‘ยุนคเยซัง’ จับคู่เคมีดีงามกับ ‘ฮันเยริ’ ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความรัก
ที่จะสร้างเสียงหัวเราะร่วนตลอดเรื่อง พร้อมแจกชูรสซี๊ดแซ่บติดเรต
Love Guide for Dumpees หรืออีกชื่อว่า A Dramatic Night เป็นงานรอมคอมที่พล็อตดูจะไม่แปลกใหม่อะไร ชาย-หญิงที่ต่างถูกหักหลังจากคนรักแล้วมาเจอกัน เดาทางได้เลยว่าจะเกิดการดามใจรักกันเอง แต่ในรายละเอียด เมื่อเข้ามาดูแล้วจะรู้ว่า มันก็ไม่ธรรมดาหรือเชยจำเจนักหรอก เพราะมีทั้งความฮาน่ารักน่าเอ็นดูของเคมีพระนาง ความจิกกัดตลกร้ายในความรักหนุ่มสาวยุคนี้ที่ต้องดิ้นรนคู่ขนานทั้งการงานและความรัก และที่ดูจะเป็นจุดขายพิเศษชวนนำเสนอก็คือความฮาทะลึ่งหื่น ๆ สัปดี้สัปดน แถมฉาก Bed scene ติดเรตมาให้พอวาบหวิวอารมณ์ แต่กระนั้น แก่นสาระเนื้อหาก็ยังพอมีบ้างนะ ไม่ได้โหวงเหวงเอาแต่ขำเท่านั้น
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น ณ สถานที่จัดเลี้ยงแต่งงานของ คิมจุนซอก (รับบทโดย พัคบยองอึน) กับ มาจูยอน (รับบทโดย พัคฮโยจู) จู่ ๆ ก็ได้เกิดการต่อล้อต่อเถียงเล็ก ๆ ระหว่างชายหญิงคู่หนึ่งที่บริเวณฟู้ดไลน์บุฟเฟ่ต์ การเถียงกันนี้เกิดขึ้นเพราะ ‘ซูชิแซลมอนชิ้นสุดท้าย’ ที่ถูกชายหนุ่มกินไปด้วยอาการกึ่งเมากึ่งจิตตก และหญิงสาวที่ยื้อให้เขาชดใช้ซูชิเมนูโปรดนั้นด้วยการให้พาไปหาร้านกินซูชิให้เธอให้ได้ แต่ถึงจะได้กินและดื่มไปแล้ว สาวเจ้าก็ยังคะยั้นคะยอจะไปดื่มเหล้าที่บ้านเขาอีก และนั่นคือที่มาของการเกิดความสัมพันธ์แบบ One-night stand จนกลายเป็นคืน Dramatic ที่ตามมาด้วยชีวิตที่เปลี่ยนไปของทั้งคู่
ฝ่ายชาย คือ ยูจองฮุน (รับบทโดย ยุนคเยซัง) ครูสอนพละสัญญาจ้างที่ยังสอบครูไม่ผ่าน เลยได้แค่งานจ้างชั่วคราวสอนเด็กพิเศษที่บกพร่องทางการได้ยิน ชีวิตกาก ๆ เกรียน ๆ ต๊อกต๋อยดูไม่ค่อยจะมีอนาคต มีแต่หนี้ท่วมหัว แถมยังอยู่ห้องเช่าสตูดิโอเล็ก ๆ ทำให้เขาโดนสาวทิ้ง เขาเพิ่งโดนมาจูยอนเทด่วนเมื่อสองเดือนก่อนเพื่อหนีไปแต่งงานกับหมอหนุ่มคิมจุนซอก ทั้ง ๆ ที่จองฮุนเชื่อว่าเธออาจท้องลูกเขาอยู่ด้วยซ้ำ
ส่วนฝ่ายหญิง คือ จองซีฮู (รับบทโดย ฮันเยริ) ผู้กำลังฝึกฝนเป็นเชฟ เธอคืออดีตแฟนของหมอคิมจุนซอกที่ถูกหักหลังในคราวเดียวกันนั่นแหละ ซ้ำร้ายมาจูยอนยังเป็นคนใกล้ตัวของเธอ เป็นเพื่อนสนิทจากที่ทำงานที่เธอไปรับหน้าที่เป็นผู้ช่วย Food Stylist ให้กับนิตยสารอาหารซึ่งมาจูยอนเป็นหัวหน้าบก. ซีฮูจึงปวดกระดองใจหนักจนเธอคิดสั้น คืนนั้นเธอวางแผนไปฆ่าตัวตายที่บ้านของจองฮุนเพื่อเป็นการแก้แค้นจุนซอก โดยที่จองฮุนไม่รู้เรื่องรู้ราวเพราะเขาก็จำเธอไม่ได้
หลังจากเธอมอมเหล้าจองฮุนไปจวนได้ที่แล้ว พอดีเพื่อนสนิทของจองฮุน ด็อกแร (รับบทโดย โจบ๊กแร) ก็ดันมาหาซะอย่างนั้น ระหว่างที่จองฮุนออกไปสกัดเพื่อนไม่ให้เข้าบ้าน ซีฮูก็ซัดสารพัดยาที่เตรียมมาเป็นกำ ๆ ประมาณว่ากวาดมาหมดบ้านที่มี กะนอนรอความตาย แต่จังหวะตายยังไม่มาเพราะจองฮุนกลับเข้ามาก่อน ความเคลิ้มเหล้าเคลิ้มยา บรรยากาศพาไปสารพัด จึงทำให้ทั้งสองคนเกิดสปาร์คจนได้ One-night stand (คู่นอนคืนเดียว) กันขึ้นมา
เช้าวันต่อมา จองฮุนพบซีฮูแน่นิ่งจึงรีบพาส่งโรงพยาบาล ทำให้ต้องตกกระไดพลอยโจนไปกับหมอ (รับบทโดย คิมอึยซอง) ว่าพวกเขาเป็นแฟนกัน แม้ว่าหลังจากนั้นทั้งคู่ตั้งใจจะแยกย้าย แต่ก็มีความรู้สึกบางอย่างที่ต่างติดใจกันลึก ๆ จึงตกลงจะเป็นคู่นอนกันต่อ ย้ำ! ไม่ใช่คู่เดตนะ ไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรวุ่นวาย แค่นับไปตามสแตมป์สะสมแต้มกาแฟ คูปองครบ 10 สแตมป์เมื่อไหร่ คือจบกัน นั่นหมายความว่า พวกเขาจะมาเจอกัน หลังดื่มกาแฟแล้วก็ไปขึ้นเตียงให้ครบอีก 9 ครั้ง!
จากนั้นจึงเข้าสู่ช่วงเวลาของการพัฒนาความสัมพันธ์ และการหาคำตอบว่า สรุปแล้วทั้งคู่แค่เข้าขาดี๊ด๊าเรื่องเซ็กส์หรือเปล่า? และเซ็กส์จะนำไปสู่ความรักได้ไหม ปัจจัยเสริม ปัจจัยฉุดมีอะไรบ้าง ก็ต้องตามไปดูกัน
ในเรื่องเราจะได้พบกับมุกขำเกรียน ๆ ที่มีความครีเอทีฟ น่ารัก เข้ากับบุคลิกของจองฮุนและซีฮูมากมาย ทั้งซีฮูเรียกจองฮุนว่า ‘นายสามจุด’ หรือ ‘นายถุงยาง’ ซึ่งมีที่มาที่ไปที่บรรยายได้ฮามาก ความช่างคิดของการแปลงคำว่า ‘คลิ-ตอริส’ (Clitoris = ปุ่มกระสัน) เป็น ‘คริ-สมาส’ (Christmas) จะได้ลดความกระดากปากลง แหม! ทำทีเป็นดัดจริตไปงั้นแหละ ปกติจองฮุนหลุดคำลามกโจ๋งครึ่มได้มากกว่านี้เยอะเลย หรือสมการแปลกแต่จริงที่ว่า ‘เมื่อผู้ชาย + ผู้หญิง – ถุงยาง ผลลัพธ์จะเท่ากับเด็กทารก’ ก็เป็นความตลกร้ายที่อดขำตามไม่ได้เหมือนกัน
ยังไม่หมดแค่นี้ ยังมีการปลอดปล่อยคำสบถด่าอย่างสะใจอีก อย่าง ‘เดี๋ยวแม่หักจู๋ทิ้งซะเลย‘ ก็เป็นการ healing จิตใจที่ดีเหมือนกัน ไหนจะการแช่งชักร้ายแรงระดับที่ว่า ‘ขอให้เมิงปวดขี้ราด หาห้องน้ำไม่เจอ ขาล้มเผละลงบนกองขี้‘ โอ..คิดได้ไง (ขำ) แม้กระทั่งการสบถด่าด้วยภาษามือ ก็ชวนขำน่าเอ็นดูมาก และอื่น ๆ อีกมากมายที่ดูแล้วรับประกันความขำท้องแข็ง! (ผู้เขียนต้องขออภัยที่ใช้ศัพท์ตรงไปตรงมา จะได้เข้าถึงอารมณ์หนังค่ะ)
ฮันเยริ แสดงได้น่ารักมาก มีความใสแบ๊วแต่บ้าบิ่นข้างใน และในความแบ๊วก็ซ่อนความเซ็กซี่และเสน่ห์ดึงดูดมาก ความสุดโต่งระดับอยากมีเซ็กซ์ที่สเตเดียมสนามฟุตบอล โอโมะ! ช่างเกินกว่าที่จองฮุนจะคาดถึงอีก ส่วน ยุนคเยซัง ก็ถ่ายทอดความกาก ๆ เกรียน ๆ ได้เนียนดี แต่เวลาที่เขาสื่อความจริงใจออกมาแบบไม่รู้ตัวก็ยังชวนหลงรักได้ง่าย ๆ เหมือนกัน บางอารมณ์ทั้งคู่ก็ดูน่าสงสาร ฟิลหัวอกชาว Dumpee เหมือนกัน มาดามใจกันเอง น่าเชียร์ดีค่ะ ส่วนตัวเลยชอบชื่อเรื่อง Love Guide for Dumpees มากกว่า A Dramatic Night ได้ฟิลดี
คำถามขำ ๆ เป็นการบ้านหลังดูจบ คิดว่าลูกในท้องของจูยอนเป็นลูกใคร? มีคำใบ้ซ่อนอยู่ในเรื่องถ้าดูอย่างละเอียด ส่วนข้อคิดจากคำถามปลายเปิดที่ทิ้งท้ายคือ รักกับเซ็กส์เหมือนไก่กับไข่ไหม อะไรมาก่อนกัน การจะชอบใครสักคนคือรักหรือเพราะอยากมีอะไรด้วย สาระสำคัญมันอยู่ตรงไหน … มาทำวันนี้ให้ดีที่สุดกันดีกว่า Carpe diem!
ดูเหมือนว่าหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นจากผลสำรวจจริงที่น่าสนใจ (ณ ยุคนั้น) ซึ่งพบจากหนุ่มสาวเกาหลีว่า 47.1% จากจำนวนชายโสดและหญิงโสด 2,113 คนเคยมีประสบการณ์ One-night stand, 36.1% ที่มีประสบการณ์ One-night stand นัดเจอกันต่อ และมี 9% ที่เกิดการเดตจริงต่อหลังจากเหตุ One-night stand
ตัวอย่างภาพยนตร์
ติดตามบทความรีวิวอื่น ๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡