เพิ่งจบไปสดๆร้อนๆสำหรับงานแฟนมีตติ้ง 2017 PARK HAE JIN ASIA TOUR in Bangkok JIN’S HOUSE PARTY ที่จบลงอย่างสวยงามและสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆเป็นอย่างมาก
ในระหว่างที่ พัคแฮจิน มาที่ประเทศไทย พัคแฮจิน ได้ให้สัมภาษณ์สุด Exclusive กับทาง VIU Thailand ถึงงานแฟนมีตติ้ง ชีวิตส่วนตัว รวมถึงผลงานต่างๆของเขา โดยมี พิธีกรสาวสวย อลิส ทอย และ ล่ามภาษาเกาหลีชื่อดัง แจยอง มาดำเนินการสัมภาษณ์ในครั้งนี้
นับเป็นการมาจัดงานแฟนมีตติ้งในไทยเป็นครั้งที่ 2 ของพัคแฮจิน ซึ่งเขาได้เผยว่า ในครั้งแรกที่มาเมืองไทยเขารู้สึกตื่นเต้นมาก แต่สำหรับครั้งนี้เขารอคอยที่จะได้เจอกับแฟนๆทุกคน
ถ้านอกเหนือจากผลงานที่ทำให้แฟนๆหลงรักเขาแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่แฟนๆประทับใจในตัวแฮจิน คือการที่เขาเป็นคนที่อบอุ่น และ ชอบช่วยเหลือสังคม แฮจินเผยว่า สิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจที่จะหันมาทำเรื่องแบบนี้ ก็เพราะว่า เมื่อตอนที่เขายังเด็ก บ้านของเขาไม่ได้รวย ซึ่งเขาจำได้ว่าตัวเองเคยลำบากมาก่อน เขาจึงคิดตั้งแต่เด็กว่า ถ้าสมมติว่าวันใดวันหนึ่งโตขึ้นไปแล้วทำงานได้แล้ว ถ้าช่วยเหลือคนอื่นได้เขาก็อยากจะช่วย
เมื่อพูดถึง Role Model ในการใช้ชีวิต แฮจินบอกว่า เขาไม่ได้มีใครที่เป็น Role Model แค่คนๆเดียว แต่เขามีรุ่นพี่ที่เป็นนักแสดงทุกๆคน ซึ่งเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้เขาขยันทำงานเพื่อจะได้เป็นเช่นเดียวกับพวกเขา
แฮจิน ถูกถามว่า ถ้าหากว่าไม่ได้เป็นนักแสดง จะทำอาชีพอะไร แฮจิน ตอบไปว่า เขาเรียนจบด้านดีไซน์ผลิตภัณฑ์ ถ้าหากไม่ได้เป็นนักแสดงเขาคงจะทำงานด้านอาร์ต แต่เขาก็รู้สึกโชคดีที่ได้เป็นนักแสดงและไม่ได้ไปทางด้านนั้น
ในส่วนของบทบาทในละคร ที่แฮจิน คิดว่าใกล้เคียงกับเขามากที่สุด คือ คิมซอลอู ในละครเรื่อง Man x Man แฮจินบอกว่าตัวละครนี้ไม่ได้เหมือนกับเขาเป๊ะๆ แต่ว่าเขารู้สึกอินกับบทเหมือนว่าเป็นตัวตนเขาจริงๆ ซึ่งถ้าหากดูจากผลงานของแฮจินที่ผ่านมา เขามักจะรับบทผู้ชายที่ค่อนข้างแรงนิดหน่อย ถ้าหากมีโอกาส เขาอยากจะแสดงบทบาทที่เป็นผู้ชายอบอุ่นดู
เมื่อพูดถึงผลงานล่าสุดของเขา Cheese in the Trap ได้ถูกนำไปดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์ ซึ่งแฮจิน ก็ได้รับบท รุ่นพี่ยูจอง เช่นเดิม ในส่วนของความเหมือนและความแตกต่างนั้น แฮจิน เผยว่า จริงๆ Cheese in the Trap อ้างอิงมาจากเว็บตูนซึ่งมีหลายซีซั่น ซึ่งในเวอร์ชั่นละครจะทำจากซีซั่น 1 ส่วนเวอร์ชั่นภาพยนตร์ก็จะทำจากซีซั่น 1 เช่นเดียวกัน แต่ว่ามีความใกล้เคียงกับต้นฉบับมากกว่า
และไม่น่าเชื่อว่าผลงานเก่าๆของแฮจิน ทั้ง My Love From The Stars และ Doctor Stranger ติดอันดับ TOP20 ที่มีผู้เข้าชมผ่านทางแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ VIU มาตลอดทุกสัปดาห์ ซึ่งเมื่อพูดถึงผลงานละคร 2 เรื่องนี้ แฮจินถึงกับเอ่ยปากว่า มันนานมากแล้วนะครับ เขาจำได้เพียงแค่ว่า My Love From The Stars ถ่ายตอนที่หนาวมาก แล้ว Doctor Stranger ถ่ายช่วงที่ร้อนมากเช่นกัน
ก่อนจะจบบทสัมภาษณ์ แฮจิน ได้ทิ้งท้ายด้วยการฝากให้แฟนๆ รอติดตามชมผลงานละครเรื่องใหม่ของเขา “Four Men” ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่ท้าทายความสามารถด้านการแสดงของ พัคแฮจิน เป็นอย่างมาก เพราะเขาจะต้องแสดงเป็นคน 4 คน ในละครเรื่องเดียว จะเป็นอย่างไรต้องรอติดตามชมกันเร็วๆนี้ค่ะ