หากใครเป็นแฟนตัวยงของซีรีส์เกาหลีคงจะทราบกันดีว่า วงการซีรีส์เกาหลีไม่ได้มีดีเพียงซีรีส์โรแมนติก ขายความรักหวานฉ่ำชวนใจเต้น ที่โด่งดังไปทั่วโลกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ปัจจุบันวงการซีรีส์ได้พัฒนาการนำเสนอ ด้วยเนื้อหาที่เปิดกว้าง หลากหลายแนว หลากหลายสไตล์ ให้ผู้ชมได้เลือกรับชม จนเป็นประเทศที่วงการซีรีส์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีซีรีส์จำนวนไม่น้อยที่หยิบยกเรื่องปัญหาการบ้านการเมือง ที่ซุกไว้ใต้พรม มานำเสนอ ในรูปแบบสื่อให้ความบันเทิงกันอยู่ให้เห็นเป็นจำนวนมาก Korseries จึงมาเปิดลิสต์ซีรีส์ที่ว่าด้วยประเด็นทางการเมือง ซึ่งมีทั้งตีแผ่อย่างเข้มข้นบาดลึกชวนติดตาม ไปจนถึงเสียดสีค่อนแคะอย่างแสบสันปนฮามาให้ดูกัน โดยจะมีเรื่องอะไรบ้าง ตามไปดูกันได้เลย
My Fellow Citizens (KBS,2019)
ประเดิมเรื่องแรกด้วยซีรีส์สายฮาแนวอาชญากรรมคอเมดี้ ดูง่าย สบาย ๆ ที่สอดแทรกความเสียดสีจิกกัดการเมืองเล็กน้อยพอแสบ ๆ คัน ๆ ในคราบความตลกโปกฮา กับเรื่องราวของคู่แต่งงานที่ต่างปิดบังอาชีพที่แท้จริงของกันและกันของ ยังจองกุก (รับบทโดย ชเวชีวอน) นักต้มตุ๋นมากประสบการณ์ซึ่งไม่เคยถูกตำรวจจับได้มาก่อนและโกหกแฟนสาวว่าทำธุรกิจส่วนตัว ผู้จับพลัดจับผลูเข้าไปเป็นสมาชิกรัฐสภา กับ คิมมิยอง (รับบทโดย อียูยอง) ตำรวจสาวที่เคยมีอดีตฝังใจว่าแฟนเก่าของเธอไม่ชอบอาชีพนี้ที่เธอเป็น เมื่อเธอมีความรักครั้งใหม่เธอจึงปิดบังไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอทำอาชีพอะไร ความแตกต่างกันสุดขั้วของเขาและเธอที่มาพร้อมกับการโกหกกัน จึงนำทั้งคู่ไปสู่การเกี่ยวพันกันในคดีหนึ่ง
แล้วอะไรล่ะคือความแตกต่างระหว่างนักต้มตุ๋นและนักการเมือง? โดยในซีรีส์เรื่องนี้จะสะท้อนให้เห็น เบื้องหลังการรับสินบนของส.ส. การล็อบบี้ของนายทุน กับความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ หลังม่านวงการการเมืองเดิม ๆ ของประชาชนผู้ที่ถูกโชคชะตาฟ้าลิขิต จับพลัดจับผลูให้เข้าไปอยู่ในระบบอันดำมืด
รับชม My Fellow Citizens ได้ที่ VIU และ Netflix
Vagabond (SBS,2019)
มาต่อกันด้วยซีรีส์แนวแอคชั่น-ทริลเลอร์ฟอร์มยักษ์เรื่องฮิตปี 2019 จากช่อง SBS ที่เรียกได้ว่าลุ้นสุดติ่ง กับการต่อสู้สุดระทึก ที่มีปมปัญหาเบื้องหลังเกี่ยวเนื่องกับการเมืองเน้น ๆ โดยซีรีส์จะเล่าเรื่องของ ชาดัลกอน (รับบทโดย อีซึงกิ) สตั๊นแมนหนุ่ม ที่วันหนึ่งหลานชายของเขาได้รับเชิญให้เป็นหนึ่งในทีมนักกีฬาเทควันโดเพื่อร่วมแสดงงานอีเว้นท์สำคัญระหว่างประเทศโมร็อกโกกับเกาหลีใต้ แต่ทว่าเกิดเหตุโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกเสียชีวิตยกลำ ทำให้เขาต้องเสียหลานชายไปตลอดกาล เมื่อความโกรธแค้นขุ่นเคือง เป็นสิ่งผลักดันทำให้เขาค่อย ๆ พบเงื่อนงำไม่ชอบมาพากลของเหตุเครื่องบินตกที่อาจมีใครบางคนบงการอยู่เบื้องหลัง เขาจึงตัดสินใจทุ่มชีวิตเพื่อตามหาความจริง จนได้พบกับ โกแฮรี (รับบทโดย ซูจี) เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งทั้งคู่ได้พยายามค้นหาความจริงในมุมมืด จนสาวไปถึงการคอร์รัปชั่นระดับชาติ และความโสมมเน่าเฟะของรัฐบาลเกาหลี
ซีรีส์เรื่องนี้ดำเนินไปอย่างรวดเร็วพลิกผันสะท้อนให้เห็นเกมการเมือง การใช้อำนาจของเหล่าผู้นำ การดิ้นรนเพื่อความยุติธรรมของประชาชน เมื่อประชาชนกลายเป็นหมากในเกมของเบื้องบนผู้ได้ผลประโยชน์ จากน้ำตา และการสูญเสียของผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างหน้าซื่อตาใส ด้วยคำพูดมดเท็จ หลอกลวง ซึ่งความจริงแล้ว รัฐบาลเลือกที่จะหันหลังให้กับประชาชน
รับชม Vagabond ได้ที่ Netflix
Designated Survivor 60 Days (tvN,2019)
เมื่อคำว่า ‘การเมือง’ มักจะตีคู่มากับคำว่า ‘ผู้นำ’ เราจึงมาลุยกันต่อกับซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องผู้นำ อำนาจ และคำนิยามของนักการเมือง ในซีรีส์รีเมคจากอเมริกันเรื่อง Designated Survivor กับเรื่องราวพลิกชีวิตของ พัคมูจิน (รับบทโดย จีจินฮี) รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม ที่ต้องกลายเป็นประธานาธิบดีเกาหลีอย่างไม่คาดคิด ด้วยเหตุระเบิดที่รัฐสภา ที่ทำให้ผู้นำประเทศ และรัฐมนตรีเสียชีวิตทั้งหมด เหลือเพียงแต่เขา ที่เผอิญไม่ได้อยู่ในที่แห่งนั้น กลายเป็นผู้รอดชีวิต จึงต้องรับหน้าที่ ‘รักษาการประธานาธิบดี’ ของประเทศในสภาวะฉุกเฉิน เป็นเวลา 60 วัน เพื่อหามือวางระเบิด และบริหารจัดการประเทศจนไปกว่าจะจัดการเลือกตั้งได้ประธานาธิบดีและคณะรัฐบาลใหม่เสร็จสิ้น โดยในเวอร์ชั่นเกาหลีนี้จะเพิ่มความเข้มข้นให้เข้ากับบริบท ด้วยการเมืองในแถบคาบสมุทรเกาหลี และความตึงเครียดในประเด็นการเมืองระหว่างเพื่อนบ้าน เกาหลีเหนือ และญี่ปุ่นร่วมด้วย
ซีรีส์เรื่องนี้เผยให้เห็นถึงปัญหาการบ้านการเมืองที่อีรุงตุงนัง ท่ามกลางเขี้ยวเล็บที่ซ่อนไว้ของเหล่าเสือสิงห์ในแวดวงการเมือง กับการเล่นแง่แหย่เชิงเพื่อกุมอำนาจกัน อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่ชวนอภิปรายภาวะความเป็นผู้นำ อำนาจ และการเป็นคนในครรลองคลองธรรมเมื่อมีอำนาจ ในระบอบการเมือง ด้วยตัวละครผู้ไม่ประสาทางการเมืองที่ต้องใส่หัวโขนรับบทบาทประธานาธิบดี กับการเป็นหัวเรือใหญ่ของประเทศที่ควรอยู่เคียงข้างความถูกต้องและประชาชน
รับชม Designated Survivor 60 Days ได้ที่ Netflix
The Lies Within (OCN,2019)
ซีรีส์แนวทริลเลอร์ ที่สายสืบสวนต้องลอง ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวของ โจแทชิก (รับบทโดย อีมินกิ) ตำรวจฝ่ายสืบสวนที่ต้องมารับคดีอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดกับนักการเมือง แต่กลายเป็นว่าการสืบสวนคดีเริ่มใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเรื่องราววนเวียนอยู่รอบ ๆ คิมซอฮี (รับบทโดย อียูยอง) ลูกสาวของนักการเมืองที่เสียชีวิตกะทันหัน เธอจึงลงสมัครชิงตำแหน่งทางการเมือง สืบทอดต่อจากพ่อ โดยทั้ง 2 ตัวละครหลักจะทำงานร่วมกันฝ่าฟันไปกับ ความเงียบ และ คำโกหก ของหลากหลายคนที่พยายามจะปกป้องสิ่งที่ตัวเองต้องการซ่อนไว้
โดยซีรีส์เรื่องนี้จะค่อย ๆ เปิดเผยปมที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะมีเอี่ยวกับเรื่องอะไรอย่างไรบ้างนั้นต้องติดตามกัน
รับชม The Lies Within ได้ที่ Netflix
Chief Of Staff /Chief Of Staff 2 (JTBC,2019)
เมื่อพูดถึงซีรีส์การเมืองก็จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ไปไม่ได้กับ Chief Of Staff ที่ได้ส่งเรื่องราวเกมการเมืองอันน่าติดตามมาให้ดูกันแล้วถึง 2 ซีซั่น โดยเล่าถึงเกมกลยุทธ์สุดเชือดเฉือนห้ำหั่นประหัดประหารกัน บนเส้นเรื่องของสมาชิกรัฐสภาที่มีหน้าที่บริหารประเทศด้วยกฎหมาย และการควบคุมตรวจสอบการบริหารประเทศ ซึ่งควรทำเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน แต่เนื่องด้วยการขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงขึ้น ความโลภความต้องการก็เพิ่มขึ้น ดั่งอำนาจนั้นช่างหอมหวาน จึงเกิดเรื่องราวการตีสองหน้าของคนในแวดวง เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ส่วนตน และการไต่เต้าไปสู่เป้าหมายเพื่อช่วงชิงอำนาจ พร้อมทั้งคิดกลวิธีที่ใช้กลเกมเพื่อให้อยู่รอด ด้วยมันสมองอันบรรเจิดของกลุ่มทีมงานมืออาชีพที่เรียกกันว่า ‘มือขวา หรือ Chief of Staff’ เรียกได้ว่าความเข้มข้นเกี่ยวกับประเด็นการเมืองเรื่องนี้คือจัดหนักจัดเต็ม!
รับชม Chief Of Staff ทั้ง 2 ซีซั่น ได้ที่ Netflix
Into The Ring (KBS,2020)
มาถึงเรื่องสุดท้าย หลายคนอาจจะสงสัยว่าโปสเตอร์ใบปิดมาหวานแหววซะขนาดนี้ จะไปเอี่ยวเกี่ยวกับเรื่องการเมืองได้อย่างไร ต้องบอกเลยว่าซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่เสียดสีการเมืองท้องถิ่น ด้วยการจิกกัดปนฮา ดูง่าย ดูเพลิน เบาสมองแต่ไม่ไร้สาระ กับเรื่องราวของ กูเซรา (รับบทโดย นานะ) หญิงสาวผู้ชอบช่วยเหลือผู้คนในการจัดการปัญหาต่าง ๆ จนกลายเป็นราชินีลูกช่างฟ้อง ไม่ว่าจะเป็นการยื่นเอกสาร หาแนวทางแก้ไขปัญหา ทำให้เธอไม่มีงานประจำทำเสียที จนเธอได้ตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาเขต เพื่อปฏิวัติตนเองและเปลี่ยนแปลงชุมชนให้ดียิ่งขึ้น และเธอก็ได้มาพบกับ ซอคงมยอง (รับบทโดย พัคซองฮุน) ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ทำงานประจำสำนักงานเขตท้องถิ่น เรื่องราวความรักป่วน ๆ ของพวกเขาจึงเริ่มต้นขึ้น โดยซีรีส์เรื่องนี้จะเสียดสีพูดถึงการโกง การทุจริตในการเมืองท้องถิ่น ที่ทำความเข้าใจง่าย และไม่เครียด แตกต่างจากภาพของซีรีส์การเมืองอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง
รับชม Into The Ring ได้ที่ VIU
แถม The Last Empress / An Empress’s Dignity (SBS,2018)
ขอมอบเรื่องนี้เป็นเรื่องแถมที่พูดถึงประเด็นการเมืองที่ไม่ได้อยู่ในสภาหรือภาคประชาชนเช่นเรื่องอื่น ๆ แต่ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ดราม่าตลาดแตก ว่าด้วยการสมมติจำลองเอาว่าหากเกาหลีใต้ยังคงปกครองโดยยังมีโครงสร้างของราชวงศ์กษัตริย์ ที่เล่าเรื่องราวของ อีฮยอก (รับบทโดย ชินซองรก) จักรพรรดิผู้เป็นที่รักของประชาชน ผู้เพรียบพร้อมไปด้วยภาพลักษณ์ที่ดูดี ความสามารถรอบด้าน และนิสัยโอบอ้อมอารี ซึ่งเป็นภาพที่ประชาชนเห็น เขาจึงเป็นคนโปรดของราษฎร รวมไปถึง โอซันนี่ (รับบทโดย จางนารา) หญิงสาวนักแสดงละครเวที แฟนตัวยงของฝ่าบาท ที่โชคชะตาพาฝันที่ไม่กล้าฝันให้เป็นจริง เมื่อเธอได้จับพลัดจับผลู กลายองค์จักรพรรดินี เคียงข้างอีฮยอก ซึ่งนำพาให้เธอได้เข้าไปพบกับความจริงของราชวงศ์จอมปลอมที่เน่าเฟะถึงแกนใน และได้เข้าไปพัวพันกับเรื่องราวที่สั่นคลอนบัลลงก์ จนอาจจะนำมาซึ่งการเสื่อมสลายของระบอบกษัตริย์ในเกาหลีใต้
ซีรีส์หลากรสเรื่องนี้จะพาผู้ชมได้เห็นถึงความเละเทะวุ่นวายของเหล่าชนชั้นเจ้าขุนมูลนาย ที่เรียกได้ว่าสกปรกโสมม ต่างจากเบื้องหน้าที่ประชาชนได้เห็น กับเบื้องหลังที่ร้ายกาจ และใช้อำนาจตามใจชอบ ปกปิดความผิด เสวยสุขกับผู้ช่วยส่วนพระองค์ อีกทั้งยังมีเรื่องการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น และการพัวพันกับปมการจากไปของอดีตพระมเหสีที่ช่วยกระตุ้นให้เรื่องราวมีความน่าค้นหามากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ซีรีส์ยังตีแผ่ถึงการใช้โฆษณาชวนเชื่อหรือ Propaganda ให้ประชาชนเกิดความภักดีต่อราชวงศ์เกาหลี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่เนื้อหาเข้มข้นชวนติดตามกับความโกลาหลในวังหลวงจนกลายเป็นซีรีส์ม้ามืดกระแสดี ที่แม้ว่าจะบกพร่องในเรื่องของความสมเหตุสมผลไปหลายจุด แต่ก็ถือว่าเป็นซีรีส์ที่มอบความบันเทิงได้อย่างดีเยี่ยมจนเมื่อหลงกดเข้าไปดูแล้ว ก็เล่นทำเอาผู้ชมวนเวียนติดอยู่ในวังกันจนกว่าจะจบเรื่องไปเป็นแถบ ๆ เลยทีเดียว
รับชม The Last Empress / An Empress’s Dignity ได้ที่ VIU และ Netflix
จบกันไปแล้วสำหรับการเปิดลิสต์ซีรีส์ที่ว่าด้วยประเด็นทางการเมือง หลากหลายแบบหลากหลายแนวเลยทีเดียว ซึ่งจะเห็นได้ว่าในวงการบันเทิงสื่อของเกาหลีใต้นั้น มีการพูดถึงประเด็นทางการเมืองหลากหลายแง่มุม ในการตีความนำเสนอเนื้อหารวมไปถึงแนวซีรีส์ที่แตกต่างกันไป ขนาดซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้ที่เราเห็นกันทั่วไป ยังมีการพูดถึงเรื่องการเมือง หรือใช้การเมืองท้องถิ่นเป็นธีมหลักของเรื่อง ซึ่งนอกจากในลิสต์นี้แล้วยังมีผลงานอีกมากในเกาหลีใต้ที่หยิบยกประเด็นการเมืองมาพูดถึงอยู่เสมอ แม้จะเป็นเพียงฉากสั้น ๆ ก็ตาม
และยิ่งไปกว่านั้น ในซีรีส์ย้อนยุคที่ไม่ได้กล่าวถึงในลิสต์นี้ ส่วนมากก็มีปมปัญหาของละครก็เป็นเรื่องเกมการเมืองของผู้มีอำนาจทั้งสิ้น รวมไปถึงการผลิตซีรีส์อิงเรื่องราวประวัติศาสตร์การเมืองสังคมของเกาหลีที่นำมาฉายซ้ำในมุมใหม่ ให้คนรุ่นหลังได้ซึมซับเรียนรู้การต่อสู้ดิ้นรน โดยจะเห็นได้ว่าสื่อบันเทิงของเกาหลีนั้น ทำให้การเมืองเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวประชาชนและแตะต้องได้ เรื่องต่อไปวงการซีรีส์จะมาตีแผ่ประเด็นอะไร ด้วยวิธีการนำเสนอแบบไหนให้เราดูอีกนั้น คงต้องติดตามรอดูกัน
ใครที่ยังไม่ได้ดูเรื่องไหน อย่าลืมเก็บลงลิสต์ ไปตามดูกันนะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
มาแล้ว! เปิดลิสต์ซีรีส์เกาหลีมาใหม่ที่น่าปักหมุดดู ประจำเดือนสิงหาคม 2020
6 ซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกที่สายหวานควรเก็บให้ฟินจิกหมอนเต็มที่ก่อนข้ามปี 2019
รางวัลการันตี! รวมซีรีส์ยอดเยี่ยม (Best Drama) ปี 2010-2020 จากเวที Baeksang Arts Awards
ซีรีส์เกาหลีที่ดำเนินเรื่องโดยตัวละคร พ่อ-แม่เลี้ยงเดี่ยว
จัดเต็ม! 12 ซีรีส์เกาหลีแนวการแพทย์ ที่สนุกครบรส ได้ทั้ง ความรู้ และ ความฟิน
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries