focus

True Beauty ถอดรหัสความสวยแบบเกาหลีผ่านประวัติศาสตร์

13/01/2021 - bluesherbet

focus true beauty through korean history

เชื่อว่าช่วงนี้สาวๆ หลายคนกำลังอินกับซีรีส์ True Beauty ที่สร้างจากเว็บตูนชื่อดัง “ความลับของนางฟ้า” กันอยู่ใช่ไหมคะ เรื่องราวของ อิมจูกยอง (รับบทโดย มุนกายอง) เด็กสาวมัธยมปลายที่ถูกเพื่อนบูลลี่ ด้วยสาเหตุที่ว่า “เธอไม่สวย” หลังผ่านเหตุการณ์ต่างๆ นานา อิมจูกยองก็ถูกเบิกเนตรด้วยเทคนิคการแต่งหน้าของเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์ ก่อนจะได้ย้ายโรงเรียนใหม่ ด้วยเวทย์มนตร์แห่งเมคอัพ ทำให้เธอสวยพริ้ง กลายเป็นดาวเด่นของโรงเรียนใหม่ไปเลย แถมยังมีหนุ่มสุดฮอต 2 คนมาชอบ ทั้ง อีซูโฮ (รับบทโดย ชาอึนอู) เทพบุตรสุดหล่อแสนเย็นชา และ ฮันซอจุน (รับบทโดย ฮวังอินยอบ) หนุ่มมอเตอร์ไซค์หล่อกร๊าวใจ เรื่องหัวใจว่าวุ่นวายแล้ว แต่เรื่องความงามกลับปวดหัวยิ่งกว่า อิมจูกยองต้องเก็บงำความลับไม่ให้ใครรู้ว่า ถ้าเช็ดเครื่องสำอางออก “หน้าสด” ของเธอ ก็ไม่ใช่นางฟ้าซักกะหน่อย

True Beauty tile

ซีรีส์ True Beauty พูดถึงความ “สวย-ไม่สวย” กันเป็นประเด็นหลักเลยค่ะ แต่ส่วนตัวเรามองว่า อิมจูกยองก็คือผู้หญิงธรรมดานี่แหละ แต่พอถึงวัยรุ่นก็มีสิวเห่อ หน้ามัน ตามฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านบ้าง จะเห็นได้ว่าเมื่อเธอหันมาใส่ใจตัวเอง รู้จักเทคนิคการแต่งหน้า ก็สวยได้โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรมเลย บิวตี้บล็อกเกอร์หลายๆ คนใช้ตรงนี้เป็นจุดขาย สร้างคอนเทนต์ให้ตัวเองด้วยซ้ำ และในสังคมจริงๆ ไม่ว่าคนเราจะมีรูปลักษณ์อย่างไร ก็ไม่ควรถูกปฏิบัติแย่ๆ ค่ะ อิมจูกยองเธอฝังใจว่า ถ้าไม่สวยจะถูกเพื่อนที่โรงเรียนบูลลี่ นั่นก็เพราะซวยไปอยู่ในสังคมที่มีแต่คนนิสัยแย่ๆ ลองคิดดูว่า ถ้ามอง อีซูโฮ ในฐานะว่าเป็นเพื่อนคนหนึ่งในโรงเรียน ซูโฮ เองก็ไม่ได้รังเกียจหน้าสดของ จูกยอง ซะหน่อยใช่ไหมล่ะ

ฟังพอดแคสต์แรกจาก Korseries Podcast หัวข้อ ‘Korseries ชวนคุยประเด็นความสวยความงามเกาหลีผ่านแง่มุมใน ประวัติศาสตร์-สมัยใหม่’ สามารถติดตามฟังกันได้ที่ Spotify , Google Podcasts , Apple Podcasts

จุดกำเนิดความงามแบบ “เกาหลี”

แม้โลกเดินทางมาถึงจุดที่มนุษยชาติเปิดใจรับความงามที่หลากหลาย ไม่ว่าจะรูปร่าง หน้าตา เชื้อชาติ สีผิว แต่อย่างไรก็ตาม ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีค่ะ ว่าแต่ละพื้นที่ยังมี “มาตรฐานความงาม” ของตัวเอง อย่างคนไทยสมัยก่อน นิยมเคี้ยวหมากจนฟันดำ , คนจีนยุคหนึ่งก็ชอบผู้หญิงเท้าเล็กๆ จนเกิดประเพณีรัดเท้า, บางประเทศชอบผู้หญิงอวบๆ เพราะสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ ถ้าอย่างนั้น ชาวเกาหลีล่ะ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พวกเขามีแนวคิดเกี่ยวกับความงามยังไง?

ก่อนอื่นต้องบอกว่า ประเทศเกาหลีรับอิทธิพลจากจีนมาไม่น้อยค่ะ โดยเฉพาะแนวคิดผ่านตัวอักษรจีน ในภาษาจีน คำว่า “สวย” 美 (เหม่ย) ประกอบด้วย 2 คำผสมกัน ด้านบน “แกะ” 羊 (หยาง) ด้านล่าง “ใหญ่” 大 (ต้า) เราเห็นอะไรจากคำนี้ไหมคะ? “แกะใหญ่” แปลว่า “สวย” ซึ่งความใหญ่ไม่ได้เกิดจากขนาดนะ แต่เกิดจาก “ขน” ที่ฟูฟ่องของมันต่างหากที่ทำให้ดูโดดเด้งออกมาจากฝูง นี่ก็เป็นแนวคิดคร่าวๆ ค่ะ ว่าความสวยเกิดจากความโดดเด่นจากหมู่เหล่า

มาที่ประเทศเกาหลีกันบ้าง ก่อนที่ศาสนาพุทธจะเข้ามา คนเกาหลี (รวมไปถึงเอเชียตะวันออกและอุษาคเนย์) เคย “บูชาผี” ค่ะ ความที่เชื่อว่าทุกสรรพสิ่งมีเทพสิงสถิตอยู่ ในน้ำมีพระแม่คงคา ในดินมีพระแม่ธรณี ในข้าวมีพระแม่โพสภ (คล้ายๆ กันกับไทยนี่แหละ แต่มีชื่อเรียกคนละแบบ) เมื่อจะหยิบท่านมาใช้สอย ก็ต้องดูแลท่านเป็นอย่างดี เช่น เอาดินเหนียวมาปั้นถ้วยโถโอชาม ก็ต้องบรรจงปั้นให้ประณีต เพื่อให้เทพีที่สถิตในดินเหนียวอำนวยพรให้ฟ้าฝนอุดมสมบูรณ์ ถ้าปั้นไม่สวยเทพจะมีน้ำโหค่ะ ต่อมาเมื่อพุทธศาสนาเข้ามาในอาณาจักรชิลลา มีการสร้างวัด เจดีย์ สถูป แน่นอนว่าช่างต้องทำให้สวยที่สุด เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา จะได้เข้าถึงนิพพาน ในยุคนั้นยังมี “หน่วยรบฮวารัง” กองทัพหนุ่มหน้าสวยที่ห้าวหาญในสนามรบ แต่เมื่อปรากฎตัวต่อหน้าฝูงชน พวกเขาจะถูกประดับประดาด้วยดอกไม้ นี่ก็น่าจะเป็นเทรนด์ “Flower Boy” รุ่นแรกๆ ของเกาหลี

Hwarang
ฮวารัง กองทัพหนุ่มสวยประดุจดอกไม้

ต่อมาในยุคโชซอน เกาหลีรับเอา “ลัทธิขงจื๊อใหม่” Neo-Confucianism เข้ามาเป็นหลักปฏิบัติอย่างเคร่งครัด (โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นสูง) ซึ่งแนวคิดนี้ให้ความสำคัญกับ “ความสมดุล/สมมาตร” เป็นพิเศษค่ะ สังเกตง่าย ๆ แม้แต่บนธงชาติเกาหลีใต้ก็ยังมีสัญลักษณ์หยินหยาง , สัตว์มงคลต่างๆ มังกร นกกระเรียน เสือ ก็มักทำออกมาเป็นคู่ เสมือนส่องกระจกกันและกัน , แม้แต่ ทันชอง (단청) ลวดลายดอกไม้บนหลังคา ก็ยังทำออกมาสมมาตร และเลือกใช้สีที่เป็นมงคล จากที่เล่ามาทั้งหมดนี่แหละค่ะ กลายเป็น “มาตรฐานความงามแบบเกาหลี” เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน รูปร่างหน้าตาสมมาตรได้สัดส่วน แต่งหน้าแต่งตัวอย่างประณีตบรรจง สุดท้ายต่อให้ทุกคนสวย ก็ต้องมีคนหนึ่งที่ “สวยเด้ง” ออกมาจากเพื่อนฝูง เดี๋ยวนี้คนเลยจริงจังกับตำแหน่ง “วิชวล” ในวงไอดอลกันเหลือเกิน ทั้งที่ไอดอลวงหนึ่งๆ ก็เป็นศูนย์รวมคนหล่อคนสวยที่คัดมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ในหมู่คนสวย ๆ ทั้งหลาย เรายังต้องเลือกใครสักคน เป็นตัวแทนคนสวยที่สุดขึ้นมาอีก เป็นประเทศที่การแข่งขันสูงจริงจริ๊ง

true beauty article 1
ภาพบน : สัญลักษณ์หยินหยางบนธงชาติเกาหลีใต้ | ล่างซ้าย : ชิลโจรยง มังกรคู่เจ็ดเล็บ ที่พระราชวังคยองบกกุง | ล่างขวา : ทันชอง

งามอย่างสาวโชซอน ต้องสวยให้ได้ 30 อย่าง

คนไทยอย่างเราคงเคยได้ยินคำว่า “เบญจกัลยาณี” ที่หมายถึง ความสวย 5 อย่าง คือ ผมงาม เนื้องาม ฟันงาม ผิวงาม วัยงาม ใช่ไหมคะ ลำพังจะสวยให้ยอมรับในสายตาคนไทยก็ลำบากแล้ว แต่ของเกาหลีเราต้องงามให้ครบถึง 30 ประการ ซึ่งเท่าที่ดู ๆ แล้วส่วนใหญ่ก็เกิดจากแนวคิดจัดวางอวัยวะให้สมมาตร สบายตา นั่นแหละค่ะ จากประสบการณ์เคยไปคลินิกเสริมความงามในเกาหลี คำแรกที่คุณหมอทักเลยก็คือ “ชอบเคี้ยวข้าวข้างขวาใช่ไหม แก้มขวาหย่อนกว่าแก้มซ้ายนะ” จากนั้นคุณหมอก็ฉีดโบท็อกซ์ที่แก้ม 2 ข้างด้วยจำนวนโดสที่ไม่เท่ากัน ถือเป็นเอกลักษณ์ความใส่ใจของศัลยแพทย์เกาหลีเลยค่ะ หรือในรายการ Let Me In ที่พาสาวไทยไปศัลยกรรมที่เกาหลี สังเกตว่าคุณหมอก็จะเน้นแก้ไขโครงสร้างใบหน้าที่ไม่สมมาตร ยาวไป ยื่นไป หรือเบี้ยวผิดรูป ให้เข้าที่ก่อน จากนั้นค่อยคิดถึงเรื่องเสริมให้สวยขึ้น

true beauty article mi in do
ภาพวาด มีอินโด โดยจิตรกรชินยุนบก | ภาพโปสเตอร์ภาพยนตร์ Portrait of a Beauty (미인도)

ทีนี้เรามาดูมาตรฐานความงามที่คนโชซอนใฝ่ฝันกันบ้าง อาจแตกต่างจากยุคปัจจุบันสักหน่อย ซึ่งไอคอนความงามของยุคโชซอน ก็คือภาพเขียน มีอินโด (미인도) ที่แปลว่า ภาพเขียนสาวงาม ของจิตรกรเอก ชินยุนบก ค่ะ

“ขาว 3 อย่าง” 삼백 (ซัมแป็ก) – ฟันขาว ใบหน้าขาว มือขาว
“ดำ 3 อย่าง” 삼흑 (ซัมฮึก) – นัยน์ตาดำ , ผมดำ , คิ้วดำ
“แดง 3 อย่าง” 삼홍 (ซัมฮง) – ริมฝีปากแดง , เล็บแดง , แก้มแดง
“ยาว 3 อย่าง” 삼장 (ซัมจาง) – ขายาว , ผมยาว , เล็บยาว
“สั้น 3 อย่าง” 삼단 (ซัมตาน) – หูสั้น(เล็ก) , ฟันสั้น(เล็ก) , เท้าสั้น(เล็ก)
“กว้าง 3 อย่าง” 삼광 (ซัมกวัง) – อกกว้าง , หน้าผากกว้าง , หว่างคิ้วกว้าง (หัวคิ้วไม่ชนกัน)
“แคบ 3 อย่าง” 삼협 (ซัมฮย็อบ) – ริมฝีปากแคบ(บาง) , เอวแคบ(บาง) , ส้นเท้าแคบ(บาง)
“อวบ 3 อย่าง” 삼비 (ซัมปี) – ไหล่อวบ(หนา) , หน้าอกอวบ , ต้นขาอวบ
“เรียว 3 อย่าง” 삼세 (ซัมเซ) – ผมเส้นเล็ก , นิ้วเรียว , ริมฝีปากเรียว
“เล็ก 3 อย่าง” 삼소 (ซัมโซ) – ศีรษะเล็ก , จมูกเล็ก , คางเล็ก

ในอดีตสวยยังไง ถึงได้เป็น “สะใภ้เกาหลี”

นกยูงรำแพนสวยๆ ปลามีครีบหางสีสดใส ยังดึงดูดใจให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าหาฉันใด ความงามของมนุษย์ก็ฉันนั้นแหละค่ะ ในยุคที่วิทยาศาสตร์ยังไม่เฟื่องฟู คนเกาหลีก็ใช้วิธีอนุมานว่า โหงวเฮ้งแบบนี้แหละ น่าจะมีอายุยืนยาว เขาเชื่อว่าผู้หญิงที่ภายนอกสวย มักจะมี “เครื่องใน” สมบูรณ์ด้วยล่ะค่ะ อย่างเช่น ปากแดง แก้มแดงเพราะมีธาตุไฟสมดุล มือเท้าไม่เย็นแสดงว่ามดลูกอบอุ่น พร้อมจะมีลูกได้ ในพิธีคัดเลือกมเหสีหรือสนมสมัยโชซอน สตรีที่มีริมฝีปากม่วงคล้ำ ผิวซีดเซียว ดวงตาตีบเล็ก จะตกรอบก่อนใครเพื่อน เนื่องจากเป็นคุณสมบัติที่ (คนสมัยนั้นติ๊ต่างว่า) อวัยวะภายในไม่สมดุล ส่วนชาวบ้านถิ่นทุรกันดาร ก็ต้องการสะใภ้ที่มีแผ่นหลังหนาและแข็งแรง จะได้ช่วยทำไร่ไถนา หาของป่า หรือกระเตงลูกไปหาบน้ำบนเขาท่ามกลางพายุหิมะ และจากนี้ไป คือคุณสมบัติคร่าวๆ ของ “ลูกสะใภ้ดีเด่น” ที่แม่สามีเกาหลีเสาะหาค่ะ

true beauty article daughter in law
      1. คิ้วยาวตรง หักเฉียง รับกับหน้าผากแบนราบและเรียบเนียน
      2. สะโพกใหญ่และกว้าง สอดรับกับท้องที่ใหญ่
      3. น้ำเสียงสุขุม บ่งบอกว่ามีปอดสุขภาพดี
      4. ผิวเรียบเนียน นุ่ม สว่าง
      5. มือเรียวได้รูป (ไม่อ้วนป้อม)
      6. แผ่นหลังหนา ไหล่โค้งมน บ่งบอกว่าร่างกายแข็งแรงและสมดุล
      7. หน้าอกได้รูป ไม่หย่อนคล้อย หัวถันสีเข้ม
      8. จมูกโด่งเป็นสัน หางตาชี้
      9. กล้ามเนื้อหน้าท้องได้รูป สะดือโบ๋ (สะใภ้ที่สะดือจุ่นในอดีต ถือเป็นตราบาปเลยนะคะ)
      10. ตาเบิกกว้าง หางตายาวเฉียง ตาไม่แฉะ
      11. ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีกลิ่นหอม
      12. ฝ่ามือมีเลือดฝาด

สวยเพื่อตัวเอง VS สวยเพื่อยกระดับชีวิต

ดูเหมือนคุณค่าความงามของผู้หญิงเกาหลี จะผูกพันอยู่กับหน้าที่แม่และเมียมาตลอด พวกเธอไม่ได้มีโอกาส “สวยเพื่อตัวเอง” กันสักเท่าไหร่ แต่หลังจากผู้หญิงเกาหลีมีโอกาสได้เข้าโรงเรียน ค่านิยมก็เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ค่ะ ผู้หญิงหลายคนเลือกที่จะสวยเพื่อตัวเอง บ้างก็เพื่อยกระดับชีวิตที่ดีขึ้น ได้เข้าสู่วงการบันเทิง ได้ทำงานดีๆ ปัจจุบันใครๆ ก็รู้ว่า เกาหลีใต้เป็นหมุดหมายสำคัญของคนที่อยากศัลยกรรม และโดดเด่นเรื่องเวชศาสตร์ชะลอวัย เด็กนักเรียนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ พ่อแม่อาจให้ของขวัญเป็นคอร์สศัลยกรรมตาสองชั้น หรือไม่ก็จมูกโด่ง ๆ มีเทคโนโลยีศัลยกรรมล้ำยุค ถ้าเลือกโรงพยาบาลดีๆ หมอเก่งๆ ความเสี่ยงก็ต่ำมากๆ ส่วนคนที่ยังไม่พร้อมจะเจอมีดหมอ ก็มีสารพัดเมคอัพและอุปกรณ์ที่เนรมิตให้สาว ๆ (หรือแม้แต่หนุ่มๆ) สวยหล่อขึ้นผิดหูผิดตา เหมือนอย่าง อิมจูกยอง ใน True Beauty นั่นล่ะค่ะ แม้แต่เราเองยังสนุกกับนวัตกรรมโกงความสวยยุคนี้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น สติกเกอร์ทำตาสองชั้น , ซิลิโคนเสริมจมูกโด่ง (แบบยัดเข้าไปในรูจมูก) , เครื่องปั๊มปากเพื่อริมฝีปากอวบอิ่ม , แป้งฝุ่นปิดหัวเหม่ง , ที่หนีบผมหน้าม้าผ้าม่าน ฯลฯ บางอย่างต้นกำเนิดก็มาจากเกาหลี บางอย่างก็ไม่ใช่ แต่เชื่อเถอะว่าที่พูดมาทั้งหมดนี้ ที่เกาหลีมีขายทุกอย่างค่ะ

true beauty article beauty ads at gangnam
ป้ายโฆษณาศัลยกรรมในสถานีรถไฟใต้ดินย่านคังนัม

ในอดีตคนตั้งมาตรฐานความงามไว้เพื่อเดาว่า คนแบบไหนน่าจะมีอายุยืนยาว น่าจะผลิตลูกเก่ง ร่างกายแข็งแรงจึงมาก่อน แต่ตั้งแต่โลกมีสื่อบันเทิง นิยามความงามก็เปลี่ยนไปอีก เราเริ่มยึดดารา นักร้อง นางแบบ นางงาม เป็นโมเดลความงาม ซึ่งก็จะเปลี่ยนไปแต่ละยุคสมัยด้วยค่ะ สังเกตว่ามีโพลจัดอันดับคนดังที่สวยที่สุดทุกปี แล้วคนได้ที่ 1 ก็มักจะเป็นคนที่ดังสุดของปีนั้น จะว่าโพลพวกนี้ใช้วัดฐานแฟนคลับได้ แต่วัดความงามไม่ได้ก็ไม่เชิงนะ เพราะเวลามีดาราคนไหนที่ดังๆ แล้วบังเอิญเป็นคนที่เราชอบ เราก็มักจะมีแนวโน้มที่จะมองคนทั่วไป ที่มีรูปร่างหน้าตา “ไทป์นั้น” ว่าสวยไปด้วย ทั้งที่ปีที่แล้ว เราอาจไม่ได้ชอบคนหน้าตาแนวนี้ซักหน่อย อย่างไรก็ตาม อย่าให้ค่านิยมความงามทำร้ายเราเป็นพอค่ะ เบื้องหลังหุ่นสวยๆ ของดารา อาจได้มาจากการไดเอ็ตผิดหลักโภชนาการ แล้วแฟนคลับบางคนก็ยอมทำตามด้วย อันตรายมากนะ

เทรนด์ความงามแบบนี้ เกาหลีอ่ะแหละ

ในหัวข้อสุดท้าย เราขอพาคุณไปส่อง เทรนด์ความงามที่คนไม่ได้เป็นแฟนคลับเกาหลีอาจรู้สึกแปลกสักหน่อย แต่ใครเป็นแฟนคลับเห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่ามาจากเกาหลี

หน้าเล็ก

แน่นอน เป็นเทรนด์ความงามระดับสากลในยุคที่โลกคลั่งเซลฟี่ ใครหน้าเล็กก็จะขึ้นกล้อง แต่ส่วนตัวเราคิดว่าไม่น่าจะมีประเทศไหนหมกมุ่นกับคนหน้าเล็กเท่ากับชาวเกาหลีค่ะ 555 อย่างคนไทยเดินสวนกับดาราที่ห้าง เราอาจอุทาน สวยจัง หล่อจัง ใช่ไหมคะ แต่คนเกาหลีอุทานว่า “ว้าว หน้าเล็กจัง” ดาราหน้าเล็กที่ไปออกรายการทีวี พิธีกรก็จะย้ำไม่หยุดว่าหน้าเล็กจัง ขอเทียบขนาดหน้าหน่อย ฯลฯ  มีแม้กระทั่งเป็นข่าวไวรัลทั่วประเทศ เพราะความหน้าเล็ก ถ้าอยากรู้ว่าตัวเองหน้าเล็กได้มาตรฐานวงการบันเทิงเกาหลีไหม ให้ลองเอาแผ่นซีดีทาบหน้าดูค่ะ ถ้าไม่เห็นใบหน้าล้นออกมา แสดงว่าผ่านเกณฑ์ คุณมีโอกาสป๊อบปูล่าร์แบบงงๆ ในหมู่คนเกาหลี

true beauty small face
ซ้าย-กลาง : คิมซูฮยอน – ฮันเยซึล ถูกเทียบขนาดใบหน้ากับ CD | ขวาบน-ล่าง : พัคโบยอง , ยังโยซอบ – แพจินยอง

ถุงใต้ตา

จริงๆ จะเรียก “ถุงใต้ตา” ก็ไม่เชิงค่ะ คนละอย่างกับถุงใหญ่ๆ ที่กินบริเวณกว้างบนใบหน้า ถ้าคล้ำบ่งบอกว่าพักผ่อนน้อย ถ้าหย่อนคล้อยบ่งบอกว่ามีอายุนะคะ เพราะสิ่งคนเกาหลีใฝ่ฝันว่าจะมีคือ 애교살 “แอ-กโยซัล” แปลตรงตัวก็คือ “ถุงแบ๊ว” ป่องๆ กลมๆ ใต้ตา มีขนาดพอๆ กับตัวหนอนเท่านั้นเอง ถ้ามีถุงนี้แล้วเราจะกลายเป็นคนที่มี “ตายิ้ม” ดูน่ารัก อ่อนวัย และเป็นมิตร ที่เกาหลีมีการศัลยกรรมสร้างแอกโยซัลด้วยนะคะ หรือจะใช้อายแชโดว์สีมุก ๆ แตะใต้ตาสร้างมิติก็ได้

true beauty article 1 1

ตาขาวสามด้าน

ศัลยกรรมเปลือกตาให้มีสองชั้น อันนี้เบสิก , ศัลยกรรมเปิดหัวตาให้กว้าง เพื่อดวงตากลมโตดูน่ารัก ก็เห็นกันบ่อยๆแต่เดี๋ยวนี้มีเทรนด์ “ศัลยกรรมตาขาวสามด้าน” 삼백안 (ซัมแปกอัน) ด้วยค่ะ งงล่ะสิ ว่าคืออะไร คืองี้ค่ะ ดวงตาคนส่วนใหญ่ ถ้ามองตรงปกติจะเห็นตาขาว 2 ด้านใช่ไหมคะ อยู่ซ้ายขวาของตาดำ แต่ทีนี้มีผู้คนกลุ่มหนึ่งที่มีลักษณะพิเศษ เห็นตาขาว3ด้าน ซ้าย ขวา และล่าง (ให้ฟิลลิ่งเหมือนเหลือบตามองบนนิดๆ แต่เป็นภาวะการมองปกติค่ะ) คนที่มีซัมแปกอัน มีจำนวนน้อย และคนเกาหลีก็มองว่าเป็นดวงตาเซ็กซี่ มีเสน่ห์เหลือเกิน ก็เลยมีเทรนด์ศัลยกรรมเปิดเปลือกตาล่างลงมา เพื่อให้เห็นตาขาวสามด้านค่ะ ตัวอย่างไอดอลที่มีซัมแปกอันโดยกำเนิด ก็เช่น วี BTS , ซูบิน Victon , มินนี่ (G)-IDLE , ฮวาซา MAMAMOO ฯลฯ ส่วนคนที่เห็นตาขาวครบทั้งสี่ด้าน คนเกาหลีบอกว่าดูน่ากลัวค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนถลึงตาตลอดเวลา

true beauty article idols with sambaegan eyes
true beauty Sambaegan
จากบนลงล่าง : ตาขาวสองด้าน (ปกติ) , ตาขาวหนึ่งด้าน (ตาขี้เกียจ) ,ตาขาวสามด้านเห็นตาขาวด้านบน (เย่อหยิ่ง) , ตาขาวสามด้านเห็นตาขาวด้านล่าง (สวยงาม , มีเสน่ห์) , ตาขาวสี่ด้าน (น่ากลัว)

ผมใหญ่อลังการ

นางในยุคโชซอนนั้นมีเทรนด์ “ทรงผมบังเพื่อน” ที่แท้ทรูค่ะ เกิดจากความนิยมสวมวิกสุดอลังการที่เรียกว่า คาเช (가체) ยิ่งใส่อันใหญ่ก็ยิ่งสวย จนมาถึงรัชสมัยพระเจ้าซุกจง (ยุคที่มีจางอ๊กจองและทงอีนั่นแหละค่ะ) การประชันขันแข็งเดินทางมาถึงจุดพีคสุด ๆ ลือกันว่า มีนางในคนหนึ่งคอหักเนื่องจากแบกน้ำหนักคาเช ในรัชสมัยพระเจ้ายองโจ (พระโอรสของพระเจ้าซุกจงกับสนมชเวซุกบิน) จึงสั่งยกเลิกธรรมเนียมใส่วิกคาเชค่ะ ส่วนหนึ่งเพราะพระองค์รักความสมถะ ต้องการตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นในวัง แต่อีกส่วนหนึ่งคงก็เพื่อสวัสดิภาพของสาว ๆ ในวังด้วยแหละ

true beauty article gache

ขอแถม ผู้ชายเลือดกรุ๊ป B

สุดท้ายนี้ ไม่เกี่ยวกับ Beauty Standard แต่อยากเล่า เพราะคนเกาหลีเค้าจริงจังกับเรื่องนี้สุดๆๆๆ หนังสือประเภทคำทำนายจากกรุ๊ปเลือด ส่วนใหญ่ก็มาจากเกาหลีนี่แหละ แม้จะมีคนเฉลยแล้วว่าเป็นแค่วิทยาศาสตร์เทียม (Psudo-Scientific) แต่เจอทีไรก็ยังไม่วายหยิบอ่านทุกที ทีนี้ด้วยพันธุกรรมของชาวเกาหลี ส่งผลให้คนเกาหลีมีคนเลือดกรุ๊ป B จำนวนน้อยค่ะ กลายเป็นคนแปลกไปเลย ผู้ชายกรุ๊ปบีถูกมองว่าเห็นแก่ตัว หลงตัวเอง ออกเดทด้วยมีแต่ชีช้ำ จริงจังจนถึงขนาดครั้งหนึ่งสร้างเป็นภาพยนตร์วัยรุ่น My Boyfriend is Type B เลยนะ

My boyfriend is type b

นานๆ ทีมีโอกาสได้เม้าท์มอยเรื่องความสวยผ่านเรื่องราวทางประวัติศาสตร์แบบนี้ ไม่รู้ว่าชอบกันหรือเปล่า ยังไงส่งฟีดแบ็กมาบอกกันบ้างนะคะ ส่งมาที่ทวิตเตอร์ @bluesherbet_ ก็ได้ค่ะ รักนะ จุ๊บๆ

และ ช้าก่อน~! ตอนนี้ Korseries มีพอดแคสต์ที่มาพูดคุยประเด็นต่าง ๆ ด้วยนะ สามารถติดตามฟังกันได้ที่ Spotify , Google Podcasts , Apple Podcasts

ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage
 : facebook.com/korseries
Twitter
 : twitter.com/korseries
Website
 : korseries.com
Youtube 
: Korseries

ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡


Korupdate






เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อการตลาด

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก