It’s Okay to Not Be Okay ถือว่าเป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่ได้รับการจับตามองเป็นอย่างสูงในปี 2020 นี้ ซึ่งก่อนจะได้รับชมการออกอากาศของซีรีส์เรื่องนี้พร้อมกันในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้ นักแสดงนำของเรื่อง คิมซูฮยอน – ซอเยจี ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ ในงานอีเว้นท์ออนไลน์ที่จัดโดย Netflix ภายในวันเดียวกันกับที่จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ในเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่ง Korseries เป็นหนึ่งในสื่อมวลชนที่เข้าร่วมงานดังกล่าว เราจึงขอนำบทสัมภาษณ์พิเศษนี้มาให้กับชาวคอซีรีส์ เพื่อให้ได้ทำความรู้จักผลงานนี้มากยิ่งขึ้น
คาแรคเตอร์ที่คุณแสดงในซีรีส์เรื่องนี้เป็นอย่างไร ช่วยแนะนำให้เราได้รู้จักกันสักหน่อย
ซอเยจี : ฉันรับบทเป็น ‘โกมุนยอง’ นักเขียนหนังสือนิทานสำหรับเด็กที่มีบุคลิกลักษณะต่อต้านสังคม (anti-social) และมีความผิดปกติทางบุคลิกภาพ (personality disorder) เธอขาดความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น และมีความเย็นชา แต่เมื่อได้พัฒนาความสัมพันธ์กับใครสักคน เธอก็ค่อย ๆ เริ่มเยียวยาตัวเอง และเกิดความเปลี่ยนแปลงค่ะ
คิมซูฮยอน : ผมรับบท ‘มุนคังแท’ ต่อหน้าคนอื่น เขาเป็นคนที่ดูแข็งแกร่งกว่าใคร ๆ แต่เมื่อเขาอยู่คนเดียว เขากลับกลายเป็นคนอ่อนแออย่างที่สุด อย่างไรก็ตามผมหวังว่าคุณจะมีความสุขที่ได้ชมตัวละครของผม
ขอ 3 คำ ที่สามารถอธิบายคาแรกเตอร์ตัวละครที่คุณแสดง
คิมซูฮยอน : ‘ซังแท’ (ชื่อพี่ชายในเรื่อง) / ‘มังแท’ (บางสิ่งบางอย่างที่จะเปิดเผยในซีรีส์) / ‘ดองแท’ (หมายถึง หมูแห้ง หรือปลาแห้ง ของเกาหลี ซึ่งเป็นความเชื่อด้านธรรมชาติบำบัดของเกาหลีว่าสิ่งนี้จะช่วยรักษาเยียวยาอาการฝันร้าย หรือปัดเป่าสิ่งอันตรายได้)
ซอเยจี : ‘รองเท้าส้นสูงสีแดง’ / ‘ผีเสื้อ’ / ‘ความรัก’
การเข้าฉากและร่วมงานกันของคุณทั้ง 2 คน เป็นอย่างไรบ้าง?
คิมซูฮยอน : ตอนเริ่มต้นของซีรีส์นี้ มันเหมือนเป็นการพบกันของคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนครับ มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากในตอนแรก เมื่อเราค่อย ๆ เริ่มเข้าบทบาทของ มุนคังแท และ โกมุนยอง เราต้องใช้เวลาทำงานด้วยกันเยอะมาก เราก็ค่อย ๆ รู้สึกผ่อนคลาย เป็นกันเองมากขึ้น เรามีเคมีที่เข้ากันได้ ผมหวังว่าผู้ชมจะสามารถสัมผัสเคมีของเราจากซีรีส์เรื่องนี้ได้ครับ
ซอเยจี : วันแรกที่เราเจอกัน เขาเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นมาก ๆ ค่ะ เราเข้ากันได้ดี ฉันคิดว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีที่สุดที่ฉันเคยทำงานด้วยค่ะ
ความประทับใจแรกของคุณเมื่ออ่านบทซีรีส์เรื่องนี้คืออะไร? แล้วคุณตื่นเต้นกับอะไรมากที่สุด?
คิมซูฮยอน : ตอนที่อ่านบทครั้งแรก ผมรู้สึกถึงความยาก ถ้าคุณได้ชมซีรีส์เรื่องนี้แล้วคุณก็น่าจะคิดแบบผมนะครับ คาแรกเตอร์มีความหลากหลาย ตัวละครแต่ละตัวมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง รวมไปถึงเรื่องราวของความรักด้วย แต่ไม่ว่าคุณจะมองจากมุมมองไหน ผมหวังว่าสุดท้ายแล้วคุณจะชอบเรื่องนี้นะครับ
ซอเยจี : เมื่อฉันอ่านบท ฉันไม่เคยเห็นคาแรกเตอร์ตัวละครแบบโกมุนยองในซีรีส์เกาหลีเรื่องไหนมาก่อนเลยค่ะ ตอนอ่านบทฉันรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เพราะ โกมุนยอง เป็นคนที่ไม่เข้าใจความรู้สึกของคนอื่น เห็นแก่ตัว เธอเหมือนเป็นดาบที่ทำร้ายทั้งตัวเองและคนรอบข้าง แต่ในขณะเดียวกัน ฉันถูกดึงดูดด้วยตัวละครตัวนี้ เธอเป็นคนก็มีอะไรในตัวเยอะมาก ฉันเชื่อว่าถ้าฉันสามารถถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ข้างในตัวโกมุนยองออกมาได้หมด จะทำให้เรื่องราวสมบูรณ์มากขึ้นค่ะ
อะไรทำให้คุณตัดสินใจที่จะแสดงในผลงานนี้ ?
ซอเยจี : เรื่องนี้เรามีผู้กำกับ พัคชินอู ที่เก่งมากค่ะ ทางด้านนักเขียนบทก็เก่งมาก สามารถสร้างคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจ และผูกเรื่องราวได้อย่างเหลือเชื่อมาก ๆ ค่ะ ฉันเลยไม่มีทางเลือก นอกจากจะตกลงร่วมงานกับพวกเขา แล้วยังมี คิมซูฮยอน ซึ่งเป็นนักแสดงที่ใคร ๆ ก็อยากร่วมงานด้วยทั้งนั้น ดังนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะปฏิเสธละครเรื่องนี้เลยค่ะ
คิมซูฮยอน : หลังจากอ่านบท ผมรู้สึกเจ็บปวดใจ ผมรู้สึกว่ามันเป็นความท้าทายในการแสดง ที่จะถ่ายทอดความเจ็บปวดนั้นออกมา นอกจากนี้ ในด้านกระบวนการทำงาน ผมอยากเห็นตัวเองเปลี่ยนแปลงในด้านที่เป็นมนุษย์ ในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่ง นอกเหนือไปจากในซีรีส์ นี่เป็นอีกความท้าทายที่ผมอยากจะเห็นกับตัวเองครับ
ซีรีส์เรื่องนี้ท้าทายแนวความคิดในเรื่องของ “ความปกติธรรมดา” ในขณะเดียวกัน ก็สะท้อนว่าคนส่วนใหญ่มีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง คุณช่วยบอกเล่าถึงลักษณะเฉพาะบางประการเกี่ยวกับตัวคุณได้หรือไม่?
คิมซูฮยอน : หลังออกจากกรมมา ผมมีแข็งแกร่งขึ้นมากทั้งทางร่างกาย และ จิตใจ มีพื้นที่ส่วนตัว และ ประสบการณ์มากขึ้น มีทัศนคติที่ชัดเจนขึ้นกับการแสดง ผมว่าผู้ชมที่เคยชมผลงานของผมมาก่อนหน้านี้น่าจะสัมผัสได้ครับ
ซอเยจี : สำหรับบทของโกมุนยอง เมื่อศึกษาลงไปลึกๆ แล้ว ฉันคิดว่าเธอมีลักษณะบางอย่างคล้ายแม่มดเลยค่ะ ฉันจึงโฟกัสไปที่ตรงนี้ รวมถึงการใช้เสียงต่ำ ออร่าบางอย่าง ช่วยให้ฉันเข้าถึงคาแรกเตอร์ความเป็นแม่มดภายในได้ดียิ่งขึ้น การแสดงเรื่องนี้ ทำให้ฉันได้รับประสบการณ์ ทั้งการเยียวยาจิตใจ และได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองมากขึ้นด้วยค่ะ
คุณรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้กลับมาแสดงซีรีส์อีกครั้ง หลังออกจากปลดประจำการ ?
คิมซูฮยอน : ซีรีส์เรื่องนี้นับเป็นเรื่องแรกหลังจากที่ผมออกจากกรม และผมรู้สึกยินดีมากๆ ที่ It’s Okay To Not Be Okay เป็นซีรีส์เรื่องแรกของผม เมื่อตอนอยู่ในกรมผมรู้เลยว่าผมคิดถึงงานแสดงมากแค่ไหน เรื่องนี้ผมพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้มันออกมาดีที่สุดครับ
มุนยอง เป็นตัวละครที่มีบุคลิกค่อนข้างแรง ซึ่งถูกอธิบายว่าเป็นบุคลิกลักษณะต่อต้านสังคม (anti-social) คุณรู้สึกอย่างไรกับการที่ต้องรับบทเป็นตัวละครที่มีลักษณะดังกล่าว ซึ่งแตกต่างจากลักษณะของตัวละครหญิงทั่วไป?
ซอเยจี : สำหรับโกมุนยอง คุณจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดไปพร้อมเธอ แต่ในขณะเดียวกันคุณก็จะได้รับการเยียวยาไปพร้อมเธอด้วยค่ะ คอนเซ็ปต์ของการที่เธอไม่แคร์ ไม่เข้าใจความรู้สึกของคนอื่น มันเหมือนเป็นพลังของตัวละครนี้ เมื่อคุณร่วมเดินทางไปกับเธอ ผ่านความยากลำบาก ผ่านการกระทำ ผ่านอดีต ผ่านความผิดหวัง หรือ แม้แต่อนาคต คุณจะเริ่มคิดถึงและเข้าใจความรู้สึกของคนรอบข้างมากขึ้นค่ะ
คุณเตรียมตัวอย่างไรบ้างในการมารับบท คังแท ?
คิมซูฮยอน : ผมต้องการถ่ายทอดถึงความเจ็บปวดทั้งหมดที่มุนคังแทมี ผมหวังให้ผู้ชมสามารถสะท้อนภาพและเชื่อมโยงกับตัวเองได้ครับ
ในการเตรียมตัวมารับบท มุนยอง คุณได้มีการศึกษาอ้างอิง ถึงภาพยนตร์ / ละคร หรือตัวละครอื่น ๆ ด้วยหรือไม่? ถ้าไม่ คุณมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
ซอเยจี : หลังจากที่ฉันได้ศึกษาคาแรกเตอร์ของคนที่มีลักษณะต่อต้านสังคมหรือมีความผิดปกติทางบุคลิกภาพ ฉันได้ข้อสรุปว่า โกมุนยองมีเอกลักษณ์และมีความเป็นตัวของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร ฉันได้พยายามถ่ายทอดมันออกมา ผ่านการแต่งหน้า ทำผม คอสตูม ที่ใคร ๆ ก็ต้องบอกว่าแปลกและไม่ปกติ เป็นแฟชั่นที่แปลกประหลาด ซึ่งฉันพยายามไม่โฟกัสไปที่ความเป็นแฟชั่นนิสต้าของเธอ แต่เป็นความคิดข้างในมากกว่า เพราะลักษณะภายนอกที่เราเห็นทั้งหมด มันเป็นการแสดงออกอย่างสุดโต่งของตัวละครนี้ ซึ่งจุดประสงค์ของการแต่งตัวไม่ใช่การอวดหรือโชว์ออฟ แต่เพื่อเป็นการปกป้องความเป็นตัวเองมากกว่าค่ะ
ในละครเรื่องนี้ มุนคังแท มีทัศนคติต่อพี่ชาย มุนซังแท ที่เป็นออทิสติก อย่างไร?
คิมซูฮยอน : เมื่อมุนคังแทอยู่กับพี่ชาย เขาจะทำตัวเหมือนเป็นพี่ชาย พยายามเป็นคนที่โตกว่า เป็นผู้ใหญ่กว่า ต้องเก็บความรู้สึก แต่เมื่อมุนคังแทมาเจอกับโกมุนยอง จุดนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของเขา เขาจะมีความเป็นเด็ก แสดงออกอย่างที่อยาก เขากล้าที่จะบ่นสิ่งต่างๆ ต่อหน้าโกมุนยอง ด้วยครับ
คุณคิดว่าสไตล์ส่วนตัวของคุณมีความคล้ายคลึงหรือแตกต่างกันอย่างไร?
ซอเยจี : ฉันชอบแต่งตัวแนวแคชชวล อะไรก็ได้ที่คุณสามารถหาและหยิบจากในบ้านได้เลย สำหรับฉัน ความสบายมาก่อนค่ะ
เทพนิยายที่คุณชื่นชอบที่สุดเมื่อโตขึ้นคือเรื่องอะไร?
คิมซูฮยอน : ‘Anne of Green Gables’ ครับ ผมโตมาตอนที่เรื่องนี้มันกลับมาฉายใหม่ ผมเลือกเรื่องนี้ก็แล้วกัน
ซอเยจี : นิทานสอนใจสำหรับเด็กของเกาหลี เรื่อง ‘Golden Axe & Silver Axe’ ที่สื่อถึงความโลภของผู้ใหญ่ ซึ่งสุดท้าย ความโลภจะทำให้สูญเสียทุกอย่างที่มี ฉันเลือกเรื่องนี้ เพราะรู้สึกมีความเกี่ยวข้องกับตัวละครโกมุนยองที่มีความโลภค่ะ
คุณอยากให้ผู้ชมได้อะไรจากการดูซีรีส์เรื่องนี้?
ซอเยจี : ฉันเชื่อว่า ผู้ชมแต่ละคนมีประสบการณ์ในชีวิตไม่เหมือนกัน แต่ละคนก็จะได้สัมผัสประสบการณ์จากการรับชมต่างกันไป แต่สิ่งสำคัญคือ ‘การเยียวยาจากความเจ็บปวด’ ซึ่งสิ่งนี้คือคีย์เวิร์ดของซีรีส์เรื่องนี้ก็ว่าได้ค่ะ คุณจะโกรธ คุณจะเยียวยา คุณจะหัวเราะ และคุณจะมีความสุขไปด้วยกันค่ะ
คิมซูฮยอน : แม้ว่าเราทุกคนจะมีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เป็นสากลจากซีรีส์เรื่องนี้ คือ ‘วิธีการที่เรารัก’ ‘วิธีการที่เรานึกถึงและห่วงใยคนสำคัญในชีวิต’ สิ่งที่เป็นสากลเหล่านี้ ผมเชื่อว่าผู้ชมจะเชื่อมโยงกับมันได้ครับ
มีอะไรอยากจะฝากถึงแฟน ๆ ที่รอชมเรื่องนี้บ้าง
คิมซูฮยอน : ขอบคุณทุกท่านที่สนใจซีรีส์เรื่องนี้นะครับ หวังว่าทุกคนจะเพลิดเพลินไปตลอดการเดินทางของตัวละคร ได้เห็นตัวตนของตัวเองสะท้อนผ่านตัวละครในเรื่อง และค้นพบสิ่งสำคัญของชีวิตนะครับ
ซอเยจี : ผู้ชมจะได้เปิดประสบการณ์และเยียวยาตัวเองไปพร้อม ๆ กับตัวละคร หวังว่าทุกคนจะชอบและมีความสุขไปกับซีรีส์เรื่องนี้นะคะ
It’s Okay to Not Be Okay เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกเยียวยาจิตใจ ที่เล่าเรื่องราวของ มุนคังแท (รับบทโดย คิมซูฮยอน) เจ้าหน้าที่แผนกจิตเวชที่ไม่เชื่อในความรัก เขาเติบโตขึ้นมาพร้อมภาระอันหนักหน่วงในการต้องเป็นเสาหลักของบ้าน ทั้งยังต้องดูแลพี่ชายที่เป็นออทิสติก และ โกมุนยอง (รับบทโดย ซอเยจี) นักเขียนหนังสือเด็กชื่อดังที่แม้ว่าเธอจะเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมาย แต่ความจริงแล้วเธอเป็นโรคต่อต้านสังคม ไม่เคยสนใจความรู้สึกของคนอื่น รวมทั้งไม่รู้จักความรัก และเมื่อทั้งสองได้โคจรมาพบกัน บาดแผลทางจิตใจของทั้งคู่ต่างได้รับการเยียวยาซึ่งกันและกันไปทีละน้อย
มีกำหนดออกอากาศต่อจากซีรีส์ When My Love Blooms ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เริ่มตอนแรกในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ เวลา 21.00 น. ตามเวลาเกาหลี ทางช่อง tvN สามารถรอติดตามชมซับไทยถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ Netflix โดยมีชื่อภาษาไทยว่า “เรื่องหัวใจไม่ไหวอย่าฝืน”
รับชมตัวอย่างซีรีส์ It’s Okay to Not Be Okay เรื่องหัวใจไม่ไหวอย่าฝืน ได้ที่คลิปด้านล่างนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง
คิมซูฮยอน – ซอเยจี กับเคมีที่เปล่งประกาย บนเวทีงานประกาศรางวัล 56th Baeksang Arts Awards
คิมซูฮยอน – ซอเยจี เผยเคมีที่น่าติดตามผ่านโปสเตอร์ซีรีส์ใหม่ It’s Okay to Not Be Okay
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries