นักแสดงหนุ่ม คิมซูฮยอน ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นครั้งแรก ในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากที่เป็นประเด็นร้อน จากกรณีความสัมพันธ์กับนักแสดงสาว คิมแซรน ผู้ล่วงลับ ที่เกี่ยวข้องกับการจากไปของเธอ โดย เจ้าตัวได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง พร้อม ทนายคิมจงบก ตัวแทนทางกฎหมายของเขา
ในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นในวันที่ 31 มีนาคม คิมซูฮยอน ได้เริ่มต้นด้วยการกล่าวขอโทษ และเนื้อหาหลัก ๆ ในการออกมาแถลงในครั้งนี้ เจ้าตัวได้ยืนยันด้วยตัวเองว่าเขาไม่ได้คบหาดูใจกับคิมแซรนตอนที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ โดยเผยว่าเขาได้คบหากับคิมแซรน เมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งก็คือ 4 ปีก่อนที่ซีรีส์ Queen of Tears จะออกอากาศ และได้เอ่ยถึงการปฏิเสธข่าวความสัมพันธ์ในช่วงที่ซีรีส์ Queen of Tears ออกอากาศว่า เป็นการปฏิเสธเพราะเป็นความรับผิดชอบในฐานะนักแสดงนำ
“นอกจากพวกเราทั้งคู่จะเป็นนักแสดงแล้ว ผมและผู้ล่วงลับก็เป็นคู่รักธรรมดาเหมือนคนทั่วไป เราคบกันด้วยความรู้สึกดี ๆ และเมื่อเวลาผ่านไปเราได้เลิกรากัน หลังจากนั้น ผมก็แทบไม่ได้ติดต่อเธอเลย การติดต่อกันหลังจากเลิกกันแล้วเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเหมือนกับคู่รักส่วนใหญ่ นอกจากนี้ พวกเราทั้งคู่ก็เป็นนักแสดงที่เป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก และในช่วงที่ผู้ล่วงลับยังอยู่ภายใต้สังกัดเดียวกับผม ผมก็พอจะรู้ความเป็นไปของเธออยู่บ้าง ทำให้ผมยิ่งระมัดระวังที่จะติดต่อเธอ
ดังนั้น เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุเมาแล้วขับ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผมจะติดต่อเธอ ผมได้ยินจากช่องยูทูบที่เป็นตัวแทนของครอบครัวผู้ล่วงลับ ว่าตัวแทนของผู้ล่วงลับพูดว่า ‘ในช่วงที่เกิดอุบัติเหตุเมาแล้วขับ ผู้ล่วงลับลำบากใจเพราะผม’ แต่ผมทราบว่าในช่วงนั้นเธอกำลังพบกับคนอื่นอยู่ ดังนั้น การที่ผมจะติดต่อเธอในสถานการณ์เช่นนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง”
คิมซูฮยอน ได้อธิบายเหตุผลที่ปฏิเสธข่าวลือความสัมพันธ์ จากภาพถ่ายที่คิมแซรน อัปลงสตอรี่ Instagram ว่า “และก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน ที่เมื่อผู้ล่วงลับได้โพสต์รูปถ่ายของเธอกับผมในช่วงที่ซีรีส์ Queen of Tears ออกอากาศอยู่ ผมกับผู้ล่วงลับคบกันประมาณ 1 ปี เมื่อ 5 ปีก่อน หรือ 4 ปี ก่อนที่ Queen of Tears จะออกอากาศ อย่างไรก็ตามในเวลานั้น ผมปฏิเสธข้อเท็จจริงเรื่องความสัมพันธ์ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้คนจะวิพากษ์วิจารณ์
ผมกลายเป็นนักแสดงและได้รับความรักอย่างมากมาย เดิมทีผมไม่ใช่คนที่มีอะไรมากมาย แต่ผมกลายเป็นคนที่ต้องปกป้องสิ่งต่าง ๆ มากมาย ในช่วงที่ ‘Queen of Tears’ ออกอากาศ ผมมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องปกป้องในฐานะนักแสดงนำ ถ้าผมยอมรับความสัมพันธ์กับคนที่ผมเคยคบเมื่อหลายปีก่อน จะเกิดอะไรขึ้นกับผม นักแสดงที่ร่วมงาน ทีมงานทุกคนที่ทำงานทั้งคืนในกองถ่าย บริษัทผลิตที่ทุ่มเททุกอย่างให้กับซีรีส์เรื่องนี้ และทีมงานบริษัทของผม ทุกครั้งที่ทางเลือกของ ‘คิมซูฮยอนคนธรรมดา’ และ ‘คิมซูฮยอนที่เป็นดารา’ ขัดแย้งกัน ผมมักจะเลือกทางเลือกของ ‘คิมซูฮยอนที่เป็นดารา’ เสมอมา ดังนั้นผมจึงกลัวอยู่ทุกวัน ผมกลัวว่าทุกสิ่งที่ผมเลือกเพื่อปกป้องในฐานะ ‘คิมซูฮยอนที่เป็นดารา’ จะกลับมาทำร้ายผม ทุกอย่างน่ากลัวไปหมด แต่ถ้าผมย้อนเวลากลับไปในช่วงที่ ‘Queen of Tears’ ออกอากาศ ผมก็จะเลือกแบบเดิมอยู่ดี
ผมไม่สามารถทำได้ (ยอมรับความสัมพันธ์) ผมจะตัดสินใจตามใจตัวเองเพียงเพื่อความสบายใจของตัวเองได้เหรอครับ ผมคิดทบทวนดูแล้ว ผมไม่ควรทำแบบนั้น นั่นคือความรับผิดชอบที่คนที่เลือกชีวิตของ ‘คิมซูฮยอน’ ในตอนนี้ต้องแบกรับ หากคุณวิจารณ์การตัดสินใจนี้ว่าขี้ขลาดหรือเห็นแก่ตัว ผมก็จะยอมรับมันทั้งหมด และผมขอโทษทุกคนที่รักผมด้วยครับ”
คิมซูฮยอน ยังได้ยืนยันว่า ภาพที่ครอบครัวของคิมแซรนบอกว่าถ่ายเมื่อปี 2016 เป็นภาพจากปี 2019 และ หลักฐานข้อความแชท Kakaotalk ที่เปิดเผยนั้นมีการแก้ไขแล้วนำมาใช้เป็นหลักฐาน รวมไปถึงคำให้การและหลักฐานปลอมที่อ้างถึงความสัมพันธ์ของเขากับคิมแซรน โดย คิมซูฮยอน กล่าวว่า “ครอบครัวผู้ล่วงลับเพิ่งจัดงานแถลงข่าวเพื่อเปิดเผยบทสนทนาใน KakaoTalk ระหว่างผมกับผู้ล่วงลับ โดยช่องยูทูบนั้นได้ใช้บทสนทนาใน KakaoTalk เมื่อปี 2016 เป็นหลักฐานในการใส่ร้ายว่าผมเป็นพวกชอบเด็กและล่อลวงเด็ก อย่างไรก็ตาม บุคคลที่พูดคุยกับผู้ล่วงลับในบทสนทนาใน KakaoTalk เมื่อปี 2016 และ 2018 เป็นคนละคนกัน เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้ ผมได้ส่งบทสนทนาใน KakaoTalk ของผมในปี 2016 และ 2018 รวมถึงในปีนี้ ไปยังหน่วยงานตรวจสอบที่ดำเนินการวิเคราะห์ข้อความทางวิทยาศาสตร์ ผลก็คือ หน่วยงานได้สรุปว่าบุคคลในปี 2016 และ 2018 ไม่ใช่คนคนเดียวกัน
ผมจะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้ทุกสิ่งที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตนำเสนอเป็นหลักฐานได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนโดยหน่วยงานสืบสวน เช่นเดียวกับที่ผมได้ดำเนินการตรวจสอบ KakaoTalk หากหลักฐานที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตมีเป็นความจริง ผมขอให้พวกเขาส่งข้อมูลทั้งหมดไปยังหน่วยงานสืบสวนและรับการตรวจสอบผ่านกระบวนการทางกฎหมาย”
ในส่วนเรื่องการกดดันให้ชำระหนี้ คิมซูฮยอน ได้เปิดเผยบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ ระหว่าง Gold Medalist กับตัวแทนของคิมแซรนคนสุดท้าย เพื่อยืนยันว่า ทางฝั่งเขาไม่ได้กดดันหนี้สินกับคิมแซรน และกล่าวว่า “หลังจากที่มีการเปิดเผยเรื่องราวใหม่ ๆ ออกมา บุคคลนี้บอกว่าบริษัทของเราส่งหนังสือแจ้งหนี้ครั้งที่ 2 ไปยังผู้ล่วงลับเกี่ยวกับหนี้สิน แต่ในการสนทนากับตัวแทนของบริษัทเมื่อ 1 ปีก่อนกลับพูดในทางที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง”
คิมซูฮยอน ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมมีคนที่พึ่งพาผม และคนที่ผมต้องรับผิดชอบ แม้ในขณะนี้ ผมเห็นคนเหล่านั้นเจ็บปวดและล้มลงทุกวัน ผมกลัวว่าพวกเขาจะเปิดเผยและบิดเบือนอะไรอีกในวันนี้ และตราหน้าผมว่าเป็นฆาตกร เมื่อการแถลงข่าวนี้จบลง ผมไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำลายชื่อเสียงของผมและสร้างความเจ็บปวดให้กับคนรอบข้างด้วยหลักฐานปลอมและคำให้การปลอมแบบไหนอีก แต่ถ้าผมพูดเรื่องเท็จว่าเป็นความจริงเพราะความกดดัน ผมจะทรยศต่อทุกคนที่มอบความเชื่อมั่นและความรักให้กับคิมซูฮยอนในฐานะนักแสดง เช่นเดียวกับคิมซูฮยอนในฐานะคน ๆ หนึ่ง สำหรับผู้คนเหล่านั้น พวกเขาจะต้องเจ็บปวดไปตลอดชีวิตที่รู้ว่าพวกเขาชอบคนไร้ค่า และถูกคิมซูฮยอนหลอกลวง ไม่ว่าผมจะเป็นคิมซูฮยอนที่สวมหน้ากากในฐานะคนดัง ผมก็ทำเช่นนั้นไม่ได้ สิ่งที่ผมทำคือสิ่งที่ผมทำ ผมสามารถรับคำวิจารณ์ใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนั้นได้ แต่สิ่งที่ผมไม่ได้ทำคือสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ สำหรับทุกคนที่ยังคงเชื่อในตัวผม ผมต้องการที่จะเปิดเผยสิ่งนั้น ผมจะไม่ขอให้คุณเชื่อในตัวผม ผมจะพิสูจน์มันให้ได้ครับ”
นอกจากนี้ ทางตัวแทนทางกฎหมายของคิมซูฮยอน ยังได้พูดถึงการดำเนินการทางกฎหมาย โดยได้ยื่นฟ้องคดีหมิ่นประมาทต่อครอบครัวของคิมแซรน บุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นป้าของคิมแซรน รวมถึงช่องยูทูบ Garo Sero Institute ซึ่งในวันนี้ได้มีการยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายรวมกว่า 12,000 ล้านวอน (หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 277 ล้านบาท) ที่ศาลกลางกรุงโซลเรียบร้อยแล้ว
ก่อนหน้านี้ ฝ่ายครอบครัวของคิมแซรนได้จัดงานแถลงข่าว เปิดเผยเนื้อหาข้อความบนมือถือที่ คิมแซรน และ คิมซูฮยอน พูดคุยกันในปี 2016 ซึ่งได้รับการกู้คืนผ่านการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เนื้อหาการสนทนาที่คิมแซรนคุยกับคนรู้จักในปี 2024 และจดหมายที่คิมแซรนเขียนในปี 2024 แต่ไม่ได้ส่งให้คิมซูฮยอน เพื่อเป็นหลักฐานในการยืนยันความสัมพันธ์ว่า คิมซูฮยอน ได้คบหากับคิมแซรน ตั้งแต่ที่เธอยังเป็นผู้เยาว์
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡