focus

Tale of the Nine Tailed 1938 : เปิดความเป็นมาของ ‘หมาจินโด’ สมบัติแห่งชาติของเกาหลีใต้ ผ่านตัวละคร ยูแจยู

03/06/2023 - ICELADA

focus jindo dog in tale of the nine tailed 1938 cover

กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นสำหรับซีรีส์อย่าง ‘Tale of the Nine Tailed 1938’ หลังจากจบซีซั่นแรกในปี 2020 และได้เสียงตอบรับจากแฟนๆ บางส่วนอย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะประเทศไทย หลังจากขึ้นอันดับหนึ่งในไพร์มอเมซอน (Prime Amazon) ทำเอา ‘อีรัง’ หรือ นักแสดงหนุ่ม ‘คิมบอม’ ถึงกับออกมาขอบคุณแฟน ๆ ลงไอจีสตอรีกันเลยทีเดียว

แม้ว่า Tale of the Nine Tailed 1938 อาจจะแบกความคาดหวังบางอย่างจากผู้ชมในฐานะซีรีส์ภาคต่อ แต่ก็ยังคงทำได้ดีในการเปิดประเด็นใหม่ ๆ โดยที่ไม่ซ้ำซากจากภาคแรก ตั้งแต่การพาตัวละคร ‘อียอน’ (รับบทโดย อีดงอุค) ที่กำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุข กลับต้องพรากจากหญิงอันเป็นที่รัก ย้อนสู่ห้วงเวลาที่ไม่อาจคืนกลับ โดยเล่นกับประเด็นความสัมพันธ์ในวัยเด็กของอียอนเมื่อครั้งยังเป็นเทพแห่งภูเขาแพคดูในอดีต บทบาทที่เพิ่มขึ้นของ ‘อีรัง’ (รับบทโดย คิมบอม) ในปี 1938 หรือแม้แต่สีสันบางอย่างที่เพิ่มขึ้นมาจากตัวละคร ‘รยูฮงจู’ (รับบทโดย คิมโซยอน) ที่ครบเครื่องทั้งเรื่องราวดราม่าและฉากตลกขำขัน สมมงกับการแสดงของยอดฝีมือ เจ้าของรางวัลนักแสดงนำหญิงสาขาละครโทรทัศน์แห่งแพคซังปี 2021

Kim So Yeon Tale of the Nine Tailed 1938 Still 1 scaled

นอกจากนั้น สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ยิ่งพัฒนารายละเอียดมากขึ้น คือ การใส่รายละเอียดตำนานภูตผีปีศาจพื้นบ้านที่ไม่หยุดแค่เพียงสัญชาติเกาหลี แต่ยังรวมเหล่าอสูรตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ซึ่งสอดคล้องกับไทม์ไลน์หลักของเรื่อง คือ ยุคแห่งการล่าอาณานิคมโดยญี่ปุ่นในเกาหลีนั่นเอง

แต่หากจะพูดถึงตัวละครที่หลายคนให้ความสนใจ คงหนีไม่พ้น ‘ยูแจยู’ (รับบทโดย ฮันกอนยู) บอดี้การ์ดประจำตัวของรยูฮงจูที่ปรากฏตัวด้วยบุคลิกเคร่งครึม มีนิสัยเจ้าระเบียบ ไม่เพียงแต่คอยทำหน้าที่อารักขา ช่วยเหลือนายหญิงแห่งมโยยอนกัก เขายังเป็นผู้จัดระเบียบและห้ามทัพการทะเลาะวิวาทระหว่างคู่อริหมาป่าอย่างหัวหน้าโจร ลูกน้องของอีรัง และกูชินจู สัตวแพทย์หมาจิ้งจอกที่อยู่คู่กับอียอนนับตั้งแต่ซีซั่นหนึ่ง

Han Gun Yoo Tale of the Nine Tailed 1938 1

ยูแจยู เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตเหนือธรรรมชาติเช่นเดียวกับหลายตัวละครในเรื่อง ซึ่งก็คือ ‘หมาจินโด’ สุนัขพันธุ์ท้องถิ่นของเกาหลี เขารอดชีวิตและกลายเป็นองครักษ์ประจำตัวของรยูฮงจู เพราะได้รับการช่วยเหลือจากเธอ หลังจากถูกทำร้ายด้วยกองทัพของกลุ่มทหารญี่ปุ่น

Han Gun Yoo Tale of the Nine Tailed 1938 2

หมาจินโด: จาก ‘สัตว์เลี้ยงท้องถิ่น’ สู่ ‘สมบัติของชาติ’

ที่มา: The Spruce Pets
ที่มา : The Spruce Pets

เมื่อพูดถึงหมาจินโด หลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของสัตว์เลี้ยงตัวนี้มาก่อนจากซีรีส์เรื่องอื่น เช่น The First Responders เมื่อพระเอกสายบวกอย่าง ‘จินโฮแก’ มีฉายาว่า ‘จินโดแก’ หรือ ‘หมาจินโด’ จากความบ้าระห่ำและกัดไม่ปล่อยในการปฏิบัติหน้าที่

The First Responders 01
ภาพจากซีรีส์ The First Responders

การเปรียบเปรยดังกล่าวและการยกตัวตนของยูแจยูเทียบเคียงกับหมาจินโด ถือเป็นเรื่องที่ฉลาดเสียทีเดียวสำหรับผู้เขียนบททั้ง 2 เรื่อง เพราะบทบาทของหมาจินโด คือ การเป็นสัตว์ข้างกายของเหล่านายทหารแห่งกองทัพเกาหลีใต้ ที่ประจำการในชายแดนติดกับเกาหลีเหนือ สืบเนื่องจากลักษณะนิสัยที่ตามล่าเก่ง

military jindo

ขณะเดียวกัน เจ้าหมาหูตั้งตัวนี้ ก็ถูกอธิบายถึงความ ‘ฉลาด’ ‘ซื่อสัตย์’ ‘กล้าหาญ’ และ ‘ไม่เกรงกลัวใคร’ โดยเฉพาะการทำหน้าที่คุ้มครองเจ้าของข้างกาย จนถูกยกย่องว่าเป็น “สัตว์ที่สะอาดและสง่างาม” จากลักษณะนิสัยข้างต้น นั่นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หากหมาจินโดจะกลายเป็นสัตว์ที่ความล้ำค่า และเทียบเท่ากับสมบัติของชาติสำหรับชาวเกาหลีเลยทีเดียว

ความเป็นมาของหมาจินโดตั้งแต่แรก คือ การเป็นสัตว์ท้องถิ่นประจำเกาะจินโด (Jindo Island) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี มีภูมิประเทศอันแร้นแค้นเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ มันจึงพัฒนาสัญชาตญาณนักล่าและปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่โหดร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่ามกลางสุนัขสายพันธุ์อื่น ๆ ที่กระจายไปทั่วเกาะ หมาจินโดยังคงโดดเด่นที่สุดด้วยนิสัยอันเป็นเอกลักษณ์

jindo island
ที่มา: Korea Tourism Organization

อย่างไรก็ตาม ยังมีบางกระแสที่เชื่ออยู่ว่า จุดกำเนิดของหมาจินโดมาจากการเป็นเครื่องบรรณาการในราชวงศ์ซ่งจากประเทศจีน ท่ามกลางความเชื่อกระแสหลักว่า หมาจินโดคือสัตว์ท้องถิ่นของเกาหลี

จนกระทั่งทศวรรษที่ 1930 สมัยเกาหลีตกอยู่ภายใต้อาณานิคมญี่ปุ่น สุนัขจากเกาะจินโดถูกให้ความสำคัญขึ้นมาอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งปรากฏในอีพีที่ 8 ของซีรีส์ ยูแจยูประกาศตัวด้วยความภาคภูมิใจว่า เขาในฐานะหมาจินโดได้รับการยกย่องเป็น ‘อนุสาวรีย์ธรรมชาติ’ (Natural Monument) ในปี 1938 เพราะมีลักษณะคล้ายกับสุนัขพื้นเมืองของญี่ปุ่น

นอกจากนั้น ความสำคัญอย่างหนึ่งที่หลายคนไม่ค่อยกล่าวถึง คือ จินโดเป็นสุนัขพื้นเมืองสายพันธุ์เดียวที่อยู่รอดท่ามกลางการสูญพันธุ์ของเจ้าสี่ขาสายพันธุ์อื่นๆ หลังจากกองทัพญี่ปุ่นมีนโยบายกำจัดสุนัขทุกตัวเพื่อนำไปผลิตเสื้อขนสัตว์ป้องกันความหนาวเย็น

ต่อมา ในปี 1962 ซึ่งเข้าสู่ยุคที่คาบสมุทรเกาหลีแบ่งเป็นสองฝ่าย เกาหลีใต้ถูกครอบงำด้วยผู้นำเผด็จการ พัคจองฮี (Park Chung-Hee) ในเวลาดังกล่าว หมาจินโดถูกประกาศเป็นอนุสาวรีย์ธรรมชาติอีกครั้ง ในฐานะสมบัติแห่งชาติหมายเลข 53 ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งประกอบด้วยข้อห้ามที่ประชานต้องปฏิบัติต่างๆ เช่น หากผู้ใดจะขยายพันธุ์หมาจินโด ต้องอยู่ในบริเวณเกาะจินโดเท่านั้น และไม่อนุญาตให้นำเจ้าสี่ขาสัญชาติเกาหลีออกจากพื้นที่โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ

รวมถึงในปี 1975 เกาะจินโดยังจัดหน่วยงานเป็นทางการสำหรับดูแลการขยายพันธุ์หมาจินโดโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นรวมตัวของกลุ่มชาวบ้านที่มีความเชี่ยวชาญดีกับสุนัขท้องถิ่นสายพันธุ์นี้โดยเฉพาะ

สถานการณ์ของหมาจินโดในปัจจุบัน

อ้างอิงจากปี 2008 ผ่านการรายงานของรอยเตอร์ (Reuters) ชาวเกาหลีใต้บางส่วนต้องการทำให้หมาจินโดเป็นสายพันธุ์สากล อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้เป็นไปอย่างลำบาก สืบเนื่องจากกฎหมายภายในข้างต้นที่ทำให้การตีตลาดสุนัขพื้นเมืองเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

นั่นจึงส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเกาหลีใต้บนเวทีโลก หากต้องแข่งขันประกวดสุนัขกับประเทศในเอเชียตะวันออก เช่น ญี่ปุ่นหรือจีน

Dog Korean Jindo A close up of a Korean Jindos incredible thick brown coat and pointed ears
ที่มา : Omlet

“สุนัขสายพันธุ์พื้นเมืองของเราไม่เป็นที่รู้จักในโลกเลย ยกเว้นแค่เกาหลี เรารู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้วที่ต้องทำอะไรบางอย่างกับมัน” อีซูจอง เจ้าหน้าที่ของซัมซุงที่ช่วยเหลือด้านการตลาดของสุนัขจินโดอธิบายในปี 2008

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ข้อห้ามเกี่ยวข้องกับการขยายพันธุ์หมาจินโดยังคงเหมือนเดิมตามข้อกฎหมายว่าด้วยสมบัติแห่งชาติ หากแต่มีเรื่องอันน่ายินดี คือ การสิ้นสุดความโหดร้ายเกินมนุษย์อย่างการสั่งปิด ‘ฟาร์มเนื้อหมา’ ในเกาะจินโด หลังจากมีการเพาะพันธุ์และเชือดสุนัขจินโดเพื่อการบริโภคเป็นระยะเวลา 20 ปีเต็ม

Nara Kim 696x464 1
ที่มา : dogsmonthly

“สุนัขทุกตัวในฟาร์มเนื้อแห่งนี้ คือ เจ้าหมาจินโด สุนัขประจำชาติของเกาหลี แต่พวกมันช่างน่าสงสาร เมื่อถูกขังไว้ในกรงลวดสกปรก กินอาหารจากขยะในร้านอาหาร ปล่อยปละละเลยการดูแลขั้นพื้นฐาน

“ในฐานะฉันภาคภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนเกาหลี ฉันรู้สึกเสียใจที่เห็นความโหดร้ายของฟาร์มเนื้อหมา ฉันยิ่งรู้สึกตกใจเป็นพิเศษที่เห็นสุนัขประจำชาติถูกกดขี่ในเกาะจินโด ฉันถึงกับน้ำตาซึม เมื่อเห็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ” คิมนารา (Kim Na-ra) ผู้จัดการกลุ่ม Humane Society International แห่งเกาหลีอธิบายความรู้สึก

ซึ่งนี่ไม่เพียงแต่เป็นปัญหาสำหรับสุนัขจินโดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง ‘ฟาร์มเนื้อหมาทั่วเกาหลี’ ซึ่งตกอยู่ในประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังที่ มุนแจอิน (Moon Jae-in) อดีตประธานาธิบดีแห่งเกาหลีใต้ เคยตั้งประเด็นว่า ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เกาหลีจะแบนการกินสุนัขเป็นอาหาร

ไม่ว่าเรื่องราวของหมาจินโดจะมีบทสรุปเช่นไร เราก็ขอเอาใจช่วยให้เจ้าสี่ขาสายพันธุ์เกาหลีได้โลดแล่นในสายตาทั่วโลก อีกทั้งยังสามารถคงสถานะเป็นสมบัติของชาติได้ในเวลาเดียวกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

Tale of the Nine Tailed 1938 ออกตัวดีตั้งแต่เริ่ม! ทำเรตติ้งเปิดตัวสูงกว่าเรตติ้งสูงสุดของซีซั่นแรก

สัมภาษณ์ทีมนักแสดงนำ ‘Tale of the Nine Tailed 1938’ ย้อนเวลาไปไกล พร้อมมุมมองที่ถูกขยาย สู่ ครอบครัว มิตรสหาย และประเทศชาติ

เรื่องย่อซีรีส์ : Tale of the Nine Tailed 1938 | เทพบุตรจิ้งจอกเก้าหาง 1938 (2023)

ใครคือ ‘YS’ และ ‘DJ’? : ส่องบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองเกาหลี ผ่านซีรีส์ Reborn Rich

ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage
 : facebook.com/korseries
Twitter
 : twitter.com/korseries
Website
 : korseries.com
Youtube 
: Korseries

ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡

Sources (1)(2)(3)(4)(5)(6)


Korupdate






เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อการตลาด

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก