The Heavenly Idol ซีรีส์รอมคอมสายฮาที่พ่วงมาด้วยความแฟนตาซี ใครที่กำลังมองหาอะไรเบาสมอง คลายเครียดแบบนี้ ทาง Korseries ขอแนะนำให้ตามมาเก็บกันให้ไว! ซึ่งเรียกได้ว่าผลงานชิ้นนี้เป็นแนวขายขำอีกเรื่องที่ คิมมินกยู ตกคนดูได้อยู่หมัด หนุ่มหล่อเจ้าของลักยิ้มสุดน่ารักที่ชวนใจละลาย ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทของ มหาปุโรหิตแรมบรารี่ หรือ ไอดอลอูยอนอู ก็ตาม ก่อนจะดูแนะนำให้เตรียมหมอนข้าง เพราะงานนี้มีเขินกันตัวบิด หยิกไปหยิกมาแน่นอน บอกเลยว่าเป็นอีกเรื่องที่คอซีรีส์ต้องไม่พลาด
“ต่อให้หดหู่ และเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน แต่ก็มีคนมากมายที่เติมพลังใจให้ตัวเองได้ ด้วยการดูรูปและวิดีโอของไอดอลคนโปรดค่ะ มันทำให้พวกเขามีพลังสู้ต่อไป และช่วยเยียวยาด้วยค่ะ”
คัมดัล (รับบทโดย โกโบกยอล)
รับชมซับไทย The Heavenly Idol แบบถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ Viu
The Heavenly Idol บอกเล่าเรื่องราวของ แรมบรารี่ (รับบทโดย คิมมินกยู) มหาปุโรหิตผู้มีอิทธิฤทธิ์และใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ในการเยียวยารักษาผู้คน ซึ่งเขาต้องคอยต่อสู้กับพญามารและปีศาจร้ายที่คิดจะทำลายโลกใบนี้ แต่ในระหว่างที่กำลังเผชิญหน้ากับพญามารอยู่นั้น ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขากลับอยู่ในร่างของ อูยอนอู ไอดอลหนุ่มผู้ตกกระป๋อง หนึ่งในสมาชิกบอยกรุ๊ปจาก Wild Animal ที่กำลังจะยุบวงในไม่ช้า แถมโชคชะตายังเล่นตลก เพราะเขาไม่สามารถกลับไปยังโลกที่ตัวเองจากมาได้ แรมบรารี่ก็เลยกลายมาเป็นไอดอลแบบจำยอม เจ้าของฉายา “ข้าเต้นไม่เป็น” ที่เล่นเอาสั่นสะเทือนไปทั้งวงการ!
แต่เมื่อเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น ไอดอลหนุ่มอูยอนอู ผู้ดูเหมือนกำลังจะตกกระป๋องก็กลับมาส่องแสงอีกครั้ง หลังจากทำชื่อติดอันดับคำค้นหาบนโลกออนไลน์ ถึงเจ้าตัวจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้วง Wild Animal ได้เดินหน้าต่อ มาลองกันอีกสักตั้ง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้มาเจอกับ คิมดัล (รับบทโดย โกโบกยอล) ผู้จัดการคนใหม่ที่มีความปรารถนาอันแรงกล้าว่าจะต้องปกป้องอูยอนอู ไอดอลหนุ่มสุดที่รักให้ได้กลับมาเปล่งประกายอีกครั้ง
แต่กลับกันอูยอนอูคนนี้นั้นกลับจำเธอไม่ได้ แถมยังสร้างเรื่องวุ่น ๆ มากมาย ผ่านตัวตนและชื่อใหม่อย่างแรมบรารี่ เธอจึงได้แต่ภาวนาขอให้เมนคนนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิม แล้วเพิ่มเติมคือทั้งคู่ต้องร่วมมือกัน เพื่อทำให้อูยอนอูคนเดิมได้กลับมา ตามคำสัญญาที่ตกลงกันเอาไว้ ว่าพวกเขาจะคืนร่างเดิมก็ต่อเมื่อทำให้วง Wild Animal คว้ารางวัลศิลปินแห่งปี ในงานประกาศรางวัล Korean Music Awards ซึ่งในสถานะปัจจุบันของวงตอนนี้เป็นเรื่องที่แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ
แรมบรารี่ที่ไม่มีแผนอื่นแต่อย่างใด ก็ต้องจำใจเดินหน้าต่อ รับหน้าที่เป็นยูนิคอร์นหล่อแบบเต็มตัว ถึงจะดูเป็นคู่คนละขั้ว แต่เจ้าตัวก็สู้ตาย ซึ่งทางฝั่งของพญามารและปีศาจร้ายก็ตามมาสร้างความวุ่นวายบนโลกมนุษย์อีกครั้ง งานนี้คือแรมบรารี่รับบทนำ เพราะทำทั้งหน้าที่ไอดอลที่ต้องร้องและเต้น ขณะที่ก็ไม่ละทิ้งความเป็นมหาปุโรหิตในตัวที่คอยเป็นห่วงเป็นใยผู้คน แล้วก็ไม่พ้นที่จะต้องมาต่อสู้กับปีศาจร้าย เรื่องราววุ่น ๆ มากมายของ บลูเบอร์รี่ (ชื่อเรียกแทนแรมบรารี่) กับ สาวกอันดับสี่ (ชื่อเรียกแทนคิมดัล) จึงเริ่มต้นขึ้น
โรคทางใจที่ไม่อาจรักษาได้ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์
น่าสนใจที่ในซีรีส์ได้นำเสนอเรื่อง ‘การเยียวยา’ ผ่านตัวละครออกมาได้อย่างดี โดยเฉพาะการออกแบบคาแรคเตอร์ ‘มหาปุโรหิต’ กับ ‘ไอดอล’ ที่เหมือนจะไม่มีอะไรเชื่อมโยงกัน แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองต่างเยียวยาผู้คนในรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งเรื่องราวได้พาตัวละครและผู้ชมได้เข้าใจถึงบาดแผลทางใจที่ไม่ง่ายจะรักษา ผ่านข้อจำกัดของ แรมบรารี่ ที่แม้จะเป็นมหาปุโรหิตที่สามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ในการเยียวยารักษาผู้คนได้ แต่พลังที่เขามีกลับไม่สามารถที่จะเยียวยาโรคทางใจได้เลย ขณะเดียวกัน ก็ได้ฉายภาพผ่านเบื้องหลังชีวิตของ คิมดัล ที่หากมองเพียงภายนอกนั้น เธอก็ดูมีความสุขเหมือนคนทั่วไป แต่แท้จริงแล้วภายในกลับเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำของ อูยอนอู สามารถที่จะเปลี่ยนอุโมงค์ที่มืดมนให้มีแสงสว่างขึ้นมา
แล้วเหตุผลที่ไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้ คือ เมสเสจดี ๆ มากมายที่ตอกย้ำว่าคำพูดและการมีอยู่ของใครบางคนสามารถโอบกอดและปลอบประโลมเราได้ อย่างบทบาทการเป็นไอดอล ที่สามารถเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของใครหลาย ๆ คน เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนเข้มแข็ง มีกำลังใจ และใช้ชีวิตต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ เดินหน้าต่อด้วยพลังแห่งความรัก เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่มีมุมมองที่เข้าใจความเป็นแฟนคลับได้เป็นอย่างดี เพราะความสุขง่าย ๆ ของเหล่าแฟนคลับ คือการได้เห็นไอดอลที่เรารัก มามอบพลังผ่านเสียงดนตรี เพียงแค่นี้ก็ช่วยชาร์จเอเนอร์จี้ และฮีลใจในวันที่บอบช้ำได้ดีมากแล้ว
เบื้องหลังโลกไอดอล K-POP
แน่นอนว่าด้วยเรื่องราวที่ตัวละครหลักเป็น ‘ไอดอล’ ซีรีส์จึงพาผู้ชมได้สัมผัสเบื้องหลังโลกไอดอล ที่ให้เห็นถึงความยากลำบากและภาพที่ไม่ได้สวยงามเหมือนหน้าจอ ทั้งการใช้ชีวิต ความเป็นอยู่ของไอดอล รายการวาไรตี้ที่มีการจงใจตัดต่อให้บิดเบือนไปจากความเป็นจริง การทำงานของค่ายบันเทิงที่ต้องคอยรับมือกับสารพัดความวุ่นวายที่เขามาแทบจะตลอดเวลา รวมถึง การที่ไอดอลจะต้องพบเจอกับความเห็นเชิงลบที่มีต่อชาวเน็ต หรือพบเจอกับข่าวลือผิด ๆ ที่ทำให้เสียหาย บางทีด้านที่โหดร้ายและเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของการเป็นไอดอล อาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ อูยอนอู ตัวจริง ไม่อยากจะกลับคืนร่างเดิมก็เป็นได้
แคสติ้งแบบเต็มสิบไม่หัก ชวนหลงรักทุกตัวละคร
ต้องขอชื่นชมการแคสติ้งนักแสดงเรื่องนี้ที่เลือกสรรนักแสดงมาได้สมบทบาทมาก ตั้งแต่ คิมมินกยู นักแสดงหนุ่มหล่อหน้าใสที่ถ่ายทอดภาพลักษณ์ความเป็นไอดอล ‘อูยอนอู’ ได้อย่างเนียน ซึ่งตรงกับประสบการณ์จริงของเจ้าตัวที่อดีตเคยเป็นศิลปินฝึกหัดในช่วงเวลาสั้น ๆ แถมเขายังมีเสียงร้องที่ไพเราะ และเคยเป็นไวรัลจากรายการ I Can See Your Voice มาแล้ว ขณะที่พาร์ทการเป็น ‘แรมบรารี่’ ในมาดอูยอนอู คิมมินกยู ยังมีจริตการแสดงที่เต็มไปด้วยความน่ารัก น่าเอ็นดู ระหว่างที่ตัวละครค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับโลกการเป็นไอดอล
ส่วนทางด้าน โกโบกยอล ก็ถ่ายทอดบทบาท คิมดัล ออกมาได้ดีเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะสีหน้าแววตาของเธอ ที่สื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างชัดเจน ทั้งความเป็นห่วงเป็นใยอูยอนอู หรือตอนที่ตัวละครแสดงออกความเจ็บปวดที่เก็บซ่อนไว้ภายในใจออกมา และเคมีของทั้งคู่นั้นเข้ากันดีสุด ๆ และมีหลายโมเมนต์ที่ดีต่อใจเอามาก ๆ
นอกเหนือจาก 2 นักแสดงนำที่ชวนติดตามอย่าง คิมมินกยู และ โกโบกยอล แล้ว ยังมีเหล่าหนุ่ม ๆ ที่ควรค่าแก่การหวีดมาก ๆ คือ เมมเบอร์จากวง Wild Animal ที่งานนี้ต้องบอกเลยว่ายิ้มแก้มแตกสุด ๆ ด้วยลุคหนุ่มสัตว์ป่าที่มาพร้อมออร่ากระแทกใจ ถ้าถามว่าเมนใคร ก็บอกไปเลยว่าหวีดทั้งวง!~
- ชเวจองซอ (รับบทโดย ฮงซึงบอม) ลีดเดอร์ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างเหลือล้น และเป็นที่พึ่งพาได้เสมอ
- ฮวังแทอิน (รับบทโดย ชินมยองซอง) หนุ่มโวคอลลุคแบดบอยที่หากยิ้มเข้าหน่อย ทำเอาเขินไม่ไหว
- แคซี่ (รับบทโดย ชเวแจฮยอน) หนุ่มที่มีบาดแผลในใจ และเป็นคนอ่อนไหวกับทุกสิ่งรอบตัว
- ชาแฮกยอล (รับบทโดย ชินกยูฮยอน) มักเน่น้องเล็กผู้เป็นความสดใส และเรียกรอยยิ้มทุกครั้งที่ปรากฏตัว
ว่าแล้วก็มาต่อกันที่โรดเมเนเจอร์คนล่าสุดอย่าง ผู้จัดการซาคัมแจ (รับบทโดย พัคซังนัม) ที่หล่อจนต้องปักหมุดกันเลยทีเดียว แต่บอกเลยว่างานนี้มีฮา เพราะขึ้นแท่นเป็นคู่แข่งทางสายตากับแรมบรารี่ เวลาเข้าซีนด้วยกันของ 2 คนนี้ เคมีคือได้มากกก เอ็นดูสุด ๆ
งานภาพคือดี OST โดนใจ เขินไม่ไหวเหมือนมีแรมบรารี่มานั่งข้าง ๆ
อีกหนึ่งซีรีส์แฟนตาซีที่งานภาพคือดี สวยแบบตาแตก! ทุกช็อตนี่แทบเหมือนจะเข้าไปนั่งเป็นผู้ชมในรายการแล้ว แค่ภาพยังไม่พอ เพลงประกอบนี่ก็โดนใจ เปิดฟังกี่รอบก็ยังไหว แล้วต้องเพิ่มเข้า Playlist ตลอด แล้วคือชอบทุกเพลง เพราะมากกก พอเอามาใส่กับเรื่องแล้วยิ่งเข้ากั๊นเข้ากัน แล้วทำเอาเขินเหมือนแรมบรารี่มานั่งข้าง ๆ บอกเลยว่าต้องตามมาฟังกันด่วน ๆ
Wild Animal พร้อมเสิร์ฟเรื่องราวสุดโรแมนติกแฟนตาซี เมื่อมหาปุโรหิตปราบปีศาจร้ายกลายเป็นไอดอลตกกระป๋อง กับภารกิจที่ต้องพิชิตอันดับ 1 ในวงการ K-pop ใน The Heavenly Idol สั่งเมนูไปพร้อมกันได้ ทุกวันพฤหัสบดี – ศุกร์ เวลา 05.40 น. โดยสามารถรับชมซับไทยแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ Viu
บทความโดย นักดูซีรีส์เกาหลี สามารถติดตามการรีวิวซีรีส์และภาพยนตร์เกาหลีอย่างมีอรรถรส ได้ที่เพจ นักดูซีรีส์เกาหลี
บทความที่เกี่ยวข้อง
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡