Racket Boys (แร็กเก็ต บอยส์) ซีรีส์ฟีลกู๊ดสุดอบอุ่นหัวใจ ที่นำความฝันของเด็กวัยมัธยมต้นผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยไฟที่จะก้าวไปเป็นนักแบดมินตันทีมชาติ มาร้อยเรียงเล่าผสมผสานไปกับวิถีชีวิตของชาวบ้านในหมู่บ้านที่เต็มเปี่ยมไปด้วยข้อคิดดี ๆ ในทุกตอน มาถึงตรงนี้แล้ว คงไม่พูดถึงไม่ได้ว่าเอกลักษณ์หนึ่งของซีรีส์เรื่องนี้คงหนีไม่พ้น ทีมนักแสดงหลักที่ล้วนเป็นมีอายุไม่ถึง 20 เลยสักคนเดียว ทำให้บรรยากาศของทีมเด็กแบดถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนพวกเขาคือตัวละครตัวนั้นเองจริง ๆ
นักแสดงหลาย ๆ คนอาจจะเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้าง เพราะถึงแม้จะอายุยังน้อยแต่ผลงานแต่ละคนคือปังมาก! ไปดูกันเลยดีกว่าว่าพวกเขามีผลงานอะไรก่อนหน้า Racket Boys ให้ได้กลับไปติดตามบ้าง ~
1. ทังจุนซัง รับบทเป็น ‘ยุนแฮกัง’
คนแรกที่จะพูดถึงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ทังจุนซัง นักแสดงดาวรุ่งที่กำลังถูกจับตามองจากความสำเร็จในบท ‘ฮันกือรู’ จากซีรีส์ Move To Heaven (2021) เด็กหนุ่มวัย 20 ปีที่มีอาการแอสเพอร์เกอร์ (เป็นความบกพร่องของพัฒนาการ จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับออทิสติก) และมีปัญหาในการเข้าสังคม การแสดงของทังจุนซังในเรื่องนี้ แม้จะต้องขึ้นมารับบทนำและต้องแสดงเป็นผู้ป่วยที่มีลักษณะของโรคค่อนข้างเฉพาะ แต่ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีอย่างไร้ที่ติ กลายเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่น่าจับตามองทันที
หลังจาก Move To Heaven จบไปไม่นาน ทังจุนซังก็ได้พิสูจน์ความสามารถด้านการแสดงของเขาให้เป็นที่ประจักษ์อีกครั้งจากบท ‘ยุนแฮกัง’ ใน Racket Boys (2021) เด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ทางด้านกีฬา มักหัวร้อนและขี้โวยวายอยู่ตลอด แต่ก็เป็นคนที่อ่อนโยนและคอยเอาใจใส่คนรอบข้างเสมอ
ทังจุนซัง เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2546 เป็นลูกเสี้ยวเกาหลี – จีน – มาเลเซีย โดยคุณพ่อเป็นชาวจีน-มาเลเซีย ส่วนคุณแม่เป็นชาวเกาหลี ปัจจุบันอายุ 18 ปี เริ่มเข้าวงการตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จากการแสดงละครเวทีเรื่อง Billy Elliot Musical หลังจากนั้นทังจุนซังก็เดินสายแสดงละครเวทีอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะ Elizabeth, Mozart, Les Miserables, Empress Myeongseong, Assassins, Hamlet, Kinky Boots และ Seopyeonje เมื่อเริ่มโตขึ้นทังจุนซังก็เริ่มเบนสายการแสดงจากละครเวทีมาสู่จอแก้ว โดยเริ่มจากการแสดงซีรีส์เด็กในปี 2014 เรื่อง Pluto Secret Order (2014) และ เดบิวต์ในวงการภาพยนตร์ในปี 2016 จากเรื่อง A Melody To Remember (2016)
เรียกได้ว่าตั้งแต่เข้าวงการ ทังจุนซังก็งานเข้ามาเรื่อย ๆ อย่างไม่ขาดสายเลย แม้จะพักงานละครเวทีไปแต่งานภาพยนตร์และซีรีส์ก็เข้ามาตลอด และเพิ่มระดับความปังทางการแสดงของทังจุนซังอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผลงานภาพยนตร์ ได้แก่ POUR (2017), Seven Years of Night (2018), YoungJu (2018), Birthday (2019) และ The King’s Letters (2019) และผลงานซีรีส์ได้แก่ ซีรีส์แนวการแพทย์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆนอกเหนือจากหมอ อย่าง A Poem a Day (2018) และซีรีส์รักโรแมนติกข้ามพรมแดน Crash Landing On You (2019) ในบท ‘กึมอึนดง‘ น้องเล็กของแก๊งสหายผู้กองจากเกาหลีเหนือ
สามารถติดตามทังจุนซังได้ทาง Instagram ส่วนตัว @t_js0813
2. คิมคังฮุน รับบทเป็น ‘อียงแท’
มาต่อกันที่นักแสดงเด็กอนาคตนักแสดงแถวหน้าของเกาหลีอย่างน้อง ‘คิมคังฮุน’ กันบ้าง คิมคังฮุนเป็นนักแสดงที่อายุน้อยที่สุดในทีมแบด (ถ้าไม่นับน้องแฮอินน้องสาวตัวเล็กของแฮกัง) แต่ความสามารถทางการแสดงของน้องนั้นกลับสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมาอย่างยาวนาน คิมคังฮุนเกิดวันที่ 7 มิถุนายน 2552 ปัจจุบันอายุ 12 ปี แต่อายุในวงการบันเทิงของน้องกลับมากถึง 8 ปี !!
คังฮุนเดบิวต์จากการเข้าร่วมรายการวาไรตี้ Mom and Dad from Today (오늘부터 엄마아빠) ในปี 2013 โดยเข้าไปเป็น 1 ในลูกของจอนฮยอนมูและชิมยองที่กลายมาเป็นคู่รักสเหมือนจริง หลังจากนั้น 1 ปีคังฮุนก็เดบิวต์ในฐานะนักแสดงเต็มตัวทันทีจากซีรีส์เรื่อง Pride and Prejudice (2014) ในบทคิมชาน
หลังจากนั้นงานในวงการบันเทิงก็หลั่งไหลเข้าน้องคังฮุนอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะรายการวาไรตี้ ซีรีส์ หรือภาพยนตร์ ซึ่งผลงานของน้องในแต่ละสายบอกเลยว่าเยอะมาก!!!!!
แค่รายการวาไรตี้ที่เคยเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 17 รายการ ทั้งรายการ The Return of Superman Ep.323, Men on a Mission (Knowing Brothers) Ep.212, Omniscient Interfering View Ep.115-116, Happy Together SS 4 Ep.59 & 62, Hometown Flex Ep.6 นอกจากนี้เซ้นส์วาไรตี้ของน้องที่ไม่ว่าจะไปรายการไหนก็ช่วยสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานให้รายการ ก็ส่งผลให้คังฮุนสามารถคว้ารางวัล Rookie Award บนเวที 2020 MBC Entertainment Awards มาครองได้สำเร็จ
ในสายภาพยนตร์ น้องก็ได้ฝากผลงานการแสดงไว้เยอะมากไม่แพ้กัน อาทิเรื่อง Because I Love You (2017), Lucid Dream (2017), Cheese in the Trap (2018), Exit (2019) และ Metamorphosis (2019) ซึ่งในเรื่องนี้คังฮุนรับบทเป็น ‘อูจง‘ ลูกชายคนเล็กสุดของครอบครัวบาทหลวงจุงซู ครอบครัวที่มีปีศาจที่สามารถเปลี่ยนหน้าได้แฝงตัวเข้ามาอยู่ในบ้าน
ในด้านซีรีส์บอกเลยว่า ถ้าใครที่เป็นคอซีรีส์แบบจัดหนักจะต้องคุ้นเคยหน้าน้องเป็นอย่างดีแน่นอน เพราะผลงานซีรีส์ของน้องมีไม่ต่ำกว่า 20 เรื่อง!! อย่างน้อยต้องมีซัก 2 – 3 เรื่องบ้างแหละที่ผ่านตากันมาบ้าง อาทิเรื่อง Please Come Back, Mister (2016), My Wife’s Having An Affair this Week (2016), Criminal Minds (2017), Mr. Sunshine (2018), Hotel Del Luna (2019), Kingdom 2 (2020), Startup (2020) และ 18 Again (2020)
โดยซีรีส์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับคังฮุนเป็นอย่างมากคือซีรีส์แห่งปีที่กวาดรางวัลมานับไม่ถ้วนอย่าง When The Camellia Blooms (2019) ในบท ‘คังพิลกู‘ ลูกชายวัย 8 ขวบของทงแบค ที่คังฮุนได้แสดงให้เราเห็นถึงความสับสนของเด็กประถมที่ทั้งขาดความรักจากพ่อและพยายามจะโตเกินวัยเพื่อปกป้องแม่ของเขา ซึ่งจากการแสดงอันยอดเยี่ยมในบทคังพิลกูก็ส่งให้น้องคังฮุนคว้ารางวัล Best Child Actor จากเวที 2019 KBS Drama Awards และรางวัล Male Child Actor จากเวที 2021 Brand Customer Loyalty Awards Announced มาครองได้อย่างสมมง
และในปีนี้นอกจากเรื่อง Racket Boys (2021) ในบท อียงแท น้องน้อยของทีมที่มีความรู้ด้านแบดมินตันอย่างเต็มเปี่ยม แต่ดันพูดมากพูดไม่หยุดและมีอียองแดเป็นไอดอล คิมคังฮุนยังได้ฝากผลงานในซีรีส์สืบสวนสอบสวนสุดปั่นประสาทสับขาหลอกอย่าง Mouse (2021) อีกด้วย ในซีรีส์เรื่องนี้ คิมคังฮุนรับบทเป็น ‘จองแจฮุน‘ เด็กที่มียีนส์ไซโคพาธ จนนำไปสู่พฤติกรรมเกินคาดอย่างการผ่าท้องกระต่ายออกดูเพราะสงสัยว่ามีอะไรอยู่ในท้อง ซึ่งก็เป็น 2 บทที่มาต่อกันแต่กลับพลิกบทบาทแทบจะ 360 องศา เล่นเอาเปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทันเลยทีเดียว
สามารถติดตามคิมคังฮุนได้ทาง Instagram ส่วนตัว @kanghoon.juwon
3. ชเวฮยอนอุค รับบทเป็น ‘นาอูชาน’
คิวต่อไปเป็นของชเวฮยอนอุค หนุ่มหน้ามนที่ตกใจคนดูได้เต็ม ๆ ไม่ว่าจะปรากฎตัวในเรื่องไหน ฮยอนอุคเกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2545 ปัจจุบันอายุ 19 ปี จบการศึกษามาจากโรงเรียนชื่อดังอย่างโรงเรียน Hanlim Multi Art School ปัจจุบันสังกัดอยู่ค่าย Gold Medalist ค่ายเดียวกันกับ คิมซูฮยอน, ซอเยจี และ คิมแซรน
ชเวฮยอนอุค เดบิวต์ในปี 2019 จากเว็บดราม่าเรื่อง Real Time Love Season 1 ในบท ‘มุนเยชาน‘ พระเอกของเรื่อง และยังรับบทมุนเยชานต่อใน Real Time Love Season 2 – 4 (2020) อีกด้วย
หลังจากนั้นฮยอนอุคก็รับบท ‘โนเยจุน‘ ในเว็บดราม่าเรื่อง Pop Out Boy! (2020) โดยเยจุนเป็นเพื่อนสนิทที่คบกันมานานถึง 5 ปีของ ฮันซอนนยอ นางเอกของเรื่อง แต่เยจุนดันคิดไม่ซื่อหลงรักเพื่อนสนิทตัวเองซะอย่างนั้น
จนมาถึงปีนี้ฮยอนอุคก็กระโดดเข้ามาเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีส์เรื่อง Taxi Driver (2021) ในบท ‘พัคซึงแท‘ หัวโจกสุดแสบในโรงเรียนที่มักจะรุมกลั่นแกล้งเพื่อนอย่างโหดร้ายเสมอ จนสุดท้ายก็โดนพี่แท็กซี่คิมโดกีจัดการคิดบัญชีแค้นอย่างสาสม
แม้ในเรื่องนี้ฮยอนอุคจะเป็นเพียงนักแสดงรับเชิญที่ออกมาไม่กี่ตอน แต่การแสดงที่ทำให้คนดูต้องกำหมัดแน่นกับความเลวและความกวนเกินอายุของซึงแท ทำให้ฮยอนอุคกลายเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวางและถูกพูดถึงเป็นวงกว้างด้วยเช่นกัน
หลังจาก Taxi Driver จบไปไม่นานฮยอนอุคก็กลับมาอีกครั้งกับซีรีส์ Racket Boys (2021) ในบทของ ‘นาอูชาน‘ ไนซ์กายประจำทีมที่รู้จักคนไปทั่วประหนึ่งทะเบียนราษฎร์เคลื่อนที่ คลั่งเพลงฮิปฮอป และเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวทหาร ตัวเขามีนิสัยอบอุ่น ละเอียดอ่อน และสนิทกับยงแทน้องเล็กมากที่สุด ซึ่งในเรื่องนี้ฮยอนอุคก็ได้พลิกบทบาท 360 องศาไม่ต่างจากน้องคังฮุนเลยเลย จากเด็กสุดแสบกลายมาเป็นไนซ์กายที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็รัก ปังจริง ๆ !!!
สามารถติดตามชเวฮยอนอุคได้ทาง Instagram ส่วนตัว @choiiii_
4. ซนซังฮยอน รับบทเป็น ‘บังยุนดัม’
ในที่สุดก็มาถึงกัปตันของเราซักที! ซนซังฮยอนในเรื่องนี้รับบทเป็น ‘บังยุนดัม‘ กัปตันทีมที่มีความรับผิดชอบสูง ด้วยผลพวงจากการเป็นลูกคนโตของบ้านที่มีน้องมากถึง 5 คน เขามีความใฝ่ฝันอันสูงสุดคือจะต้องมียอดฟอลโลเวอร์ในอินสตาแกรมให้ถึง 100,000 คนให้ได้ ของคู่ใจที่อยู่ข้างกายกัปตันคนนี้ตลอดเลยเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากโทรศัพท์!
ซนซังฮยอน เกิดเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2545 ปัจจุบันอายุ 19 ปี อยู่สังกัด Awesome Entertainment สังกัดเดียวกันกับ พัคซอจุนและคิมยูจอง เดบิวต์เมื่อปี 2016 จากซีรีส์เรื่อง Oh My Geum Bi
หลังจากนั้นก็มีงานซีรีส์เข้ามาเรื่อย ๆ ไม่ขาดสาย แม้จะเป็นเพียงบทรับเชิญก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง First Love Again (2016), Return of Fortunate Bok (2017), Two Cops (2017), Dr Romantic 2 (2020) แต่การแสดงที่ทำให้ซนซังฮยอนเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นมาจากการแสดงจากเว็บดราม่าเรื่อง Falling in Love (2019) ในบทคังพารัง และ Triple Fling ss1 – 2 (2019) ในบท ซงจีโฮ
นอกจากงานซีรีส์แล้ว ซนซังฮยอนยังมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง A Special Lady (2017), House of Hummingbird (2019) ในบท ‘แดฮุน‘ พี่ชายของอึนฮี และ The Fault Is Not Yours (2019) ในบท ‘ยงจู‘ ภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของครูที่รู้สึกผิดต่อการฆ่าตัวตายของนักเรียนในอดีตและพยายามที่จะเป็นครูที่ดีให้กับนักเรียนของเขาอีกครั้ง
และซนซังฮยอนยังมีผลงานแสดงมิวสิควีดีโอเพลง Hoppipolla ของ Enough ในปี 2020 อีกด้วย
สามารถติดตามซนซึงฮยอนได้ทาง Instagram ส่วนตัว @04s_sy
5. คิมมินกี รับบทเป็น ‘จองอินซล’
มาถึงสมาชิกคนสุดท้ายที่เข้ามาเสริมทัพความน่ารักให้กับทีมแบดอย่าง ‘จองอินซล‘ ที่รับบทโดย คิมมินกี เด็กเนิร์ดบ้านรวยที่เข้ามาเป็นกุนซือประจำทีม เป็นน้องน้อยที่น่ารักน่าหยิกทุกตอนจากความใส ๆ เนิร์ด ๆ ของเจ้าตัว
คิมมินกี เกิดวันที่ 22 พฤศจิกายน 2545 ปัจจุบันอายุ 19 ปี อยู่สังกัด HM Entertainment มินกีเดบิวต์เมื่อปี 2020 จากบทนักแสดงรับเชิญในเว็บดราม่าเรื่อง The Temperature Of Language: Our Nineteen และ Pop Out Boy! หลังจากนั้นมินกีก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทันทีจากบท ‘อิมจูยอง‘ น้องชายตัวแสบของอิมจูกยอง ในซีรีส์ดัดแปลงจากเว็บตูนสุดฮิต True Beauty (2020) ตัวละครที่ทำเอาฮาหนักมากทุกครั้งที่ออกมา
สามารถติดตามคิมมินกีได้ทาง Instagram ส่วนตัว @mingi_1122
ประวัติของทั้ง 5 คนเรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลย! ทุกคนผ่านงานแสดงมามากมายก่อนจะมาเผยฝีมือใน Racket Boys เสริมทัพกันและกันให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าดูมากยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากนี้ก็มาร่วมติดตามพวกเขาไปด้วยกันนะคะ~
บทความที่เกี่ยวข้อง
รีวิวซีรีส์ Racket Boys | การวิ่งตามความฝันสุดอบอุ่นหัวใจของเหล่านักแบดมินตันรุ่นเยาว์
ชาวเน็ตว้าว นักแสดงเด็ก ‘คิมคังฮุน’ เติบโตขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
เรื่องย่อซีรีส์ : Racket Boys | แร็คเก็ต บอยส์ (2021)
บทความโดย โชว์มีเดอะซีรีส์ สามารถติดตามการวิเคราะห์เจาะลึกประเด็นต่างๆในซีรีส์และการวิเคราะห์ตอนต่อตอนได้ทางเพจ โชว์มีเดอะซีรีส์
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries