จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี สำหรับ ‘Baeksang Arts Awards’ งานประกาศผลรางวัลทางโทรทัศน์และภาพยนตร์ 1 ใน 3 งานหลักของวงการบันเทิงเกาหลีใต้ ที่แม้ว่าในปีนี้ประเทศเกาหลีใต้จะต้องประสบกับภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 อย่างหนัก แต่งานดังกล่าวก็ยังดำเนินการประกาศผลรางวัลตามปกติ โดยปีนี้จะถูกจัดขึ้นที่ KINTEX Hall เมืองอิลซาน ในวันนี้ (5 มิ.ย.) เวลา 16:50 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
อย่างไรก็ตาม Media Disrupt อาจเป็นปัญหาใหญ่สำหรับวงการสื่อสารมวลชนในหลายๆ ประเทศแถบเอเชีย การเข้ามาของผู้ให้บริการสตรีมมิ่ง (OTT) ส่งผลต่อผู้ชมโทรทัศน์และภาพยนตร์ในโรงฯอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ในประเทศเกาหลีใต้ อุตสาหกรรมบันเทิงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้มีสื่อใหม่เข้ามา ในขณะเดียวกันสื่อเก่าก็ได้พัฒนาคุณภาพของเนื้อหาละคร-ซีรีส์-ภาพยนตร์ ตลอดจนกระทั่งรายการวาไรตี้ ให้สอดรับกับรสนิยมคนดูได้อย่างรวดเร็วไม่แพ้ OTT จากความสำเร็จของเรตติ้ง A World of Married Couple ที่เพิ่งจบไปไม่นาน ทำให้เห็นว่าการบริโภคสื่อเก่ายังมีมากอยู่ หากคอนเทนต์นั้นๆ สามารถยึดโยงผู้ชมไว้ได้ ในขณะเดียวการหลั่งไหลจากผู้ผลิตคอนเทนต์รายใหม่ก็สร้างความหลากหลายในอุตสาหกรรมนี้มากยิ่งขึ้น ผู้กำกับ นักเขียนบท โปรดักชั่นเฮ้าส์ใหม่ๆ ได้รับโอกาสในการผลิตคอนเทนต์บนสื่อใหญ่ๆ ดังนั้นงาน BAEKSANG ที่กำลังจะจัดขึ้นในปีนี้ผู้เข้าชิงรางวัลในสาขาหลักๆ จึงมีผู้กำกับ นักเขียนบทหน้าใหม่ร่วมตบเท้าเข้าชิงรางวัลกันอย่างล้นหลาม
โดยในฝั่งภาพยนตร์มีผู้กำกับหน้าใหม่ 4 คนที่ช่วงชิงพื้นที่ส่งหนังของตัวเองเข้าชิงรางวัล BAEKSANG ซึ่งโดดเด่นอย่างมากในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น คิมโบรา จากภาพยนตร์เรื่อง House of Hummingbird ที่เข้าชิงทั้งสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, ผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม อีซังกึน จากภาพยนตร์เรื่อง EXIT ที่เข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม คิมโดยอง จากภาพยนตร์เรื่อง Kim Ji-young: Born 1982 เข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, และผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และ อีจงออน จาก Birthday ที่เข้าชิงในสาขาผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม โดยทั้ง 4 คนที่กล่าวไปในก่อนหน้าล้วนเข้าชิงจากผลงานเดบิวต์ในวงการภาพยนตร์ทั้งสิ้น ที่น่าลุ้นไปกว่านั้นคือในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม 3 จาก 5 เรื่องเป็นภาพยนตร์จากผู้กำกับหน้าใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเกาหลีใต้ยังคงเติบโตและเปิดพื้นที่ให้ผู้กำกับหรือผู้ผลิตหน้าใหม่เข้ามาแสดงศักยภาพเสมอ
แน่นอนว่าภาพยนตร์ที่เข้าชิงต้องมีอะไรที่ดีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และต่างมีความโดดเด่นในตัวเองกันทั้งสิ้น เริ่มจาก House of Hummingbird ผลงานของผู้กำกับสาวหน้าใหม่ที่คว้ารางวัล New Comer จากหลายเวที คิมโบรา โดยหนังเรื่องดังกล่าวเปิดตัวครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ปี 2018 จากนั้นจึงเดินสายฉายตามเทศกาลต่างๆ และเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในปีที่ผ่านมา House of Hummingbird ย้อนกลับไปเมื่อปี 1994 เล่าเรื่องราวของ ‘อึนฮี’ เด็กสาวคนสุดท้องวัยแรกแย้มที่ต้องเติบโตในครอบครัวที่ไม่ได้อบอุ่นนัก พ่อของเธอเป็นเจ้าของร้านต๊อกเจ้าใหญ่ในย่าน แต่มักมีอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย แม่ก็ดูจะไม่ค่อยมีสติสตางค์อยู่กับตัวเสียเท่าไหร่ พี่ชายคนโตที่เป็นเสมือนความหวังของบ้านก็ชอบทุบตีทำร้ายร่างกายเธอและพี่สาวคนกลางบ่อยๆ ในขณะที่พี่สาวคนกลางก็ใจแตก มักแอบหนีหรือพาผู้ชายเข้ามาในบ้านยามวิกาล ทั้งหมดนี้คือสภาพแวดล้อมของเด็กสาววัยเพียง 14 ปีที่ยังไร้เดียงสาจะต้องเติบโตขึ้น เมื่อบ้านไม่ใช่คอมฟอร์ดโซน เธอจึงต้องตามหาและเรียนรู้ความรักในแบบฉบับเด็กๆ ทั้งการมีแฟน เพื่อน ตลอดจนครูสอนพิเศษภาษาจีนสาวที่เธอดูจะผูกพันมากเป็นพิเศษ เธอได้เรียนรู้และเติบโตไปในตลอด 2.18 ชั่วโมงที่หนังฉาย ในขณะที่เหตุการณ์โศกอนาฏกรรมครั้งใหญ่อย่างสะพานซองซูถล่มในปี 1994 แม้ผลกระทบโดยตรงกับเธอนั้นเป็น 0 แต่เหตุการณ์นี้ก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เธอได้เรียนรู้อะไรบางอย่างเช่นเดียวกัน
ถัดมา ภาพยนตร์เรื่อง EXIT โดยผู้กำกับไฟแรง อีซังอึน ที่หลายๆ คนอาจเคยคุ้นชื่อหรือคุ้นหู เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เนื่องจากถูกซื้อเข้ามาฉายในไทย นำแสดงโดยท็อปสตาร์ชื่อดังอย่าง ‘ยุนอา’ และ‘โจจองซอก’ ที่ว่าผู้กำกับคนดังกล่าวเป็นผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรง ก็เพราะ EXIT นำเสนอเรื่องราวโรแมนติก-คอมเมดี้-ผจญภัยระทึกขวัญอย่างบ้าระหำ่ ว่าด้วย ‘อียงนัม’ ชายไร้งานหายใจทิ้งไปวันๆ ที่มีความสามารถพิเศษอย่างลับๆ คือชอบปีนหน้าผา กับพนักงานห้องจัดงานเลี้ยงสาว ‘อึยจู’ ซึ่งทั้งสองเคยรู้จักกันผ่านชมรมปีนผา หลังจากห่างหายแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตอยู่นานสองนาน งานเลี้ยงครบรอบ 70 ของคุณยายยงนัม ก็ทำให้ทั้งคู่ต้องมาพบเจอกันอีกครั้ง แต่ไม่นานเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ หมอกควันพิษก็กระจายเข้าปกคลุมเมืองอย่างรวดเร็ว ทำให้ยงนัมและอึยจูต้องงัดความรู้วิชาการปีนผากลับมาอีกครั้ง เพื่อนำพาชีวิตและครอบครัวของตนเองรอดจากเหตุการณ์นี้ให้จนได้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เมื่อเข้าฉายถูกพูดถึงอย่างมากให้ด้านความสนุกคลายเครียดที่ถูกจัดแจงให้เข้ากับเหตุกาณ์ระทึกขวัญ จนทำให้ EXIT เป็นภาพยนตร์ขายดีลำดับที่ 3 ในปี 2019 รองจาก Parasite และ Extreme Job
ต่อที่ Kim Ji-young: Born 1982 ภาพยนตร์สะท้อนปัญหาความไม่เสมอภาคระหว่างเพศในประเทศเกาหลีใต้ ที่สร้างจากนิยายในชื่อเดียวกัน ก่อนการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด แม้กระทั่งการรับบทนำของ ‘กงยู’ ก็สร้างแรงกระเพื่อมต่อเนติเช็นอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน Kim Ji-young: Born 1982 เป็นอีกเรื่องที่ถูกนำเข้ามาฉายในประเทศไทย โดยบอกเล่าเรื่องราวของ ‘คิมจียอง’ ที่รับบทโดย ‘จองยูมิ’ แม่บ้านลูกเล็กคนหนึ่ง ที่เหมือนครอบครัวจะสมบูรณ์แบบราวกับนิยาย ‘จองแดฮยอน’ สามีก็รักและคอยปรนนิบัติเธออย่างดี แต่ในสังคมไม่ได้มองเธอแบบที่สามีเธอมอง สิ่งที่คิมจียองต้องพบเจอตั้งแต่เด็กจนมีลูกมันทำให้เธอเหมือนจะมีปัญหาบางอย่างที่เริ่มจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน คิมจียองเกิดปี’ 82 กำกับโดย ผู้กำกับสาวคิมโดยอง ซึ่งเป็นผลงานเดบิวต์ในวงการภาพยนตร์ของเธอ และหลังจากเข้าฉาย ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวได้รับทั้งติชมจากคนหลายกลุ่ม แต่ที่สำคัญที่สุดคือภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศในประเทศเกาหลีใต้
เรื่องสุดท้าย Birthday กำกับโดย อีจองออน ใครที่เห็นใบปิดของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อาจจะเชื่อได้ว่าเป็นหนังฟีลกู๊ดเกี่ยวกับครอบครัว แต่สวนกัน Birthday เล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ต้องสูญเสียลูกชายจากเหตุการณ์เรือเซวอลล่มในปี 2014 ‘ซุนนัม’ ผู้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องเลี้ยง ‘เยซล’ ลูกสาวคนสุดท้องเพียงคนเดียวเนื่องจาก ‘จองอิล’ ผู้เป็นสามีทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ แม้วันที่ต้องสูญเสียลูกชายจองอิลก็ไม่ได้กลับมาหาครอบครัว แต่อยู่มาวันหนึ่ง ชายผู้เป็นสามีกลับมา ในขณะที่วันเกิดของ ‘ซูโฮ’ ลูกชายที่ล่วงลับก็ใกล้เข้ามา กลุ่มผู้ประสบเหตุก็จึงอยากที่จะจัดงานรำลึกให้ซูโฮ แต่ซุนนัมไม่ยอม จองอิลที่กลับมาโดยพบว่าภรรยาและลูกของตนไม่ได้อยู่อย่างดีเสียเท่าไหร่นัก ก็พยายามที่จะผสานครอบครัวให้ดีขึ้น และเดินหน้าต่อไป ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอภาพของผู้เป็นแม่ที่ยอมรับไม่ได้ว่าต้องสูญเสียลูกชาย พ่อที่รู้สึกผิดอยู่ทุกลมหายใจ ลูกสาวคนสุดท้องที่ก็พลอยเจ็บปวดไปด้วยเพราะแม่ ตลอดจนกลุ่มเพื่อน คนรอบข้างของซูโฮเองก็ไม่ได้มีชีวิตที่มีความสุขเหมือนก่อนที่เขาจากไป ผู้กำกับอีจองออนเรียกได้ว่าใจกล้าสำหรับภาพยนตร์เดบิวต์ที่ปล่อยซีนดราม่านานกว่า 30 นาทีท้ายของเรื่อง ซึ่งก็นับว่าเป็นตัวเต็งสำหรับรางวัลผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน
ที่หยิบยกมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของผู้กำกับหน้าใหม่ที่ส่งหนังของตัวเองเข้าชิงในงานประกาศรางวัล Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 56 เท่านั้น ยังมีผลงานไฟแรงและดีๆ อีกมากมายที่ยังคงโลดแล่นอยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเกาหลี ซึ่งนับว่ามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด มากไปกว่านั้นหนังจากประเทศเล็กๆ ในแถบเอเชียนี้ยังสร้างประวัติศาสตร์ในวงการภาพยนตร์โลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการชนะรางวัล Best Picture ของ Parasite บนเวที OSCARS โดยเป็นเพียงภาพยนตร์ที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเรื่องแรกที่ชนะรางวัลใหญ่ของงานดังกล่าว เป็นต้น อย่างไรก็ตามในปีหน้าวงการภาพยนตร์เกาหลีจะยิ่งรุดหน้าในตลาดโลกและมีคอนเทนต์ดีๆ ให้ผู้ชมอีกมากมายอย่างแน่นอน เปรียบเสมือนคลื่นลูกใหม่ที่มาสานต่อจากตลาดเพลงเค-ป็อบและซีรีส์
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
