แม้จะมีตารางงานและตารางทัวร์คอนเสิร์ตรัดตัวขนาดไหน แต่ศิลปินหนุ่มมากความสามารถจากวง GOT7 อย่างหนุ่ม พัคจินยอง ที่ล่าสุดเพิ่งมีผลงานการแสดงซีรีส์เรื่อง He is Psychometric ก็ยังหาเวลาแวะมาหาอากาเซ่ไทยในงาน He is Psychometric Drama Fan Meeting in Bangkok with Park Jinyoung (GOT7) เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา งานนี้ถือว่าเป็นแฟนมีตติ้งเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทยของจินยองอีกด้วย จึงมีอากาเซ่ชาวไทยไปร่วมสร้างความทรงจำดีๆ กับศิลปินหนุ่มมากความสามารถคนนี้กว่า 4,300 คน เรียกได้ว่าเต็มความจุของยูเนี่ยนฮอลล์เลยทีเดียว
เริ่มต้นงานด้วยเพลงคุ้นหูอย่าง ‘ไกลแค่ไหนคือใกล้’ แม้จะเป็นเพลงไทยแต่จินยองก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง เพราะร้องออกมาด้วยสำเนียงภาษาไทยที่ชัดเป๊ะ จากนั้นโบ ธนากร พิธีกรของงานก็เริ่มต้นงานอย่างเป็นทางการด้วยการให้จินยองกล่าวทักทายอากาเซ่ชาวไทย คงเป็นเพราะหนุ่มๆ GOT7 มีโอกาสมาทำงานที่เมืองไทยอยู่บ่อยๆ จินยองก็เลยทักทายและพูดคุยกับแฟนๆ ชาวไทยด้วยภาษาไทยที่สำเนียงฟังง่าย แถมยังพูดภาษาไทยโต้ตอบกับพิธีกรจนเรียกเสียงหัวเราะจากแฟนๆ ได้ตลอดทั้งงาน
กิจกรรมแฟนมีตติ้งในครั้งนี้มีคอนเซปต์หลักจากซีรีส์เรื่อง He is Psychometric ที่จินยองรับบทเป็น อีอัน พระเอกของเรื่อง อีอันเป็นชายหนุ่มที่มีพลังพิเศษ สามารถล่วงรู้ความลับของคนผ่านการสัมผัส เขาจึงได้ใช้พลังที่มีในการแก้ไขคดีและกำจัดคนร้าย
กิจกรรมในงานจึงเป็นเล่าถึงเรื่องราวเบื้องหลังและบรรยากาศในการทำงานที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อนจากของพระเอกหนุ่มมากความสามารถ ซึ่งสิ่งที่แฟนๆ สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนคือความมุ่งมั่น ทุ่มเท และความพยายามของจินยองเพื่อให้ผลงานการแสดงเรื่องนี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
จินยอง เล่าว่าเขาเปรียบซีรีส์เรื่องนี้เป็นเหมือนกับ ‘คุณครู’ เพราะตลอดเวลาที่ทำงานด้านการแสดง เขาพบว่าตัวเองยังมีข้อผิดพลาดและสิ่งที่ต้องพัฒนา จากซีรีส์เรื่องนี้ที่มีฉากที่ต้องเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครอย่างการร้องไห้ จินยองบอกว่าตัวตนจริงๆ ของเขาต่างออกไปจากคาแรกเตอร์ของตัวละครมาก ดังนั้นเพื่อให้แสดงออกมาได้สมบทบาทที่สุด จึงจำเป็นต้องทำการบ้านและเตรียมตัวอย่างหนัก แถมยังเล่าอย่างติดตลกว่าแฟนๆ ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเขาเล่นซีรีส์ดราม่าแล้วจะอินกับบทจนกลับไปเศร้าต่อ เพราะหลังถ่ายทำเสร็จพอกลับถึงบ้านเขาก็เหนื่อยมากจนแทบจะหลับอยู่ที่หน้าประตู
หลังเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับซีรีส์ให้แฟนๆ ฟังแล้ว กิจกรรมที่สร้างความประทับใจในงานยังคงเกิดขึ้นเรื่อยๆ อย่างการหาผู้โชคดีที่จะได้ไปใกล้ชิดกับจินยองบนเวที กิจกรรมนี้คัดเลือกจากแฟนคลับที่ทำหน้าตาและท่าทางเหมือนกับจินยองมากที่สุด ซึ่งกรรมการตัดสินผู้ชนะก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เพราะศิลปินหนุ่มมากความสามารถของเรารับหน้าที่เป็นคนตัดสินหาผู้ชนะด้วยตัวเอง และยังมีกิจกรรมที่ให้จินยองเลือกรูปภาพจากฉากของซีรีส์ที่ชอบที่สุด ซึ่งแต่ละภาพที่ทีมงานเลือกมาในช่วงนี้เป็นการรวบรวมรูปภาพของพระเอกหนุ่มในมุมต่างๆ ที่เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากแฟนๆ ได้เป็นอย่างดี
มาถึงช่วงท้าย อากาเซ่ชาวไทยได้จัดทำโปรเจคเล็กๆ ให้กับศิลปินที่พวกเขารักด้วยคลิปวิดีโอรวบรวมผลงานการแสดงของจินยอง ถึงตรงนี้จินยองดูคลิปวิดีโอไปพร้อมๆ กับรอยยิ้มอย่างเขินอาย เพราะแฟนคลับรวบรวมผลงานของเขาตั้งแต่ผลงานเรื่องแรกๆ เมื่อคลิปวิดีโอจบลง จินยองก็หันหลังมาพบกับข้อความที่แปลเป็นภาษาไทยว่า “การได้อยู่ข้างๆ จินยองคือความสุขของอากาเซ่” จินยองเองก็ถึงกับเรียกหาโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อถ่ายโปรเจคของแฟนๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีร่วมกับกับกลุ่มคนที่รักเขา
จินยองกล่าวข้อความสุดประทับใจให้แฟนๆ ฟังว่าในฐานะนักแสดง เขาไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้จัดงานแฟนมีตติ้งแบบนี้ แต่งานนี้ก็เกิดขึ้นจากความรักและการสนับสนุนของทุกคน ตลอดเวลากว่า 2 ชั่วโมงที่ได้อยู่ด้วยกัน เขารู้สึกเหมือนกับได้ยืมเวลาอันมีค่าของทุกๆ คนมา จึงอยากให้ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดี การได้รับชมคลิปวิดีโอที่แฟนๆ จัดทำขึ้น ทำให้เห็นว่าในฐานะนักแสดงยังมีอีกหลายอย่างที่เขาต้องพัฒนา แต่เพราะความรักและการสนับสนุนของทุกคน เขาจึงไม่กังวลและพร้อมจะเต็มที่เพื่อให้มีผลงานดีๆ ให้ทุกคนได้รับชมต่อไป
ก่อนจากกัน จินยอง ร้องเพลง The Day ผลงานเดี่ยวของตัวเองให้แฟนคลับฟังกันสดๆ เป็นครั้งแรก พร้อมบอกทิ้งท้ายเป็นภาษาไทยว่า “อากาเซ่ที่รัก เดี๋ยวผมจะกลับมาครับ ขอบคุณครับ” นอกจากจะสร้างเสียงกรี๊ดดังลั่นฮอลล์ อากาเซ่ไทยทุกคนที่อยู่ในงานต่างก็เต็มอิ่มไปด้วยความประทับใจจาก ‘พัคจินยอง’ ผู้ชายที่มุ่งมั่น ทุ่มเท และไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองต่อไป ทั้งในฐานะศิลปินและนักแสดง แล้วกลับมาหาอากาเซ่ไทยบ่อยๆ นะคะ
สำหรับที่ยังไม่ได้รับชมผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของนักแสดงพัคจินยอง สามารถรับชมซับไทย He is Psychometric แบบถูกลิขสิทธิ์กันได้ที่ VIU หรืออ่าน เรื่องย่อได้ที่นี่ รับรองรู้ตัวอีกทีคงจะตกหลุมรักเขาคนนี้เข้าให้อย่างแน่นอน~
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries