เป็นเคล็ดไม่ให้มีคนตายเพิ่ม
2. ในสนามบินอินชอน ไม่มีเกตหมายเลข 4 , 44 นอกจากนี้ก็ยังไม่มีเกต 13 และ 244 อีกด้วย
3. รถไฟเกาหลี ไม่มีหัวรถจักรหมายเลข 4444
4. ตึก 63 (รู้จักกันในซีรีส์ My Girl) มีชั้น 4 ก็จริง แต่ถัดจากชั้น 43 ก็ข้ามไป 45 เลย ไม่มีชั้น 44
5. สะพานข้ามเขื่อนโซยาง ที่เมืองชุนชอน มีชื่อว่า สะพานโซยาง 1 , สะพานโซยาง 2 , สะพานโซยาง 3 , สะพานโซยาง 5 และ สะพานโซยาง 6 ไม่มีสะพานหมายเลข 4
6. รหัสไปรษณีย์เกาหลีใต้ มี 5 หลัก แต่จะไม่ยอมให้มีรหัสเมืองไหน มีเลข 4 ถึง 4 ตัว (เช่น 14444 , 44440 จะไม่มี)
7. ดาวเทียมเกาหลีใต้ ตั้งชื่อว่า อารีรังเบอร์ 1 , อารีรังเบอร์ 2 , อารีรังเบอร์ 3 แล้วข้ามไปเป็น อารีรังเบอร์ 5 เลย
8. เรือดำน้ำ SS-065 Park Wi ที่จริงเป็นเรือลำน้ำลำดับ 4 ของกองทัพเกาหลี แต่ขอข้ามเลข 4 ไปใช้เลข 5 ดีกว่า
เลข 3 ความสมดุลดุจสวรรค์สร้าง ส่วนเลข 8 เฮงสุดๆๆ
มาถึงตัวเลขนำโชคของชาวเกาหลีกันบ้างค่ะ ถ้าไทยมีเลข 9 เป็นเลขนำโชค เพราะพ้องกับคำว่า “ก้าวหน้า” แล้วละก็… คนเกาหลีก็มีเลข 3 ค่ะ ถ้าใครได้อ่านบทความอันก่อนของเรา ว่าด้วยมาตรฐานความงามสไตล์เกาหลี คงจำกันได้ว่า ชาวเกาหลีให้ความสำคัญกับแนวคิดขงจื๊อใหม่ ศาสตร์แห่งความสมดุล และฮวงจุ้ย แบบสุดๆ ซึ่งเลข 3 นั้นเป็นผลรวมของ “หยินหยาง” (หยิน = 2 , หยาง = 1) เป็นตัวเลขที่ทำให้โลกดำเนินไปอย่างสมดุล อาทิเช่น 해·달·별 พระอาทิตย์-พระจันทร์-ดวงดาว , 상·중·하 บน-กลาง-ล่าง , หรือแม้แต่ 환인·환웅·단군 ฮวันอิน-ฮวันอุง-ทันกุน* บรรพบุรุษชาวเกาหลีค่ะ
(* คนเกาหลีเชื่อว่า บรรพบุรุษของตนเกิดขึ้นจาก “หมี” เทพฮวันอินเจ้าแห่งสวรรค์ ส่งลูกชายชื่อเทพฮวันอุงมาดูแลเขาแพกตูซาน มีเสือกับหมีอยากเป็นคน เทพฮวันอุงจึงให้ทั้งคู่บำเพ็ญเพียรในถ้ำ เสือตบะแตก ส่วนหมีทนได้ จึงเสกให้หมีกลายเป็นหญิงงาม ชื่อว่า นาง อุงนยอ นางอุงนยอกับเทพฮวันอุง ได้มีลูกชายด้วยกัน ชื่อ ทันกุนวังกอม ต่อมากลายเป็นปฐมกษัตริย์แห่งแคว้นโคโจซอน เป็นต้นกำเนิดแห่งสายเลือดชาวเกาหลีทั้งปวง และเขาแพกตูซานซึ่งในปัจจุบันอยู่ในประเทศเกาหลีเหนือ ก็กลายเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์มาจนเดี๋ยวนี้)
อีกหนึ่งตัวเลข ที่คนเกาหลีเชื่อว่าลัคกี้สุดๆ คือเลข 8 ค่ะ อันนี้รับความเชื่อจากทางจีนมาเต็มๆ ว่าเลข 8 เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและโชคดี ลูกบ้านไหนเกิดวันที่ตกเลข 8 ก็จะถือว่าเป็นผู้มีบุญมาเกิด เช่นเชื่อกันว่า G-Dragon หรือ ควอนจียง แห่ง BIGBANG เฮงตั้งแต่เลือกมาเกิดวันที่ 18 เดือน 8 ปี 1988 แล้ว แถมในชื่อยังมีคำว่า ยง 용 龍 (มังกร) ยิ่งเสริมความเฮงเป็นทวีคูณ คนเกาหลีนิยมจัดงานมงคล เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ในวันที่มีเลข 8 ค่ะ และหลีกเลี่ยงที่จะไม่จัดมงคลในวันที่ 4 , 14 , 24
727 ทะเบียนรถสหายผู้กองที่คนเกาหลีเหนือต้องตะลึง
คนดูซีรีส์ Crash Landing On You ยังจำฉากที่ผู้กองรีจองฮยอก ขับรถทะเบียน 729 เข้ามาในหมู่บ้านแล้วคนตกใจกันหมดได้ใช่มั้ยคะ ทำไมเลขนี้ถึงสร้างความฮือฮาขนาดนี้ ทำไมเห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บเลยว่ายิ่งใหญ่แค่ไหน ซึ่งก็ต้องบอกว่า ของจริงไม่ใช่เลขนี้หรอกค่ะ แต่เป็น 727 ต่างหาก นี่คือทะเบียนรถประจำตำแหน่งของทหารระดับสูงเกาหลีเหนือ และถ้ามีดาวแดงด้วยก็หมายถึง นี่คือรถของทหารองครักษ์ท่านผู้นำคิมจองอึนค่ะ (แน่นอนว่ารถของสหายผู้กอง มีดาวแดงด้วย) เลข 727 มีความสำคัญกับชาวเกาหลีเหนือมากๆ เนื่องจากวันที่ 27 กรกฎาคม ตรงกับวันรำลึกถึงการประกาศชัยในมหาสงครามปลดปล่อยปิตุภูมิ 조국해방전쟁 승리 기념일 หรือเรียกง่ายๆ ก็คือ วันครบรอบประกาศหยุดยิงของสงครามเกาหลี ปี 1953 นั่นเอง วันนี้เป็นวันหยุดราชการ และมีขบวนพาเหรดยิ่งใหญ่ เนื่องจากเป็นวันที่มีความละเอียดอ่อนมากในความรู้สึกชาวเกาหลีทั้งฝั่งเหนือใต้ เราจึงคิดว่าทางผู้ผลิตซีรีส์เขาเลยเลี่ยงไม่ใช้ตัวเลขตรง ๆ แต่ก็ยังอยากขิงในความวีไอพีของคุณรีจองฮยอกอยู่ดี
จะว่าไปคนเกาหลีใต้เค้าก็ไม่ได้กลัวเลข 9 นะคะ ถ้าไม่ใช่เลขลงท้ายอายุ ออกจะชอบด้วยซ้ำไป เพราะว่า เลข 9 ในภาษาจีน 九 (จิ่ว) ไปพ้องเสียงกับคำว่า 久 (จิ่ว) ที่แปลว่า “ยืนยาว” แต่ชอบแค่ไหนก็ไม่เท่าฝั่งเกาหลีเหนือหรอกค่ะ ชาวเกาหลีเหนือเชื่อว่าเลข 9 เป็นเลขมหัศจรรย์ ตอนที่สร้างประเทศมีการเรียกคนทรงเจ้าทั้ง 8 จังหวัดมาประกอบพิธี คนทรงทั้ง 8 พูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า สายเลือดของท่านผู้นำคิมอิลซองนั้น ผูกพันกับเลข 9 จึงจัดให้วันที่ 9 เดือนกันยายน เป็นวันสถาปนาประเทศ
ยังมีอีกหลายทฤษฎีสมคบคิดว่า เลข 9 ผูกพันกับท่านผู้นำ เช่น หน่วยบัญชาการทหารสูงสุด บอดี้การ์ดของผู้นำตระกูลคิม มีชื่อหน่วยว่า 963 (6+3 = 9 จึงเป็นหน่วย Double Nine เพิ่มความปังถึงสองเท่า) มาถึงรุ่นลูก ท่านผู้นำคิมจองอิล คนนี้เกิดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค่ะ 1+6+2 เท่ากับ 9 , วันที่คิมจองอิลก้าวขึ้นตำแหน่งสูงสุดทางทหาร 24 ธันวาคม 2+4+1+2 ก็เท่ากับ 9 อีก
ทางด้านผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน คิมจองอึน เขาเปิดตัวกับบทบาทในกองทัพครั้งแรกเมื่อ 27 กันยายน (2+7=9 และเดือน 9 เท่ากับตัวเลข Double Nine เฮงคูณสองอีกแล้ว) แม้แต่ตอนเกาหลีเหนือทดสอบยิงนิวเคลียร์ ตอนแรกตั้งใจว่าจะทำในวันเกิดท่านผู้นำคิมจองอึน แต่สุดท้ายก็เลยตัดสินใจยิงในวันที่ตกเลข 9 ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรก วันที่ 9 ตุลาคม , ครั้งที่สอง 5 เมษายน 2009 (5+4=9 และปี 09) , ครั้งที่สาม 12 ธันวาคม 2012 (1+2+1+2+1+2 = 9) หรือแม้แต่การทดลองนิวเคลียร์ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ (20)13 (1+2+2+1+3 = 9) ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ ตระกูลผู้นำคิม นี่สายมูเตลูจัดจ้านมาก
สมัยมัธยม วิชาเลขไม่ค่อยเป็นมิตรกับเราเท่าไหร่ แต่วันนี้กลับรู้สึกสนุกมากที่ได้เล่าเรื่องตัวเลขมูเตลูๆ ของเกาหลี อ่านแล้วรู้สึกยังไง ส่งฟีดแบ็กมาที่แอคทวิตเตอร์ @bluesherbet_ กันบ้างนะคะ
อ่านบทความอื่น ๆ ของนักเขียน
True Beauty ถอดรหัสความสวยแบบเกาหลีผ่านประวัติศาสตร์
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡