ในวันที่ 27 เมษายน 2021 แฟน ๆ ภาพยนตร์และซีรีส์เกาหลีได้ร่วมแสดงความยินดีกับ ‘ยุนยอจอง’ นักแสดงอาวุโสคนสำคัญของวงการ ผู้รับบทเป็น คุณยายซุนจา ในภาพยนตร์เรื่อง Minari ได้สร้างประวัติศาสตร์สำคัญด้วยการคว้ารางวัลนักแสดงสมสบหญิงยอดเยี่ยม จากเวทีใหญ่อย่าง 93rd Academy Awards มาครอบครอง ซึ่งเธอนับเป็นนักแสดงเกาหลีคนแรกของประเทศ ที่ได้ครอบครองรางวัลด้านการแสดงจากเวทีออสการ์
หากคุณเป็นคนที่ติดตามข่าวสารบันเทิงเกาหลีอยู่แล้ว คุณอาจเคยรับชมผลงานของ ยุนยอจอง อาจไม่ใช่เพียง 1 หรือ 2 เรื่อง เพราะตลอดระยะเวลากว่า 54 ปีที่เธอก้าวขาเข้ามาอยู่ในวงการ นักแสดงมากฝีมือคนนี้มีผลงานทั้งซีรีส์ ภาพยนตร์ และรายการมากมาย ซึ่งทั้งหมดนั้น ล้วนส่งให้ทักษะทางการแสดงของเธอโดดเด่นไม่เป็นรองใคร และยังทำให้เธอคู่ควรกับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีระดับโลกได้อย่างไร้ข้อกังขา
คอลัมน์ SPOTLIGHT คราวนี้จึงจะขอพาทุกคนย้อนไปดูประวัติการทำงาน (หนัก) ของ ยุนยอจอง ว่ากว่าจะถึงวันที่ก้าวขาขึ้นรับรางวัลการแสดงที่เธอว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ยุนยอจอง ผู้อุทิศทั้งชีวิตให้กับการแสดงเคยมีผลงานอะไรฝากไว้บ้าง เชื่อเถอะว่า ต้องมีเรื่องในใจของคุณอยู่ในรายชื่อต่อไปนี้แน่นอน
ยุนยอจอง (Youn Yuh-jung) เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ปี 1947 ปัจจุบันอายุ 73 ปี (นับแบบสากล) ที่เมืองแคซอง ประเทศเกาหลีเหนือ ก่อนที่เธอจะย้ายมาเติบโตที่โซล เข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมในโรงเรียนสตรีอีฮวา ก่อนจะศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮันยาง (Hanyang University) ในสาขาภาษาและวรรณคดีเกาหลี
หลังจากผ่านการออดิชันการนักแสดงในสังกัด Tongyang Broadcasting Company หรือช่อง TBC ในปี 1966 ยุนยอจอง เลือกดรอปเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อมามุ่งมั่นสู่เส้นทางการเป็นนักแสดงเต็มตัว และในปีต่อมา เธอก็ได้ปรากฏตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกด้วยผ่านละครโทรทัศน์เรื่อง Mister Gong (1967) และเดบิวต์ผลงานภาพยนตร์ ในเรื่อง Woman of Fire (1971) ของผู้กำกับคิมกียอง เมื่อปี 1971 ซึ่งแม้ว่าจะเป็นผลงานเรื่องแรก แต่การแสดงอันน่าประทับใจก็ส่งให้ยุนยอจองก็คว้ารางวัลจากเวทีใหญ่ ทั้ง Sitges Film Festival, Blue Dragon Film Awards และ Grand Bell Awards มาครอบครอง ขณะเดียวกันทางฝากฝั่งซีรีส์ เธอก็ได้สวมบทบาทระดับตำนาน อย่างบท พระสนมจางฮีบิน ในซีรีส์ Jang Hui-bin เวอร์ชั่นที่ออกอากาศทางช่อง MBC ในปีเดียวกันอีกด้วย
เมื่อก้าวแรกในวงการประสบความสำเร็จอย่างเกินความคาดหมาย ยุนยอจอง จึงกลายเป็นนักแสดงสาวดาวรุ่งที่น่าจับตา อีกทั้งเธอยังมีโอกาสได้ร่วมงานกับผู้กำกับและทีมงานคุณภาพอีกมากมาย จึงส่งให้เธอเป็นนักแสดงแถวหน้าของวงการได้ในเวลาไม่นานหลังเริ่มต้นอาชีพ แต่หลังจากที่เธอถึงจุดพีคของวงการไม่นาน ในปี 1974 ขณะที่ ยุนยอจอง อายุ 27 ปี เธอได้แต่งงานกับ โจยองนัม ศิลปินชื่อดังที่มีความสามารถรอบด้านทั้งการเป็นนักร้อง นักวาดภาพ และทั้งคู่ได้ตัดสินใจย้ายจากเกาหลีไปเริ่มต้นชีวิตครอบครัวกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ชีวิตครอบครัวของเธอกลับพบกับสิ่งที่ไม่คาดคิด เพราะการกระทำที่ไม่ซื่อสัตย์ของสามี ทำให้เธอตัดสินใจหย่าร้างหลังใช้ชีวิตร่วมกันนานกว่า 10 ปี และเดินทางกลับมายังเกาหลีใต้ พร้อมลูกชาย 2 คน
อย่างไรก็ตาม การหวนคืนวงการในวัย 38 ปีของเธอไม่ใช่สิ่งที่สามารถรับมือได้ง่าย ๆ ท่ามกลางสังคมเกาหลีใต้ที่ในเวลานั้นมีอคติอย่างรุนแรงต่อผู้หญิงที่หย่าร้าง ซึ่งผู้หญิงที่หย่าร้างแล้วในเวลานั้น เหมือนเป็นการปิดตายให้กับการอาชีพการทำงานเป็นนักแสดง
“มันเป็นอะไรที่แย่มาก เพราะว่าทุกคนลืมเกี่ยวกับฉัน และฉันกลายเป็นผู้หญิงที่หย่าร้างในเกาหลี ย้อนกลับไปในเวลานั้น การหย่าร้างเป็นเหมือนตราบาป ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงหัวรั้น เธอควรจะเชื่อฟังสามีและเธอควรที่จะยึดมั่นในสัญญาที่แต่งงานกันสิ เธอทำลายคำมั่นสัญญานั้น ฉะนั้นฉันจึงไม่ได้รับโอกาสในการออกโทรทัศน์ หรือโอกาสในการได้งานเลย ฉันกลายเป็นซิงเกิลมัม และต้องออกไปหางานทำ และไม่มีใครให้งานฉันทำเพราะว่าฉันเป็นคนที่หย่าร้าง มันเป็นช่วงเวลาที่แย่มาก ฉันจึงพยายามแสดงไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหนก็ตาม เพียงเพื่อเลี้ยงดูลูกชาย 2 คนของฉัน ฉันไม่สนในศักดิ์ศรีว่าตัวเองเคยเป็นใครมาก่อนตอนที่ฉันเข้าวงการ และเคยเป็นดาราเมื่อ 20 ปีก่อน ทุกอย่างมันผ่านไปหมดแล้ว ฉันคิดว่าได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างมากตั้งแต่ช่วงเวลานั้น” ยุนยอจอง เคยเผยความในใจผ่านบทสัมภาษณ์ ถึงชีวิตหลังการหย่าร้างที่ยากลำบาก ซึ่งเธอเกือบจะถอดใจหวนคืนเส้นทางการแสดง แต่แล้วเพื่อนคนหนึ่งของเธอ นักเขียนบทโทรทัศน์ คิมซูฮยอน ได้ให้กำลังใจและความเชื่อมั่นกับเธอว่าเธอสามารถนำชื่อของเธอกลับมาอีกครั้งได้ และในที่สุด ยุนยอจอง ก็สามารถทำได้จริง ๆ
ทันทีที่เธอกลับมาเดินหน้าสู่อาชีพนักแสดง ทักษะทางการแสดงเหนือชั้นของเธอก็ถูกปลุกขึ้นมา ยุนยอจอง ค่อย ๆ ลับคมมีดการแสดงของเธอ ด้วยบทบาทที่หลากหลาย และกลับมายืนหยัดอย่างมั่นคงในวงการบันเทิงเกาหลี
ต่อไปนี้คือลิสต์รายชื่อผลงานของยุนยอจอง ไล่เรียงลำดับก่อน-หลัง แยกประเภททั้งภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และรายการวาไรตี้
ภาพยนตร์
- Woman of Fire (1971)
- The Insect Woman (1972)
- Love and Hatred (1973)
- Tto Sun Yi, a College Girl (1973)
- The Day and Night of a Korean-American (1978)
- Mother (1978)
- Be a Wicked Woman (1990)
- An Experience to Die For (1995)
- A Good Lawyer’s Wife (2003)
- Springtime (2004)
- The President’s Last Bang (2005)
- Maundy Thursday (2006)
- The Old Garden (2007)
- Hwang Jin-yi (2007)
- A Tale of Legendary Libido (2008)
- Actresses (2009)
- Hahaha (2010)
- The Housemaid (2010)
- Hindsight (2011)
- List (2012)
- The Taste of Money (2012)
- In Another Country (2012)
- Behind the Camera (2013)
- Boomerang Family (2013)
- Hill of Freedom (2014)
- Salut d’Amour (2015)
- Intimate Enemies (2015)
- Right Now, Wrong Then (2015)
- Canola (2016)
- The Bacchus Lady (2016)
- Keys to the Heart (2018)
- Lucky Chan-sil (2019)
- Beasts Clawing at Straws (2020)
- Minari (2020)
- Heaven: To the Land of Happiness (2021)
ละครโทรทัศน์
- Sleepless Tree (MBC, 1989)
- What is Love (MBC, 1991)
- How Is Your Husband? (SBS, 1993)
- Crush (KBS2, 1998)
- Did We Really Love? (MBC, 1999)
- Tough Guy’s Lov (KBS, 2000)
- Hotelier (MBC, 2001)
- Stock Flower (KBS, 2001)
- Soon-Ja (SBS, 2001)
- My Love (KBS2, 2002)
- Ruler of Your Own World (MBC, 2002)
- Over the Green Fields (KBS2, 2003)
- Million Roses (KBS, 2003)
- War of the Roses (MBC, 2003)
- Ireland (MB, 2004)
- Love and Sympathy (SBS, 2005)
- Be Strong, Geum-Soon! (MBC, 2005)
- A Farewell to Sorrow (KBS2, 2005)
- Love Truly (MBC, 2006)
- Hearts of Nineteen (KBS, 2006-2007)
- Foxy Lady! (MBC, 2006)
- To My Love (SBS, 2007)
- The Daughters-in-Law (KBS2, 2007-2008)
- Chun Ja’s Happy Events (MBC, 2008)
- Worlds Within (KBS, 2008)
- The Road Home (KBS, 2009)
- No Limit (MBC, 2009)
- Golden Fish (MBC, 2010)
- Home Sweet Home (MBC, 2010)
- Can You Hear My Heart (MBC, 2011)
- My Husband Got a Family (KBS2, 2012)
- The King 2hearts (MBC, 2012)
- The Queen’s Classroom (MBC, 2013)
- Wonderful Days (KBS2, 2014)
- The Producers (KBS2, 2015)
- Dear My Friends (tvN, 2016)
- Never Twice (MBC, 2019-2020)
รายการวาไรตี้
- Sister Over Flowers (tvN, 2013)
- Youn’s Kitchen (tvN, 2017-2018)
- All The Butlers (SBS, 2018)
- Youn’s Stay (tvN, 2021)
จากผลงานมากมายกว่า 70 รายการของ ยุนยอจอง นอกจากเธอจะรับแสดงในบทบาทที่หลากหลาย ท้าทาย และมีสไตล์ที่โดดเด่นออกมาจากขนบนิยมของเกาหลี ส่งให้เธอกลายเป็นนักแสดงเกาหลีที่มีรางวัลจากเวทีระดับประเทศมากมายไว้ในครอบครอง สำหรับผลงานเรื่องล่าสุด Minari ภาพยนตร์สัญชาติเกาหลี-อเมริกัน ซึ่งเธอรับเป็น คุณยายซุนจา อีกหนึ่งส่วนผสมแสนลงตัวที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างความประทับใจให้แฟน ๆ และนักวิจารณ์ทั่วโลก ที่สำคัญ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นบันไดก้าวสำคัญ ที่ทำให้เธอได้ขึ้นรับรางวัลสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ในปี 2021 อีกด้วย
ในฐานะคนที่ติดตามและสมัครเป็นแฟนคลับคุณ ยุนยอจอง มาพักใหญ่ ๆ เรามีลิสต์รายชื่อผลงานบางส่วนที่อยากชวนทุกคนไปติดตาม แล้วคุณจะหมดข้อกังขาว่าทำไมเธอถึงเป็นนักแสดงเกาหลีคนแรกที่ได้หอบถ้วยออสการ์กลับบ้าน
เริ่มด้วยผลงานแรกเอาใจแฟน ๆ คอซีรีส์กับ Dear My Friends (tvN, 2016) ซีรีส์ฟีลกู๊ดเล่าเรื่องกลุ่มคนวัยเกษียณที่ตั้งคำถามถึงการมีอยู่ของชีวิต มิตรภาพ และความสัมพันธ์ ในเรื่องนี้ ยุนยอจอง รับบทเป็นคุณป้าสาวโสดผู้ขยันขันแข็งและยังสดใสแข็งแรง การันดีความดีงามของบท ภาพประกอบ และทุกองค์ประกอบในเรื่องด้วยการคว้ารางวัลใหญ่จาก 53rd BaekSang Arts Awards และจากอีกหลายเวทีใหญ่ระดับประเทศ
สำหรับใครที่เคยชินกับ ยุนยอจอง ในบทบาทนักแสดง และอยากเห็นเธอในมุมอื่น ๆ บ้าง แนะนำให้ติดตามรายการวาไรตี้เหล่านี้ทั้ง Sister Over Flowers (tvN, 2013) รายการพาสาว ๆ สูงวัย แต่หัวใจยังแข็งแรงออกท่องเที่ยวไปในต่างประเทศ หรือในรายการ Youn’s Kitchen (tvN, 2017-2018) โดย PD นายองซอก กับการมอบหน้าที่ให้ยุนยอจองเป็นประธานบริหารร้านอาหารในต่างแดน พาทีมงานในร้านซึ่งก็เป็นคนดังขาประจำทั้ง อีซอจิน จองยูมิ พัคซอจุน บินลัดฟ้าไปเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ บนเกาะไกลถึงอินโดนีเซียและสเปน
และผลงานรายการวาไรตี้ล่าสุดของ ยุนยอจอง ที่เพิ่งออกอากาศจบไปกับ Youn’s Stay (tvN, 2021) โปรเจกต์ต่อเนื่องมาจาก Youn’s Kitchen เนื่องจากสถานการณ์โรค COVID-19 ทีมงานจึงปรับรูปแบบรายการจากทำร้านอาหารในต่างแดนเป็นเปิดที่พักสำหรับชาวต่างชาติ ด้วยความคิดที่ว่า ชาวต่างชาติที่มาเกาหลีในช่วงนี้อาจไม่ค่อยได้สัมผัสวัฒนธรรม อาหาร หรือธรรมชาติที่แท้จริงของเกาหลี Youn’s Stay จึงเกิดขึ้นมาเพื่อให้พวกเขาให้รู้จักเกาหลีในมุมมองที่ชัดเจนและสัมผัสได้จริง ซึ่งในรายการนี้ นอกจากจะได้ ชเวอูชิก มาเสริมทัพให้กิจการแล้ว เรายังจะได้เห็น ยุนยอจอง สนทนาภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติด้วยความคล่องแคล่วอีกด้วย
และอีกหนึ่งผลงานที่อยากให้ทุกคนได้รับชมมากที่สุด คือรายการ All The Butler ตอนที่ 8 ซึ่ง ยุนยอจอง เป็นแขกรับเชิญหรือเป็นเจ้านายในรายการ เพราะแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต ความคิด ไปจนถึงมุมมองที่มีต่ออาชีพนักแสดง ซึ่งถ้าได้ย้อนกลับไปดูในตอนนี้จะพบว่า ยุนยอจองมุ่งมั่นและตั้งใจให้กับอาชีพนักแสดงมาตลอด และทั้งหมดจึงเป็นเหตุผลที่ส่งให้เธอได้ก้าวขึ้นสู่เวทีออสการ์อย่างสง่างามในวันนี้
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡